รัฐสภาถกพ.ร.บ.ตำรวจ อืด 4 ชม.ได้ 2 มาตรา วีระกรโวยพูดอย่างนี้ 15 สัปดาห์ไม่จบ ‘ชวน’แนะให้ย่อความ ยังมีกม.ลูกเลือกตั้งรออยู่
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 10 มิ.ย. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ… ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญ ในวาระสอง เรียงตามมาตราซึ่งมีทั้งสิ้น 172 มาตรา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
โดยผ่านไป 3 ชั่วโมง พิจารณาได้เพียง 2 มาตราคือ มาตรา 12 ว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งกมธ.ปรับแก้ไขเล็กน้อย แต่คงสาระสำคัญคือ ให้มีกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค กองบังคับการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัด สถานีตำรวจ พร้อมกำหนดหน้าที่ในงานป้องกันและปราบปรามการทำผิดอาญาและรักษาความสงบเรียบร้อย ตามแผนหรือมาตรการที่คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) และครม. ให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ แม้ที่ประชุมจะใช้เวลาอภิปรายเกือบ 2 ชั่วโมง ที่ประชุมเห็นด้วยกับกมธ.แก้ไข
จากนั้นพิจารณามาตรา 13 ว่าด้วยการแบ่งสถานีตำรวจ ออกเป็น 3 ระดับ ซึ่งกมธ.แก้ไข ให้สถานีตำรวจระดับใหญ่ มีหัวหน้าสถานีดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ สถานีตำรวจระดับกลางมีหัวหน้าสถานี ดำรงตำแหน่งผู้กำกับหรือสารวัตรใหญ่ และ สถานีตำรวจระดับเล็ก มีหัวหน้าสถานีตำรวจดำรงตำแหน่งสารวัตร
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า หากร่างดังกล่าวผ่านไปจะเดือดร้อนทั้ง ตร. เนื่องจากวันดีคืนดี ฝ่ายการเมืองหรือ นายกรัฐมนตรี สั่งย้ายจากระดับใหญ่ ไประดับกลาง อาจเป็นการลดระดับ และใช้กลั่นแกล้งกันได้ ซึ่งการเขียนกฎหมายอย่าลวง เพื่อประโยชน์ใคร ไม่รู้ว่าแฝงเพื่อใคร เพื่อผบ.ตร.ยุคนี้หรือไม่ กฎหมายออกมา แทนที่จเรตำรวจ หรือผบ.ตร. จะตั้งจาก รองผบ.ตร. อาจมีตั๋วช้าง เด็กเส้นข้ามกันไป
จากนั้นลงมติเสียงข้างมากเห็นด้วยกับกมธ.ที่แก้ไข โดยมาตรา 13 ใช้เวลาพิจารณาเกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้น ขอให้ประธานควบการอภิปราย เพราะหากอภิปรายแบบนี้ 15 สัปดาห์ ก็ไม่จบ เพราะเถียงกันเรื่องเล็กน้อย แค่คำว่า “ก็ได้” ก็หมดไปชั่วโมงครึ่งแล้ว ตนไม่อยากให้ร่างพ.ร.บ.นี้ประกาศใช้ไม่ทันในสมัยประชุมนี้ เพราะประชาชนรออยู่ จะเห็นได้ว่า พรรคพลังประชารัฐไม่มีใครลุกขึ้นอภิปรายเลย เพราะกลัวว่ากฎหมายจะออกไม่ทันใช้ ซึ่งตนเตือนด้วยความหวังดี
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสถา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของสมาชิกที่จะอภิปราย และกฎหมายนี้สำคัญมาก คือกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น สามารถทำให้ถูกเป็นผิดได้ ทำผิดเป็นถูกได้ จึงได้ให้โอกาส แต่ตนก็เห็นด้วยว่าถ้าเรารู้จักย่อความ สรุปประเด็นได้ ไม่ใช้เวลามากเกินไป ทำให้พิจารณาได้เร็วกว่าปกติ แต่จะไม่ตัดสิทธิ์ผู้ใด แต่สมาชิกต้องพิจารณาเองว่าไม่ควรอภิปรายซ้ำอีก เสียเวลา ขอร้องพวกเราอดทนหน่อย ถ้ากฎหมายสำคัญอย่างนี้ไม่ถี่ถ้วน ไม่รอบคอบ ซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น จะทำให้กระบวนการยุติธรรมขั้นต่อไป อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ มีปัญหา
“ผมจะพยายามบริหารเวลา หากช้า ก็จะจัดวันเพิ่มขึ้น ขณะนี้ดูอยู่ว่าประชุมปลายเดือนนี้ อีก 2 วันได้หรือไม่ และต่อต้นเดือนหน้า เพราะเรามีกฎหมายสำคัญ คือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จึงหวังว่าเรามองปัญหาและผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อให้กฎหมายนี้มีประโยชน์อย่างแท้จริง” นายชวนกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในมาตรา 13 มีการเพิ่มข้อความขึ้นมาใหม่เป็นมาตรา 13/1-13/8 โดยในเวลา 13.50 น. ยังคงพิจารณาถึงแค่มาตรา 13/1 ว่าด้วย คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) โดยให้ นายกฯ เป็นประธานกรรมการ