คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ตัดสินคืนเหรียญทอง ปัญจกีฬา และ ทศกรีฑา โอลิมปิก 1912 ที่สต๊อกโฮล์มคืนให้กับ จิม ธอร์ป นักกีฬาสหรัฐอเมริกา หลังการแข่งขันล่วงเลยมา 110 ปี
ธอร์ป เดินทางกลับจากสวีเดนในฐานะนักกีฬาสายเลือดอินเดียนแดงคนแรกที่ได้เหรียญ โอลิมปิกเกมส์ แต่หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน ไอโอซี ตัดสินใจริบเหรียญรางวัลเนื่องจากมองว่า ธอร์ป ทำผิดกฎของนักกีฬาสมัครเล่นในเวลานั้น โดยรับเงินคาจ้างจากการเล่นเบสบอลระดับท้องถิ่นในช่วงหน้าร้อน 2 ฤดูกาลเป็นเงิน 250 เหรียญสหรัฐในเวลานั้น ก่อนที่เขาจะหันไปเล่นกีฬาหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น เบสบอลอาชีพกับ นิวยอร์ก ไจแอนต์, อเมริกันฟุตบอล ระดับอาชีพในเอ็นเอฟแอล จนติดทีมออลสตาร์ และ ฮอกกีน้ำแข็ง แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเหยียดเชื้อชาติตลอดชีวิต ก่อนที่เจ้าตัวจะเสียชีวิตในปี 1953 ด้วยวัย 65 ปี
กระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงปี 1982 หรือ 29 ปีหลังการเสียชีวิต ไอโอซีได้มอบเหรียญรางวัลให้ครอบครัวของธอร์ป แต่สถิติในการแข่งขันกลับไม่ได้รับการรับรองให้เป็นผู้ชนะแต่อย่างใด โดยให้ครองเหรียญรวมกับอันดับ 2 ทั้งสองรายการ และล่าสุด “ไบรต์ พาธ สตรอง”กลุ่มที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของ จิม ธอร์ป เรียกร้องสิทธิ์ครองเหรียญทองแต่เพียงผู้เดียวคืนให้กับธอร์ป และได้ยื่นเรื่องไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกของสวีเดนและนอร์เวย์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ปรากฎว่า ทั้งสององค์กรตอบกลับมาและประกาศให้ จิม ธอร์ป เป็นผู้ครองเหรียญทองโอลิมปิก 1912 แต่เพียงผู้เดียว ทั้งในประเภท ปัญจกรีฑา และ ทศกรีฑา
“เรารู้สึกขอบคุณที่เราได้คืนความยุติธรรมจากเหตุการณ์ 110 ปีได้แล้วและจะไม่มีข้อกังขาต่อการเป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของเขาอีกต่อไป” เนดรา ดาร์ลิง ผู้ก่อตั้งกลุ่มเผย