ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานเปิดศูนย์มวยไทยวัดธาตุทอง วันที่ 8 ก.ค. ด้าน “บังมาด” นายกสมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติถกกทท.ช่วยเหลืออดีตนักมวย

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้มวยไทยโรงเรียนวัดธาตุทอง วันที่ 8 ก.ค. เวลา 17.00 น. ที่วัดธาตุทอง ตามคำเชิญของ “บังมาด” สามารถ มะลูลีม นายกสมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ นอกจากนี้ยังหารือดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. แก้ไขระเบียบการขึ้นทะเบียนนักมวยไทย หลังอดีตนักมวยที่เจ็บป่วยประสบความเดือดร้อน ไม่สามารถขอรับการช่วยเหลือจากกกท. ได้

“บังมาด” นายสามารถ มะลูลีม นายกสมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ (IMSA) เผยว่า สมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ ได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตวัฒนา จัดงานเปิดศูนย์การเรียนรู้มวยไทยโรงเรียนวัดธาตุทอง (เรือนเขียวสะอาด) ที่วัดธาตุทอง เขตวัฒนา วันที่ 8 ก.ค. เวลา 17.00 น.

โดยสมาคมได้เรียนเชิญ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งภายในงานจะมีการออกร้านอาหารให้บริการแก่ผู้ที่มาร่วมงาน รวมทั้งอดีตนักมวยชื่อดังในอดีต และ “เพชรพลอย ม.กรุงเทพธนบุรี” หรือ น.ส.แพรพลอย แซ่เอี้ย สาวอดีตนักมวยคลิปดังฉายา “ขวาท่อนซุง” จะมาร่วมงานด้วย

นายสามารถ กล่าวอีกว่า เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา สมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ ได้จัดโครงการ “กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของมวยไทยโลก” เพื่อเชิดชู อนุรักษ์ สืบสาน พัฒนา ส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปะมวยไทยไปสู่ระดับนานาชาติ ดังนั้นศูนย์การเรียนรู้มวยไทยโรงเรียนวัดธาตุทอง จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและส่งเสริมให้มวยไทยโลกให้แพร่หลาย

นอกจากนี้ “บังมาด” เผยอีกว่า ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตนเองใได้เข้าหารือกับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถึงการแก้ไขระเบียบการขึ้นทะเบียนนักมวย ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะขอให้ยกเลิกการตรวจประวัติอาชญากรรม ซึ่งบางคนอาจมีความผิดเพียงเล็กน้อย แต่มีประวัติอาชญากรรมติดตัวอยู่

ขอเพียงแค่มีผู้รับรองในวงการมวยที่เชื่อถือได้น่าจะเพียงพอแล้ว นักมวยอยากขึ้นทะเบียนอีกมากมาย แต่ติดอยู่ที่มีขั้นตอนเยอะ ยกตัวอย่างเช่น ป้อมเพชร นราตรีกุล อดีตนักมวยไทยชื่อดังที่ป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก แต่เคยมีคดีแต่พ้นโทษมา 10 กว่าปีแล้ว ยังขึ้นทะเบียนไม่ได้ แม้จะนอนป่วยแต่กกท.ให้การช่วยไม่ได้

“กรณีของป้อมเพชร น่าเห็นใจมาก เพราะว่าครอบครัวเดือดร้อนมาก ผมและกลุ่มรวมใจเพื่อนสามารถ ได้รวบรวมเงินส่วนตัวช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้แก่ ป้อมเพชร 108,000 บาท สำหรับนักมวยที่ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว กรณีเสียชีวิต จะได้รับเงินค่าปลงศพรายละ 15,000 บาท และถ้ามีอาการเจ็บป่วยใน 48 โรค ตามระเบียบ ก็สามารถขอรับการช่วยเหลือจากกกท.ได้”

“แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นทะเบียนทุกอย่างก็จบ ไม่สามารถขอรับการช่วยเหลือได้เลย มีนักอดีตนักมวยที่ต้องการขึ้นทะเบียนอีกเป็นจำนวนมาก ขนาดยอดมวยไทยในอดีต เช่น วังจั่นน้อย ส.พลังชัย, หลังสวน พันธุ์ยุทธภูมิ, นำพล หนองกี่พาหุยุทธ ยังขึ้นทะเบียนไม่ได้ สังคมต้องให้โอกาสกันถึงอยู่กันได้” นายสามารถ กล่าว