ไม่ว่ามองไปยัง “ชลบุรี” ไม่ว่ามองไปยัง “ลำปาง” ล้วนสะท้อนนัยยะทางการเมือง
ภาพที่เห็นจากชลบุรีผ่านการเข้าร่วมงาน “โรดโชว์” ครั้งแรกของพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันตัวตนและกระแสนิยมอย่างเด่นชัด
เป็นผลงานที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น มีส่วนในการสรรค์สร้าง
ขณะเดียวกัน ภาพแห่งความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง “ซ่อม” ที่ลำปาง ท่ามกลางชัยชนะอย่างชนิดถล่มทลายของพรรคเสรีรวมไทย
กระทบโดยตรงไปยัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ นายสุชาติ ชมกลิ่น จึงมาบรรจบกันอีก
รู้ทั้งรู้ว่ารากฐานที่มาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ นายสุชาติ ชมกลิ่น เคยและดำรงอยู่ภายในเส้นทางของพรรคพลังประชารัฐแนบแน่น
เพียงแต่ ณ วันนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อยู่พรรคเศรษฐกิจไทย
ขณะเดียวกัน เส้นทางที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น ดำรงอยู่ เป็นเส้นทางที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เคยรับผิดชอบหากว่ายังอยู่พรรคพลังประชารัฐ
เท่ากับ นายสุชาติ ชมกลิ่น ทับเส้นทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ความสำเร็จของ นายสุชาติ ชมกลิ่น มาพร้อมกับความล้มเหลวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
เห็นได้จากภายหลังสถานการณ์เดือนกันยายน 2564 เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
บทบาทของ นายสุชาติ ชมกลิ่น ก็สูงขึ้น
สูงขึ้นในสถานะที่ไม่เพียงแต่ยืนข้าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น หากแต่ยังได้รับความไว้วางใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
อยู่ในฐานะ “เส้นเลือดใหญ่” คนใหม่
จากนี้จำเป็นต้องจับตาไปยังญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
สถานะของ นายสุชาติ ชมกลิ่น จะดำรงอยู่อย่างไร และผลสะเทือนจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะมีมากน้อยเพียงใดต่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น
เส้นทางที่ทาบและทับกันจึงทรงความหมาย