พลันที่ชื่อของ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ติดลมบน ปฏิบัติการ “ด้อยค่า” ก็บังเกิด
ไม่เพียงเป็นการด้อยค่าในกระสวนที่ว่า ทิศทางของ “สุราก้าวหน้า สุราประชาชน” จะนำความเสื่อมมาให้กับสังคมไทยอันสงบสุข
เพราะบ้านทุกหลังก็จะกรุ่นไปด้วยเหล้าและเบียร์
หากพร้อมกันนั้นก็เริ่มมีการหยิบฉวยการนั่งจักรยานยนต์จากบ้านย่านคลองสานไปยังรัฐสภาในย่านเกียกกายว่าเป็นการสร้างภาพแบบปลอมๆ
ทั้งที่เป็นการนั่งอย่างแท้จริง และนั่งมานานแล้ว
ความจริง “สุราก้าวหน้า สุราประชาชน” ปรากฏพร้อมกับ “กัญชาเสรี” และ “หวยบนดิน”
แปลกที่สังคมให้การขานรับกับการปลดปล่อยกัญชาให้ “เสรี” แปลกที่สังคมไชโยโห่ร้องให้กับการนำหวย “ใต้ดิน” ให้ขึ้นมาอยู่ “บนดิน” กันอย่างคึกคัก
แม้จะแฝงกลิ่นอายในแบบของ โทนี่ วู้ดซั่ม ครบถ้วน
แต่เมื่อประสบเข้ากับ “สุราก้าวหน้า สุราประชาชน” ทั้งๆที่เสมอเป็นเพียงวาระแรกยังต้องฝ่าด่านวาระสอง วาระสามและ 250 ส.ว.อันแข็งแกร่ง
แต่การด้อยค่า นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ก็เริ่มขึ้น
สภาพที่ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร กำลังประสบก็อีหรอบเดียวกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
บนพื้นฐานแห่งเสียง 1.3 กว่าล้านคะแนน บนพื้นฐานแห่งแนวทาง “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตั้งแต่เช้ามืด จนดึกดื่น
ยังอุตส่าห์มีคนพยายามเตะสกัดขาอย่างชนิดรายวัน
เมื่อคนเด่นดังระดับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังถูกมองเหล่อย่างร้อนแรง แล้วคนที่เพิ่งจะทะยานขึ้นมาอย่าง นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร มีหรือจะรอดพ้น
จงทำดี แต่อย่าเด่น ระวังจะ “เป็นภัย”
ไม่ว่ากรณีของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไม่ว่ากรณีของ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เป็นบทเรียน
เป็นบทเรียนทั้งในทิศทาง “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” เป็นบทเรียนทั้งในทิศทางที่ทำความเข้าใจและขยายแนวร่วมอย่างกว้างขวาง ลึกซึ้ง
ทังหมดนี้คือการเมืองแห่งการจุดประกาย สร้างความหวัง