ครม.เคาะปุ๊บ ส่งสภาปั๊บ! พรบ.คู่ชีวิต เตรียมประกบ พรบ.สมรสเท่าเทียม ยัน ให้สิทธิเต็มที่กับทุกเพศ แต่ตอบโจทย์กลุ่มที่เรียกร้องไม่ครบ
วันที่ 7 มิ.ย.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม. ถึงกรณีที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คู่ชีวิต ว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้มีมติให้ความเห็นชอบจากที่ประชุมครม.เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งเข้าให้สภาผู้แทนราษฎรในทันทีเพื่อประกบกับร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม โดยใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก
ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมได้แก้ไข และรับฟังความคิดเห็นทางด้านศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม รวมถึงปรับแก้ โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาให้คำแนะนำว่าไม่สมควรที่จะไปใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะในนั้นพูดถึงชายกับหญิง
แต่ฝ่ายค้านต้องการให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ เช่น ชายกับชาย หญิงกับหญิง และคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่าถ้าเราจะมีระบบที่ไม่ปกตินัก จะต้องแยกเป็นพ.ร.บ.ต่างหาก เพื่อให้มีความละเอียดมากขึ้น ในร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ระหว่างชายกับชาย หญิงกับหญิง ไม่สามารถแยกเพศได้
ดังนั้นร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ไม่ว่าเพศอะไรต้องมีอายุ 17 ปีขึ้นไปทั้งคู่ รวมถึงบิดาและมารดาต้องให้ความยินยอมกรณีผู้เยาว์ อย่างไรก็ตาม จาการรับฟังความเห็นทั้งทางศาสนาแล้ว เช่น มีศาสนาคริสต์ไม่ขัดข้องกับพ.ร.บ.นี้ แต่ขออย่าใช้คำว่า “คู่สมรส” แต่ขอให้คำว่า “คู่ชีวิต”แทน
เมื่อถามว่าในร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตจะให้สิทธิแก่บุคคลสามารถตัดสินใจเรื่องการรักษาสุขภาพของคู่ชีวิตด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มี แต่ถ้าไม่มี สามารถแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการได้ ทุกอย่างแก้ปัญหาได้หมดแล้ว ซึ่งเข้าสภาใน 1-2 วันนี้ แต่จะคลอดเสร็จออกมาทันรัฐบาลนี้หรอืไม่นั้น แล้วแต่สภาฯ เพราะร่างกฎหมายนี้ต้องเข้าทั้งในสภาผู้แทนฯและชั้นวุฒิสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าในร่างพ.ร.บ.นี้มีกำหนดเรื่องสิทธิและสวัสดิการของข้าราชการ ด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าว่า มี ให้สิทธิทุกอย่าง ซึ่งในส่วนที่แตกต่างกัน มีรายละเอียดจำนวนมาก แต่หัวข้อใดที่เป็นสิทธิเราใส่ไว้ให้ ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันในบางอย่าง
เช่น เรื่องแบ่งสินสมรสหลังการหย่า ก็มีหลักเกณฑ์ของเขาอยู่ และได้เขียนไว้ให้เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง แต่หลักเกณฑ์อาจไม่เหมือนกับกรณีชายกับหญิง 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการจดทะเบรียนสมรส และจดทะเบียนหย่าต้องทำที่ว่าการอำเภอเหมือนกันหมด ซึ่งถ้ามีการหย่าเกิดขึ้นในส่วนนี้ ก็ต้องแก้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าถ้าคนต่างเพศ
เช่น ชาย-หญิงแต่งงานกัน แล้วฝ่ายใดไปมีคู่ชีวิตใหม่ ก็ให้เป็นเหตุหย่าได้ ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นอีกฉบับหนึ่งที่รัฐบาลจะเสนอและเข้าสภาพร้อม ดังนั้นรัฐบาลส่งร่างกฎหมายเป็น 2 ฉบับไปเจอกับร่างของฝ่ายค้านก่อนจะนำไปพิจารณาพร้อมกัน
เมื่อถามว่าคิดว่าจะสามารถตอบโจทย์กลุ่มที่ร้องอยู่ในตอนนี้ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่ครบ เพราะการเรียกร้องมีนัยยะที่แตกต่างกัน ซึ่งนี่คือเหตุผลให้นำกลับมาแก้ไขใหม่ เพราะมิฉะนั้นคงจะเข้าสภาเสร็จไปตั้งแต่ปี 2563