บทบรรณาธิการ – แก้สลากให้สมดุล 

Home » บทบรรณาธิการ – แก้สลากให้สมดุล 


บทบรรณาธิการ – แก้สลากให้สมดุล 

รัฐบาลโดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา พึงพอใจอย่างยิ่งกับการขายสลากผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง หรือสลากดิจิทัล ราคาใบละ 80 บาท

โดยเปิดขายตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. จำนวน 5,173,500 ใบ ขายหมดเกลี้ยงเพียงไม่ถึง 5 วัน มีจำนวนประชาชนเข้ามาซื้อมากถึง 1,220,000 คน ชุดเฉพาะกิจแก้ปัญหาสลากแพงระบุเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย หมดเร็วกว่าที่คิดไว้อย่างเหลือเชื่อ

ด้วยกระแสตอบรับดี ได้รับความนิยมเกินคาด คณะกรรมการสลากฯ จึงเตรียมประชุมปลายเดือนนี้ เพื่อพิจารณาว่าจะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลได้อีกเท่าไหร่

หากที่ประชุมเห็นควรให้เพิ่ม ก็จะเริ่มในงวดวันที่ 16 ก.ค. และเริ่มขายวันที่ 2 ก.ค.

นอกจากซื้อผ่านระบบออนไลน์แล้ว รัฐบาลยังย้ำว่าประชาชนยังสามารถซื้อสลากใบละ 80 บาท จากจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ที่กระจายอยู่ 362 จุด และจะเพิ่มจุดจำหน่ายให้ถึง 1,000 จุดทั่วประเทศ

รวมทั้งวางมาตรการแก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาว โดยภายในปีนี้จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่จำหน่ายในรูปแบบสลากที่มีตัวเลข 6 หลัก จะคล้ายกับสลากที่วางขายอยู่ในปัจจุบัน

โดยเฉพาะสลากตัวเลข 3 หลัก จะคล้ายกับหวยใต้ดิน 2 ตัว 3 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างให้มหาวิทยาลัยของรัฐเป็นผู้ศึกษาออกแบบ จากนั้นเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน หากเห็นชอบจะนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีต่อไป

เป็นมาตรการที่รัฐบาลมั่นใจจะแก้ปัญหาสลากแพงได้ แต่ก็ต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบ และต้องระมัดระวังเรื่องการมอมเมาประชาชน

แต่ในระหว่างนี้อีกด้านหนึ่งมีเสียงสะท้อนจากกลุ่มผู้ค้าสลากรายย่อยตามจังหวัดต่างๆ เนื่องจากเริ่มได้รับผลกระทบจากสลากดิจิทัล 80 บาทของรัฐบาล

กลุ่มผู้ค้ารายย่อยส่วนใหญ่ยังจำเป็นต้องขายสลากเกินราคา 80 บาท เพราะต้นทุนสลากที่รับมาเกิน 80 บาทแล้ว ซึ่งผู้ค้าเหล่านี้ยังอยู่ในระบบยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ผูกขาดโควตามายาวนาน ที่ผ่านมารัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้

ดังนั้นการที่ต้องขายสลากราคาเกินกว่า 80 บาท จึงย่อมเสียเปรียบสลากดิจิทัล ส่งผลต่อยอดขายลดลง กระทบต่อรายได้ และการทำมาหากินเลี้ยงชีพ คาดมีผู้ค้ารายย่อยหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบ

รัฐบาลจึงต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ค้าเหล่านี้ด้วย ต้องแก้ปัญหาสลากเกินราคาอย่างครอบคลุมและสมดุล

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ