หนุ่มสุดทน มีคนเอาลูกมาเลี้ยงที่ออฟฟิศ เด็กแย่งโทรศัพท์ พังของลูกค้า ทำไงดี?

Home » หนุ่มสุดทน มีคนเอาลูกมาเลี้ยงที่ออฟฟิศ เด็กแย่งโทรศัพท์ พังของลูกค้า ทำไงดี?


หนุ่มสุดทน มีคนเอาลูกมาเลี้ยงที่ออฟฟิศ เด็กแย่งโทรศัพท์ พังของลูกค้า ทำไงดี?

หนุ่มสุดทน ตั้งกระทู้ขอคำปรึกษา มีคนเอาลูกมาเลี้ยงที่ออฟฟิศ เด็กดื้อชอบกรี๊ดใส่หน้า แย่งโทรศัพท์ พังของลูกค้า ทำไงดี?

หลาย ๆ คนคงจะมีปัญหาเรื่องหาคนที่ไว้ใจได้เลี้ยงลูกให้ยากจึงต้องพาลูกไปเลี้ยงที่ทำงาน ซึ่งกลายเป็นกระแสที่ถกเถียงกันมาเนิ่นนานว่าเป็นเรื่องเหมาะสมและสร้างความเดือดร้อนแก่พนักงานคนอื่น ๆ หรือไม่

ล่าสุด มีชาวพันทิปตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เพื่อสอบถามความคิดเห็นของชาวเน็ต หลังเจอเพื่อนร่วมงานนำลูกมาเลี้ยง แต่เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าวจนเป็นเหตุให้ของเสียหายและทำงานลูกค้าพัง ระบุ “เมื่อคนในที่ทำงานเอาลูกมาไว้ในบริษัท ความวุ่นวายและน่ารำคาญจึงเกิดขึ้น”

“น้อมรับทุกความคิดเห็น ไม่โกรธกันแสดงความคิดเห็นมาได้เลย ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จขกท.ไม่ค่อยเอ็นดูเด็กเท่าไหร่แต่จะมีบางคนที่เออน่ารักอยากเข้าหา หรืออีกความหมายนึงคือไม่ชอบเด็ก (บางคน) เรื่องมีอยู่ว่า มีอยู่คนนึงเอาลูกประมาณ 3 – 4 ขวบเป็นเด็กผู้ชายมาไว้ที่ทำงาน เพราะที่บ้านก็มีคนเลี้ยงให้แต่ไม่ยอมฝากเลี้ยง ไม่รู้ทำไม”

“ซึ่งก็เข้าใจในความเป็นเด็กอ่ะเนอะว่าต้องมีซนเป็นธรรมดา แต่เด็กคนนี้พูดไม่ค่อยชัดแต่รู้เรื่องทุกอย่างนะแต่นี่มันเกิดเด็กแล้ว เรื่องของนิสัยเลย เป็นเด็กติดโทรศัพท์มาก คนที่ทำงานจับโทรศัพท์หรือคุยโทรศัพท์จะต้องเดินเข้าไปหาทุกคนแล้วก็ไปยืนพูดอยู่ข้าง ๆ ในทำนองขอ โวยวาย เสียงดังใส่ผลักเก้าอี้ แล้วก็พูด ๆ คือทุกคนก็ต่างทำงานกันไม่ได้มีเวลามาเลี้ยงดูให้ (ส่วนตัวผู้ปกครองของเด็กคนนี้ออกไปส่งงานข้างนอกแล้วก็ปล่อยให้ลูกอยู่ในบริษัท)”

“บางคนก็คุยเล่นด้วย บางคนก็เอาสมุดระบายสีมาให้ แต่ก็ไม่ยอม วาดรูปเล่นก็ไม่ ร้องแต่จะเอาโทรศัพท์อย่างเดียว ด้วยความที่ผมสงสารผมก็เอาโทรศัพท์ของบริษัทให้ไปดูการ์ตูน อ่ะก็เงียบ สักพักนึงมีลูกค้าโทรเข้ามาแล้วพี่ข้างโต๊ะบอกว่า หนูขอโทรศัพท์คืนหน่อยเร็ว เด็กคนนี้ก็ยังคงนิ่งไม่ยอมคืน นอนดูต่อ โทรศัพท์จากลูกค้ายังคงดังต่อ พูดดีครั้งที่สองก็ไม่ยอมคืน เงยขึ้นมามองหน้า ทำตาจิกแรง ๆ ใส่ ทำตาขวางใส่แบะปากจะแหกปากร้อง”

ทำให้เจ้าของกระทู้ทำอะไรไม่ถูก แต่จำเป็นต้องหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อรับสายลูกค้า ซึ่งเจ้าของกระทู้ยังสละโทรศัพท์ของตนเองเพื่อไม่ให้เด็กสร้างปัญหาไปมากกว่านี้ ทว่าผ่านไปไม่นานมีสายเข้าจากโทรศัพท์ “ผมหันไปมองแล้วนั่งดูสิว่าเด็กคนนี้จะทำยังไง เด็กคนนี้ก็ยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติงใด ๆ พูดกับเด็กว่า ขอคืนนะ พูดดี ๆ ขอดี ๆ ไม่ยอม ทีนี้ผมเลยจะไปดึงออกจากมือ”

ปรากฏว่าเด็กโยนโทรศัพท์ให้ผม แถมทำกิริยามองแล้วจิกตาใส่ไม่พอใจ แล้วพูด ๆ ตะโกนใส่ ซึ่งฟังไม่รู้เรื่องเพราะเด็กคนนี้ น่าจะพัฒนาการช้า พูดไม่ชัดฟังไม่รู้เรื่องเลย ผมนี่สะตั้นกับพฤติกรรมของเด็กคนนี้เลย คือทางบ้านเขาสอนมายังไงอ่ะ”

“คนในบริษัทก็มีคนพูดเตือนกับผู้ปกครองของเด็กคนนี้นะ แต่เหมือนเขามองว่า ก็แล้วทำไมอ่ะ เด็กก็คือเด็กอ่ะ ซนตามเรื่องตามราวปกติมั้ย แล้วไม่เอาโทรศัพท์ให้มันดูการ์ตูนล่ะ เจอประโยคนี้ตอกหน้ากลับมานี่อึ้งเลย ก็พอได้คำตอบแล้วว่าพฤติกรรมและนิสัยของเด็กทำไมถึงก้าวร้าวอย่างนี้”

“เด็กชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอกไปลานจอดรถ รถจะชนตาย ให้มานอนเล่นอยู่ข้างในแอร์เย็น ๆ ไม่ยอมอยู่ เรียกเข้ามาก็ไม่ยอมเข้ามา เถียงใส่ แล้วก็ไปปีนของที่จะส่งให้ลูกค้าเล่นไม่พอเอาน้ำเอาข้าวไปเทใส่ของ ๆ ลูกค้า เละเทะหมดเลย ซึ่งพี่ ๆ ในบริษัทเอือมระอานะ (ผมแอบได้ยินเขาพูดกระซิบกัน)”

ไม่ใช่แค่นั้น เด็กคนนี้ยังปีนโต๊ะ พอมีคนเตือนก็ไม่ฟัง เถียงฉอด ๆ เอาเท้าไปเหยียบคีย์บอร์ดเล่น ไม่ยอมลงจากโต๊ะจนเพื่อนร่วมงานที่ทำงานอยู่ทนไม่ไหวลุกขึ้นมาอุ้มเด็กคนนั้นลงจากโต๊ะ พร้อมใช้ไม้บรรทัดเล็ก ๆ ตีไปแต่ไม่แรงมาก ทำเอาเด็ก ‘แหกปากไม่หยุดเลย ยิ่งบอกให้เงียบยิ่งร้องแถมแกล้งร้องไม่หยุดด้วย จับตัวไม่ได้เลยเอามือผลักออกเอาเท้าถีบพี่คนนั้น กรี๊ดใส่หน้า

ทำให้หลาย ๆ คนไม่ค่อยโอเค นอกจากงานที่เยอะแล้วก็ไม่มีใครมาว่างมาดูแลให้ เด็กก็นิสัยไม่น่ารักแถมหัวหน้ายังเป็นญาติกัน ถ้าจะให้แจ้งหัวหน้าก็คงเฉย ๆ ส่วนครอบครัวเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว เด็กอยู่กับทางพ่อ และทางบ้านพ่อเด็กก็รักเด็ก แต่น่าจะเลี้ยงแบบผิด ๆ และไม่ได้มีธีการสอนหรือเลี้ยงดูที่ถูกต้อง

นอกจากพ่อเด็กจะนำลูกมาที่ทำงานทุกวันแต่ไม่เลี้ยงแล้ว ยังอาศัยวานเพื่อนร่วมงานให้ไปรับเด็กคนนี้ที่โรงเรียนทุกวัน ซึ่งมาอยู่ซนในสำนักงานยันเลิกงานเลย เจ้าของกระทู้ถึงกับเหนื่อยหน่ายใจ ลั่น เป็นอย่างนี้ทุกวันก็ไม่ไหว วุ่นวาย จะคุยงานกับลูกค้าก็เสียงดังรอดเข้ามา

“กรี๊ดบ้างตะโกนบ้างอยู่คนเดียว จนโดนลูกค้าว่า บอกให้เด็กเงียบได้ไหมคะ ดีลงานกันไม่รู้เรื่องเลย (ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของทางเราด้วย) อ่ะทีนี้เรามาว่าด้วยเรื่องการเลี้ยงดูเด็ก และพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของเด็ก ทุกคนคิดเห็นอย่างไรบ้าง”

งานนี้เป็นกระแสดราม่าที่มีคนแชร์และแห่เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างล้นหลาม “แจ้งหัวหน้า ต่อให้เขาเป็นญาติก็แจ้งและก็ถ้ามี HR ก็แจ้ง HR ด้วย” “เด็กน่ารักก็เอ็นดูค่ะ แต่ถ้าเด็กซนสร้างความวุ่นวายให้คนอื่นเราเกลียดค่ะ มองว่าพ่อแม่เขาสอนมายังไงลูกถึงได้ดื้อได้ซนแบบนี้ ลูกคุณไม่ได้น่ารักกับทุกคนนะคะ” “Hr ต้องเตือนแล้วค่ะแบบนี้ เพราะมันกระทบงาน” “แบบนี้แสบเกินไปค่ะ ไม่น่าจะไหวนะ ต้องให้เจ้านายพูดค่ะ พ่อแม่เอามา แทนที่จะอยู่ดูลูก ให้คนที่ทำงานเลี้ยงให้ซะงั้น”

ขอบคุณที่มาจาก Pantip

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ