เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองที่ ทนายเดชา ฟ้องร้องส.ส.เต้ งานนี้ มงคลกิตติ์ ยอมรับน้อยใจ เสรีพิศุทธ์ ที่มีการกล่าวหาล่าวหาว่าตนนั้นเป็นอั้งยี่ซ่องโจร
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ยื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยขอให้สอบจริยธรรมร้ายแรง ส.ส.เต้ หรือ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก ทนายเดชากล่าวอ้างว่า นายมงคลกิตติ์ ได้มีการโทรศัพท์ข่มขู่ว่าจะกระทืบตน ไม่ชอบใช้วิธีการตามกฎหมาย แต่ใช้วิธีการนอกระบบ พร้อมขู่ว่าหากตนไม่หยุดพูดจะส่งไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วจะไม่ได้กลับมา ซึ่งอาจหมายความว่าอาจไม่มีชีวิตกลับมา
ทางด้าน ท่านเสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ก็ได้มีการกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า นายมงคลกิตติ์ ได้พูดจาข่มขู่ทนายเดชา ขู่จะฟ้อง ขู่จะเอาชีวิต ตนจึงได้เชิญคณะกรรมาธิการมารับฟังปัญหา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับนายเดชาในเรื่องนี้ ทั้งนี้พฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ ไม่ใช่ผิดจริยธรรมเพียงอย่างเดียว แต่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย ในมาตรา 309 ผู้ใดพูดจาข่มขู่ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนของประชาชน มีโทษจำคุก 3 ปี และมีความผิดในมาตรา 209 ข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร จากคำพูดที่บอกว่ามีพวกเยอะ อย่าให้พวกของผมจัดการ ซึ่งก็เกิน 10 คนขึ้นไป มีโทษจำคุก 7 ปี และมาตราที่สำคัญคือมาตรา 157 การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีโทษหนัก
โดยในวันนี้ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปร่วมรายการโหรกระแส ซึ่งมีช่วงหนึ่งของรายการได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับทาง ส.ส.เต้ ถึงประเด็นดังกล่าว โดยยอมรับพร้อมเข้ากระบวนการตามกฎหมายทุกอย่าง
ซึ่งทางนายมงคลกิตติ์ ยอบรับว่า การที่ท่านเสรีพิศุทธ์ บุคคลที่ตนเองเคราพรักและนับถือเป็นอย่างมาก แต่กลับมากล่าวหาว่าตนนั้นเป็นพวกอั้งยี่ ซ่องโจร ตนรู้สึกน้อยใจมาก โดยส.ส.เต้ได้ตอบกลับมาว่า ตนไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น ไม่เคยฆ่าใคร ไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่เรื่องชกต่อยในสมัยวัยรุ่นเท่านั้นเอง ขอให้ท่านเสรีพิศุทธ์ช่วยพิจารณา 2 ทางด้วย