กมธ.งบฯ ถกเครียด "งบคลัง" พบหนี้บนพรมพรึ่บ หนี้ใต้พรมเพียบ ค่าดอกพุ่ง

Home » กมธ.งบฯ ถกเครียด "งบคลัง" พบหนี้บนพรมพรึ่บ หนี้ใต้พรมเพียบ ค่าดอกพุ่ง


กมธ.งบฯ ถกเครียด "งบคลัง" พบหนี้บนพรมพรึ่บ หนี้ใต้พรมเพียบ ค่าดอกพุ่ง

กมธ.งบฯ ถกเครียด “งบคลัง” เจอ หนี้บนพรมพรึบ หนี้ใต้พรมเพียบ ค่าดอกเบี้ยพุ่ง จัดเก็บพลาด ประเมินเศรฐกิจผิด เหมือนอยู่กันคนละประเทศ

วันที่ 12 มิ.ย.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เปิดเผยว่า การประชุมกมธ.งบฯ ได้พิจารณาสัปดาห์แรกจบไปแล้ว ในส่วนของภาพรวมเศรษฐกิจ และกระทรวงการคลัง รวมถึงธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งพบสิ่งที่น่าหนักใจ 6 ประเด็น คือ

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า 1.หนี้บนพรมพรึบ หนี้ใต้พรมเพียบ นอกจากหนี้สาธารณะ 4.4 ล้านล้านบาท ที่ถูกสร้างใหม่ขึ้นใน 8 ปี ประเทศไทยยังเจอกับหนี้ที่ไม่ถูกบันทึกเป็นหนี้สาธารณะจากมาตรการกึ่งการคลังอีกราว 1 ล้านล้านบาท และพุ่งแรงต่อเนื่องจากมาตรการด้านการเกษตรของรัฐบาล เป็นรายจ่ายก้อนโตทุก ๆ ปี ที่ต้องตั้งงบประมาณจ่ายไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญแทบไม่มีข้อมูลเลยว่ารัฐบาลใช้อะไรไปบ้าง ยอดคงค้างเท่าไหร่ ชำระเป็นอย่างไร กมธ.จากพรรคเพื่อไทยจึงได้เรียกขอเอกสารไปทั้งหมด ซึ่งต้องติดตามกันดูต่อ

2.ค่าดอกเบี้ยพุ่ง การใช้หนี้สาธารณะในส่วนของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ปีนี้เป็นดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมสูงถึง 1.9 แสนล้านบาท เกือบ 3 เท่าของการชำระเงินต้น ภาษีประชาชนถูกนำไปใช้หนี้ แต่ไปจมอยู่ที่ค่าดอกเบี้ย นี่คือต้นทุนอันมหาศาลของการกู้เงิน และการสร้างหนี้สาธารณะไปเรื่อยๆ ซึ่งในระยะหลังเป็นการกู้ที่ไม่สร้างรายได้ให้กับประเทศ

กมธ.งบฯ ถกเครียด "งบคลัง" เจอ หนี้บนพรมพรึบ หนี้ใต้พรมเพียบ ค่าดอกเบี้ยพุ่ง

กมธ.งบฯ ถกเครียด “งบคลัง” เจอ หนี้บนพรมพรึบ หนี้ใต้พรมเพียบ ค่าดอกเบี้ยพุ่ง

3.ประเมินเศรษฐกิจฝันหวาน ภาพที่เห็นที่ห้องกมธ.งบฯ หน่วยงานที่ชี้แจงเสนอภาพที่เต็มด้วยความหวัง ในขณะที่ฝั่งกมธ. กลับเห็นภาพที่น่าเป็นห่วง เหมือนอยู่กันคนละประเทศ ต้องเจอทั้งเรื่องเงินเฟ้อ รวมถึงผลกระทบหากไทยต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

4.จัดเก็บพลาด ปีงบฯ 65 กรมสรรพาสามิตเก็บภาษีพลาดเป้าทุกเดือนติดต่อกัน ต่ำกว่าเป้าถึง 2.6 หมื่นล้านบาท และภาษีสำหรับการระดมทุนทั้งในตลาดหุ้น และตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล มีแนวโน้มเดินหน้าต่อ ทั้งสองภาษีนี้ทำลายตลาดการระดมทุนของประเทศ ขณะที่ภาษีที่ควรเก็บ เช่น ภาษีมรดกกลับไม่คืบหน้า ย่ำอยู่กับที่ราว 200 กว่าล้าน

นายเผ่าภูมิ กล่าว กล่าวอีกว่า 5.ธนาคารรัฐวางบทบาทผิด ซึ่งธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบางแห่งมุ่งสร้างกำไร แต่พันธกิจหลักกลับไม่ได้ทำ และ 6.การคลังชนเพดาน การเงินโดนกดดัน ด้านการคลัง งบฉบับนี้ผ่านการเค้นทั้งการประมาณการรายได้ที่สูงเกินจริง จากการคาดการณ์จีดีพีที่สูงเกินจริง ซ้ำยังตั้งงบขาดดุลเกือบเต็มเพดานเพื่อทำให้มีเงินมาใช้จ่าย จนเรียกได้ว่าการคลังชนเพดาน ส่วนนโยบายการเงินก็ถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศให้ในที่สูงอาจต้องฝืนขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งๆที่ประเทศไม่มีความพร้อมเลย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ