น้ำตาท่วม! เผาศพหนุ่ม 16 เหยื่อรถแข่งพุ่งชนดับ ไร้เงาผู้จัดการแข่งมาร่วมงาน

Home » น้ำตาท่วม! เผาศพหนุ่ม 16 เหยื่อรถแข่งพุ่งชนดับ ไร้เงาผู้จัดการแข่งมาร่วมงาน


น้ำตาท่วม! เผาศพหนุ่ม 16 เหยื่อรถแข่งพุ่งชนดับ ไร้เงาผู้จัดการแข่งมาร่วมงาน

น้ำตาท่วม! เผาศพหนุ่ม 16 เหยื่อรถแข่งพุ่งชนดับ เพื่อนร่ำไห้ ส่งวิญญาณ ไร้เงาผู้จัดการแข่งมาร่วมงาน แม่เผยผู้ว่าฯ เป็นห่วง ถามถึงเรื่องเงินเยียวยา

วันที่ 7 ก.ค.65 ที่วัดควนสวรรค์ หมู่ 8 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ช่วงบ่ายวันนี้ มีพิธีฌาปนกิจศพ นายมณฑล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนน้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง หลังไปดูการแข่งขันรถจยย.ทางเรียบการกุศล “กะพังโรดเรดซิ่ง” บริเวณสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ แต่รถแข่งเกิดเสียหลัก พุ่งชน นายมณฑล จนเสียชีวิต และจากเหตุการณ์นี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 7 คน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งในวันนี้ ทั้งครูและเพื่อนนักเรียนนับร้อยชีวิตต่างเดินทางไปร่วมไว้อาลัย โดยเพื่อนๆ ได้เขียนบันทึกไว้ในไดอารี่และเผาไปพร้อมกัน รวมทั้งร่วมร้องเพลงไว้อาลัยและเล่นกีตาร์หน้าศพ ท่ามกลางความเสียใจของบรรดาเพื่อนๆ ที่พากันร่ำไห้ตลอดเวลา ก่อนจะนำรถจยย.คู่ใจของ นายมณฑล ทะเบียน กภ-4632 ตรัง ซึ่งเป็นรถที่ตาของ นายมณฑล ซื้อให้ เพื่อให้ขี่ไปโรงเรียน มาที่งานศพด้วย

โดยศพของ นายมณฑล ได้เผาบนเชิงตะกอน เนื่องจากที่วัดควนสวรรค์มีพิธีเผาศพพร้อมกัน 2 ศพ แต่มีเมรุแค่เมรุเดียว โดยเพื่อนๆ นำรถจยย.เกือบ 30 คัน มาร่วมพิธีเผาศพและเบิ้ลเครื่องรถเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นเวลา 3 นาที เพื่อไว้อาลัย ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของบรรดาเพื่อนๆ ที่มาร่วมพิธี

ด้าน น.ส.ลัดดาวัลย์ หีดเภา แม่ของ นายมณฑล กล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งตัวเลขเรียกค่าชดเชยว่าเท่าไหร่ ก็ยังรอผู้จัดงานมาคุยอยู่ โดยเมื่อวานนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้มาเยี่ยมและถามว่าได้เงินเยียวยาบ้างหรือยัง ตนบอกว่าได้แล้ว 1 แสนบาท แต่ตนไม่ได้บอกผู้ว่าฯ ว่าเรื่องเงียบไป เพราะตนนึกว่าผู้จัดงานจะเข้ามาคุยวันนี้ แต่ก็ไม่ได้มา และไม่มีตัวแทนมาพูดคุยอะไร

อยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนจัดงานว่า ให้มีความปลอดภัยมากกว่านี้ เพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเหมือนลูกชายตน เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกถ้าสนามไม่มีความปลอดภัย ตอนนี้ตนก็พยายามทำใจให้เข้มแข็งที่สุด เพื่อให้น้องไปสบาย น้องเป็นเด็กดีอยากให้น้องไปสบาย ไม่มีห่วง ซึ่งวันนี้เพื่อนของน้องมาให้กำลังใจเยอะ ตนรู้สึกดีใจ และรู้สึกภูมิใจแทนน้อง ถือว่าน้องได้ทำหน้าที่ดีที่สุดจนถึงวินาทีสุดท้ายแล้ว

ด้าน น.ส.ภวิภา อายุ 16 ปี เพื่อนนักเรียน กล่าวว่า รู้สึกใจหายเพราะ อาทิตย์ที่แล้วยังอยู่ด้วยกัน พอมาอาทิตย์นี้ต้องจากกัน ตนรู้สึกผูกพันกับเพื่อนคนนี้มาก แม้ว่าจะได้เรียนด้วยกันในชั้น ม.4 พอได้รู้จักแล้วรู้สึกดีใจเพราะเขาเป็นคนมีน้ำใจกับเพื่อน ขอใช้อะไรได้หมดทุกอย่าง และไม่เคยทิ้งเพื่อน ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ทำให้รู้สึกใจหายและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันแรกที่ทราบข่าวว่าโอกาสรอด 50% ก็ยังมีความหวังแต่พอไม่ปั๊มหัวใจต่อ ก็รู้สึกเสียใจ ซึ่งเตือนตัวเองได้ว่า เวลาจะไปดูการแข่งขันอะไรก็ต้องเซฟตัวเองให้มากขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ