เต้ ส่งตัวแทนร้องกองปราบ แจ้งจับทนายเดชา กล่าวหาช่วยเหลือแต่แม่แตงโม

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2565 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายศฤงคาร ข่ายสุวรรณ กรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้รับมอบอำนาจจาก นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ พร้อมด้วยนายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทรงพล หมอกกลั่น รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และไลฟ์สด กล่าวพาดพิงถึง นายมงคลกิตติ์ และพรรคไทยศรีวิไลย์ ทำให้เกิดความเสียหาย

นายศยุน เปิดเผยว่า มาแจ้งความดำเนินคดีกับนายเดชา 2 ส่วน คือตนเองเป็นตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ มาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนและไลฟ์สดพาดพิงทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่พรรคไทยศรีวิไลย์ และอีกส่วนคือ นายมงคลกิตติ์ มอบอำนาจให้นายศฤงคารมาแจ้งความดำเนินคดีนายเดชา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และข่มขืนใจผู้อื่นทำให้ตกใจกลัว

หลังจากที่นายเดชากล่าวหาในทำนองว่านายมงคลกิตติ์ให้ความช่วยเหลือเพียงแค่ นางพนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้นาย มงคลกิตต์ และพรรคเกิดความเสียหาย

ยืนยันว่าการปฎิบัติหน้าที่ของนายมงคลกิตติ์และสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ทุกคน ทำหน้าที่เพื่อประชาชน ไม่ได้เลือกปฏิบัติช่วยเหลือคดีของแตงโมเพียงอย่างเดียว เมื่อถูกกล่าวหาพาดพิงจนทำให้เสื่อมเสีย ก็จำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิ์ตามกฏหมายในกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่ นายศฤงคาร กล่าวว่า จะไม่มีการยื่นเรื่องต่อสภาทนายความ เพื่อถอนชื่อนายเดชาออกจากการเป็นทนายความ กรณีผิดมารยาทของทนายความแต่อย่างใด แต่จะดำเนินการในคดีอาญาเท่านั้น ส่วนตัวเห็นว่านายเดชาเป็นนักกฎหมาย ก็คงรู้ดีว่าได้พูดจาอะไรไป ทำให้ผู้อื่นเสียหายหรือไม่ และก็เป็นสิทธิ์ที่นายมงคลกิตติ์ที่ต้องปกป้องชื่อเสียงด้วยเช่นกัน

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้ร้องและลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนจะดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป