กรมควบคุมโรค เผยทั่วโลกพบผู้ป่วย “ฝีดาษลิง” 900 กว่ารายใน 43 ประเทศ แต่การระบาดไม่เร็ว ซ้ำโรครุนแรงน้อย ไม่พบผู้เสียชีวิต WHO จัดความเสี่ยงปานกลาง ไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน ไม่เป็นโรคอันตราย แค่ให้เฝ้าระวัง
วันที่ 6 มิ.ย.2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์โรคฝีดาษลิง ว่า เดิมเป็นการติดต่อจากสัตว์สู่คน การกระจายโรคค่อนข้างช้า แต่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาพบการติดจากคนสู่คนมีการสัมผัสใกล้ชิดกัน โดยติดต่อจากสารคัดหลั่งหายใจและสัมผัสสิ่งปนเปื้อน ส่วนสมมติฐานติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นข้อสังเกต แต่ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอ การวินิจฉัยเหมือนโควิดคือตรวจ RT-PCR” ระยะฟักตัวอยู่ที่ 5-21 วัน
“อาการสำคัญคือ มีไข้ ปวดหัว ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว เหมือนไข้หวัดทั่วไป แต่ไม่ค่อยมีน้ำมูก หลังเป็นไข้ 1-3 วันจะมีผื่นขึ้น กระจายที่แขนขา ลำตัว และใบหน้า ลักษณะตุ่มมีหลายแบบตามระยะ ตั้งแต่ตุ่มแดง ตุ่มใส ตุ่มหนอง เป็นรอยบุ๋ม แห้งเป็นสะเก็ดและหลุดออก ส่วนใหญ่หายเองได้ ซึ่งจะเกิดแผลเป็นเมื่อมีแบคทีเรียแทรกซ้อน การดูตุ่มอย่างเดียวบอกไม่ได้ว่าเป็นฝีดาษลิง เพราะคล้ายหลายโรค การวินิจฉัยต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการ”
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจอผู้ป่วยยืนยัน 900 กว่าคนใน 43 ประเทศ แม้กระจายหลายประเทศแต่ฝีดาษลิงยังไม่ถึงหลักพัน ถือว่ากระจายไม่เร็ว อาการไม่รุนแรง ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จึงไม่ต้องกังวลว่าจะติดเร็ว แต่เราไม่ประมาท สธ.ได้จัดระบบเฝ้าระวัง โดยมีระบบคัดกรองคนเดินทางจากต่างประเทศและกำหนดนิยามวินิจฉัยผู้ป่วย เตรียมห้องปฏิบัติการในการวินิจฉัยและสอบสวนควบคุมโรค และเตรียมจัดหาวัคซีนหากจำเป็นต้องใช้ ขณะนี้ที่มีรายงานจะเป็นทางยุโรป เช่น สเปน อังกฤษ โปรตุเกส เยอรมนี รวมถึงแคนาดา ทั้งนี้ หากประชาชนมีอาการสงสัยก็ไปพบแพทย์ได้ เพื่อให้การวินิจฉัยต่อไป
“องค์การอนามัยโลกประเมินโรคฝีดาษลิงว่าเป็นความเสี่ยงปานกลาง ยังไม่เป็นภาวะฉุกเฉิน แม้จะเจอหลายประเทศแต่การกระจายไม่เร็ว อาการไม่รุนแรงมากนัก ยังไม่ต้องจำกัดการเดินทาง และไม่ได้ประกาศเป็นโรคอันตราย เพียงแต่ให้เตือนระมัดระวังและจัดระบบเฝ้าระวัง ประเทศไทยพร้อมดำเนินการ แม้มีโอกาสพบผู้ป่วยเดินทางเข้าไทยได้ เพราะไทยเป็นประเทศเปิด รับคนเดินทางจากทั่วโลกเพื่อกิจกรรมการใช้ชีวิตกลับสู่ปกติ แต่ความร่วมมือที่ดีจะตรวจจับผู้ป่วยและควบคุมไม่ให้โรคแพร่ระบาดต่อไปได้ โรคนี้ไม่รุนแรง ไม่ติดต่อง่าย”
เมื่อถามว่า มีผู้เดินทางจากประเทศที่เสี่ยงหรือมีการระบาดมากน้อยแค่ไหน นพ.โอภาสกล่าวว่า เราเริ่มเปิดประเทศ คนเดินทางก็เยอะขึ้น วันหนึ่งก็เข้ามาหลายหมื่นคนทั้งจากประเทศต่างๆ หรือแถบยุโรปที่มีผู้ติดเชื้ออยู่ แต่ย้ำว่าตอนนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 900 กว่าคน เทียบกับโควิดป่านนี้คงขึ้นไป 10 ล้านคนแล้ว ไม่ได้ระบาดเร็ว ไม่ต้องกังวล ให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร ส่วนข้อสังเกตว่าติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไหมยังไม่มีข้อมูลชัดเจน การติดต่อส่วนใหญ่คือสัมผัสใกล้ชิดโดยตรง