บิ๊กตู่หยอดคำหวานชาวนา เราคือครอบครัวเดียวกัน เป็นพลังให้กันและกัน

Home » บิ๊กตู่หยอดคำหวานชาวนา เราคือครอบครัวเดียวกัน เป็นพลังให้กันและกัน


บิ๊กตู่หยอดคำหวานชาวนา เราคือครอบครัวเดียวกัน เป็นพลังให้กันและกัน

บิ๊กตู่หยอดคำหวานชาวนา ย้ำคือครอบครัวเดียวกัน เป็นพลังให้กัน ยันรัฐบาลเข้าใจปัญหา เข้าถึงความเดือดร้อน ถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติที่มีเกียรติ

วันที่ 8 มิ.ย.2565 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบนโยบายให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2565 พร้อมหยอดคำหวาน ถือว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติที่มีเกียรติ ช่วยขับเคลื่อนภาคการเกษตให้มีความมั่นคง ยืนยันรัฐบาลเข้าใจปัญหา เข้าถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร ที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งเฉย

“ชาวนากับรัฐบาลคือครอบครัวเดียวกัน ต้องเป็นพลังให้กันและกัน”

โดยรัฐบาลยังพยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลาในการดำเนินการ อะไรที่สามารถแก้ไขได้รัฐบาลพร้อมจะแก้ไขทันที เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับการจัดทำ Zoaning และแผนที่การเกษตร (Agri map) ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกข้าวอยู่ขณะนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการบริหารพื้นที่เพาะปลูกข้าวให้เหมาสมกับสภาพดินและแหล่งน้ำกับปริมาณความต้องการสำหรับบริโภค การใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ และสินค้าแปรรูปที่มีมูลค่าอื่นๆ

ส่วนเรื่องพันธุ์ข้าว นายกรัฐมนตรี ขอให้กำหนดและพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมทั้งการรับรองพันธุ์ข้าว โดยพิจารณากำหนดพื้นที่สำหรับทดลองเพาะปลูกพันธุ์ข้าวใหม่สำหรับบริโภค และใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์

รวมทั้งรัฐบาลยังได้ส่งเสริมให้เกษตรผู้ปลูกข้าวสามารถพัฒนาสายพันธุ์ข้าวใหม่ ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีความรู้ในเรื่องการแปรรูป การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และใช้ประโยชน์จากข้าวให้มากที่สุด เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการทำตลาดที่ตรงกับความต้องการ ขอให้ส่งเสริมระบบเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อหน่วย ส่งเสริมการสร้าง Smart Farmer และเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีมาต่อยอดองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นต่อไป

ทั้งนี้ภายในงาน นายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อคิดเห็นจากเกษตรกรผู้ได้รับรางวัลในปีนี้ ซึ่งสะท้อนออกมาว่า นโยบายการรวมกลุ่มเกษตรกรนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก และมีหลายกลุ่มสามารถจดทะเบียนเป็นกลุ่มนาแปลงใหญ่ เพิ่มศักยภาพในการผลิตและจำหน่าย

ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนการเพาะปลูกได้ด้วย อย่างไรก็ตามยังมีอุปสรรคในเรื่องการส่งออกอยู่บ้าง ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯรับไปดูแลแล้ว โดยในอนาคตจะเห็นเกษตรกรที่รวมกลุ่ม สามารถส่งออกข้าวไปยังผู้ซื้อต่างประเทศได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง มีรายได้เพิ่มอย่างยั่งยืน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ