FootNote:กระแสกัญชาเสรี ชูขึ้นสูงเด่น เสริมภาพการเมือง ภูมิใจไทย
มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้นว่า ยิ่งสถานการณ์ “กัญชาเสรี” ได้รับการโหมกระพือจนกลายเป็น “กระแส” อันร้อนแรงในทางสังคมมากเพียงใด ยิ่งจะกลายเป็นผลดีในทางการเมืองมากเพียงนั้น
และในเมื่อการนำเสนอในเรื่อง “กัญชาเสรี” เป็นผลงานของ พรรคภูมิใจไทยโดยตรง นั่นคือ “พลานุภาพ” ในทางการเมือง
เป็นพลานุภาพในเชิง “นโยบาย” อันเคยเป็นจุดแข็งของพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 ในการเสนอ “30 บาท รักษาทุกโรค” กระทั่งกลายเป็น “จุดขาย” ในปัจจุบัน
การเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 นโยบาย “30 บาท รักษาทุกโรค” สร้างคะแนนและความนิยมให้พรรคไทยรักไทยได้ฉันใด การลงมือกระทำเมื่อเป็นรัฐบาลก็คือผลลัพธ์ฉันนั้น
บทเรียนและความสำเร็จจากพรรคไทยรักไทย จึงกลายเป็นเครื่องมือหนึ่งของพรรคภูมิใจไทยในการเสนอนโยบาย “กัญชาเสรี” ระหว่างการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
และเมื่อได้ร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐนโยบายนี้ ของพรรคภูมิใจไทยก็ได้รับการบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาล และประสบความสำเร็จอย่างเด่นชัดในเดือนมิถุนายน 2565
นโยบาย “กัญชาเสรี” จึงได้กลายเป็นอาวุธสำคัญของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน
ต้องยอมรับว่านอกเหนือจากพรรคเพื่อไทยที่ต่อยอดนโยบาย และความสำเร็จของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมาได้อย่าง ยอดเยี่ยมแล้วยังมีพรรคภูมิใจไทยรวมอยู่ด้วย
ไม่เพียงเพราะมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค หากแต่ยังมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นเลขาธิการพรรค
ทั้งในห้วงแห่งการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 นายเนวิน ชิดชอบ เคยมีบทบาทสร้างชัยชนะ 377 ส.ส.ให้กับพรรคไทยรักไทยร่วมกับ นายทักษิณ ชินวัตร อย่างมีนัยสำคัญ
บรรดา “วิทยายุทธ์” ทางการเมืองของ นายทักษิณ ชินวัตร จึงได้รับการสะท้อนผ่าน นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไปยังพรรคภูมิใจไทยได้อย่างครบถ้วน
ยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์” จึงอาจสะดุดจาก “ภูมิไจไทย” ได้
จากกระแสในเรื่อง “กัญชาเสรี” ได้กลายเป็นพลานุภาพในทางการเมืองที่อยู่ในความยึดครองของพรรคภูมิใจไทยได้อย่างเด่นชัด ในบรรยากาศก่อนครบวาระเดือนมีนาคม 2566
ไม่ว่าที่เห็นผ่าน “บุรีรัมย์” ไม่ว่าที่เห็นผ่าน “ทั่วประเทศ”
เชื่อได้เลยว่าการขยายภาพแห่ง “กัญชาเสรี” โดยพรรคภูมิใจไทยจักต้องสำแดง “พลานุภาพ” ออกมาอย่างต่อเนื่อง
เป็นสิ่งที่ทุกพรรคการเมืองจักต้องขบคิด ใคร่ครวญเพื่อต่อกร