เปิดคำให้การเจ้าของดารุมะ รับเครียดจัด คิดว่าหนีก็คงไม่รอด ก่อนตัดสินใจกลับไทย ทนแรงกดดันไม่ไหว ประกอบกับไม่อยากหนีไปตลอดชีวิต
เมื่อเวลา 14.30น.วันที่ 22 มิ.ย.ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) พร้อม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 บก.ปคบ.,พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปอศ.และ พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ.
ร่วมแถลงผลการจับกุมนายเมธา ชลิงสุข ประธานกรรมการบริหารบริษัทดารุมะ ซูชิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังชักชวนผู้เสียหายหลายรายมาทำกิจการแฟรนไชส์ร้านซูชิ แต่ไม่สามารถเปิดทำการได้เนื่องจากขาดวัตถุดิบ กระทบถึงลูกค้าที่ซื้อเวาเชอร์บุฟเฟ่ต์ปลาแซลม่อน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งการให้ตำรวจสอบสวนกลาง สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาอย่างรวดเร็ว พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายที่มาแจ้งความแล้ว 100 ราย และแจ้งความออนไลน์อีก 300 ราย แต่รวมผู้เสียหายตามจริงได้หลักพันราย ก่อนจะขอศาลอาญา ออกหมายจับได้ช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมประสานหน่วยงานระหว่างประเทศ พบว่าเจ้าตัวได้เดินทางออกไปเปลี่ยนเครื่องที่สหรัฐเอมิเรสต์ เพื่อไปยังปลายทางที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วกลับมาที่ไต้หวัน ก่อนกลับมาถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยในเวลา 11.00น.
จากการสอบถามเบื้องต้น นายเมธา ระบุได้ทำธุรกิจอาหารแล้วเกิดปัญหาสภาพคล่องตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด มีหนี้สินกว่าร้อยล้านบาท จึงขายเวาเชอร์ออนไลน์ราคา 199 บาท ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าความเป็นจริง สามารถทำยอดขายได้วันละ 1 ล้านบาท เพื่อนำเงินเข้าระบบให้ประคองธุรกิจต่อไปได้ แต่ท้ายสุดก็ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไป จึงตัดสินใจหลบหนีไป แล้วถูกกดดันจากหลายทางจึงตัดสินใจกลับไทย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าร้านซูชิ ได้เริ่มขายเวาเชอร์ออนไลน์เมื่อปี 2563 อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวไม่ได้ประสานมามอบตัวเอง แต่เชื่อว่าจะกลับมาสู้คดี ซึ่งตำรวจมั่นใจว่ามีหลักฐานที่จะดำเนินคดี โดยการจับกุมสามารถยึดเงินสดติดตัวได้ 20,816 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 710,000 บาท พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินในบัญชีธนาคารหลักแสนบาท หากตรวจพบเส้นทางการเงินเพิ่มเติมจะพิจารณาแจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่มเติม โดยตำรวจจะนำตัวฝากขังต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ พร้อมสั่งคัดค้านการประกันตัว เบื้องต้นพบผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว
รายงานข่าวแจ้งว่า แนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีปัญหาหนี้สินจากการประกอบธุรกิจ และไม่สามารถหาเงินไปชำระค่าวัตถุดิบต่างๆ ทำให้ผู้ผลิตสินค้าและนำมาจำหน่ายให้กับบริษัท ไม่ส่งของเข้ามา จนเป็นเหตุให้ร้านไม่สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้
รายงานข่าวแจ้งว่าอีก จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีบริษัทดารุมะ ซูชิ กว่า 303,447,243 บาท ส่วนความเสียหายพบว่ามียอดขายคูปองเวาเชอร์ผ่านแอพฯ 174,177 ใบ ลูกค้ากว่า 33,002 คน คิดเป็นมูลค่า 27,070,915 บาท และมูลค่าความเสียหายจากผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์มาทำธุรกิจ อีก 17,500,000 บาท เบื้องต้นร้านดารุมะ มีทั้งหมด 27 สาขา เป็นของผู้ต้องหา 10 สาขา ของผู้เสียหายอีก 17 สาขา
รายงานข่าวแจ้งว่า จากคำให้การตอนหนึ่งของผู้ต้องหายอมรับว่า ที่ตัดสินใจกลับมาเมืองไทย เนื่องจากเห็นข่าวผ่านทางโซเชียลว่า หลังจากผู้เสียหายมาแจ้งความ ตำรวจก็เร่งทำคดีจนมีการขอศาลออกหมายจับ พร้อมประสานตำรวจต่างประเทศ เพื่อให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี จนผู้ต้องหารู้สึกเครียดมาก คิดว่าหนีอย่างไรก็คงไม่รอด เเละทนแรงกดดันไม่ไหว ประกอบกับไม่อยากหนีไปตลอดชีวิต ทำให้ตัดสินใจกลับมาไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย