หมาก แย้มได้ฤกษ์แต่ง คิม ตื่นเต้นเป็นว่าที่เจ้าบ่าว เข้าสมาคมขี้เกรงใจว่าที่ภรรยา

Home » หมาก แย้มได้ฤกษ์แต่ง คิม ตื่นเต้นเป็นว่าที่เจ้าบ่าว เข้าสมาคมขี้เกรงใจว่าที่ภรรยา


หมาก แย้มได้ฤกษ์แต่ง คิม ตื่นเต้นเป็นว่าที่เจ้าบ่าว เข้าสมาคมขี้เกรงใจว่าที่ภรรยา

หมาก ปริญ สุดตื่นเต้นเป็นว่าที่เจ้าบ่าว แย้มได้ฤกษ์แต่ง คิมเบอร์ลี ปลายปีหน้า เรือนหอใกล้เสร็จ รับเข้าสมาคมคนขี้เกรงใจว่าที่ภรรยา

ทำเอาพระเอกหนุ่ม หมาก ปริญ สุภารัตน์ ตื่นเต้นสุดๆ กำลังจะกลายเป็นว่าที่เจ้าบ่าวแล้ว หลังคุกเข่าขอแฟนสาว คิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส แต่งงาน งานนี้หลายคนต่างรอลุ้นอยากเห็นงานวิวาห์ของทั้งคู่เร็วๆ นี้แล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2565 หนุ่มหมาก ที่มาร่วมงานเปิดตัวแว่นตา ic!berlin คอลเล็กชั่นใหม่ YOUNG Collection ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของเอเชีย ที่เคทีออฟติค ห้างสรรพสินค้าเมกาบางนา ได้ให้สัมภาษณ์เผยฤกษ์แต่ง พร้อมเรือนหอที่กำลังสร้างใกล้เสร็จแล้ว รวมถึงเรื่องที่ คิมเบอร์ลี บอกว่ายังไม่อยากมีลูก เพราะกลัวถูกแย่งความรัก

ว่ายังไงว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดง? “วันนั้นก็ตื่นเต้นมากครับ ตื่นเต้นมากๆ จนทำอะไรไม่ถูก จนถึงตอนนี้ก็ยังทำอะไรไม่ถูกว่าควรทำอะไรต่อหรือยังไง เพราะว่ากลับมาเราก็แยกย้ายกันถ่ายละครทั้งสองคน คนละ 2 เรื่อง แต่ตอนนี้เรามีความสุขมาก หลังจากวันนั้นเราก็มีความสุขเรื่องนี้ด้วย(ยิ้ม)”

โมเมนต์ตอนนั้นเป็นยังไง? “บอกไม่ถูกเลย มันเงียบนะ และเรารู้สึกกันตอนนั้นในกลุ่มเราที่อยู่ด้วยกัน ก็งงนะเพราะว่าตอนนั้นมันเงียบจริงๆ คือเราร้องไห้อยู่แล้วแหละ และพอเราผละออกจากกัน เพื่อนๆ ก็ร้องไห้ ก็รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วจริงๆ”

ดีใจไหมที่วันสำคัญของเราก็มีเพื่อนๆ มาอยู่ด้วย? “ดีใจมากๆ ครับ และเราก็เสียใจที่กี้ (มาร์กี้ ราศรี) กับป๊อก (ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์) ไปไม่ได้ จริงๆ เป็นความตั้งใจของเราอยู่แล้ว และนัดตระเตรียมกับเพื่อนๆ ที่สามารถจะไปได้กันอยู่แล้วครับ”

เห็นว่าวางแผนนานมาก กลัวแผนแตก? “นานมาก (ยิ้ม) แต่ก็บอกใครมากไม่ได้ เพราะน้องเซ้นส์เขาแรง และยิ่งช่วงนั้นมีแต่คนถามว่าเมื่อไหร่ๆ เราก็พยายามเงียบที่สุดและให้คนรู้น้อยที่สุด จนมาบอกเพื่อนที่สนิทจริงๆ และค่อยๆ กระจายบอก”

วินาทีนั้นบอกอะไรกับคิมบ้าง? “ก็ไม่ได้บอกอะไรมากครับ บอกว่ามันไม่มีเวลาไหนที่จะเหมาะสมกว่านี้อีกแล้ว จากใจผมก็คิดว่าเราพร้อมแล้วแหละ ด้วยวุฒิภาวะ เรื่องการงาน เรื่องการคุยกันถึงอนาคต เราก็ได้ปรึกษากันมาระดับหนึ่งแล้ว

เห็นว่าคิมไปขิงเรื่องแหวนกับเพื่อนด้วยว่าแหวนฉันเม็ดโต? “จริงเหรอ (หัวเราะ) ไม่หรอก จากที่ดูในรูปก็อย่างนั้นแหละครับ (ยิ้ม) เราก็ตั้งใจเตรียมไว้ให้เพื่อโอกาสพิเศษ (ยิ้ม)”

เห็นว่าดีลกับเจ้าของร้านเพชรเลย? “ใช่ๆ ก็ช่วยกันปรึกษานี่แหละ อย่างที่บอกเราก็มีสองวง วงนี้ก็เอาไปที่นู่น ส่วนของจริงก็เก็บไว้ที่บ้าน”

ตอนนี้ได้ฤกษ์หรือยัง?มีคุยกับอาจารย์แล้วครับ ก็ได้เป็นปีหน้า เพราะตอนนี้ละคร 2 เรื่องทั้งสองคนเลย ก็กำลังเร่งถ่ายกันอยู่ครับ (ปีหน้าเป็นช่วงไหน?) คิดว่าเป็นช่วงปลายครับ

คิดธีมไว้บ้างหรือยัง? “ยังเถียงกันเรื่องสถานที่อยู่เลยครับ (หัวเราะ) (แล้วเราต้องยอมไหม?) แน่นอน (หัวเราะ) ไม่ต้องถามเลย ก็ต้องแล้วแต่เขาเลย อยากได้ที่ไหนก็ให้เขาเลือก แต่เราก็แสดงความคิดเห็นไป แต่เขาก็เป็นคนเลือก (ยิ้ม)”

กลัวหรือเกรงใจ?เราเกรงใจครับ (ยิ้ม) (เข้าสมาคมแล้ว?) เข้าสมาคมคนเกรงใจ (ยิ้ม) จริงๆ ก็เข้าตั้งนานแล้วนะ (หัวเราะ)

ธีมงานจะยิ่งใหญ่ไหม หรือเราอยากให้อบอุ่นๆ? “ก็ด้วยสถานการณ์ตอนนี้เราก็พยายามอยากให้คนที่เราเคารพ รู้จัก สนิทจริงๆ มาอยู่ด้วยกันในจังหวะนั้นครับ แต่ก็ยังลิสต์ชื่อกันอยู่เลย”

ความรู้สึกจากแฟนจะเปลี่ยนมาเป็นภรรยาแล้ว? “(หัวเราะ) เราไม่มีอะไรเปลี่ยน เพราะเราเป็นแบบนี้มานานแล้ว ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องปรับอะไร ทุกวันนี้ก็ดีมากๆ แล้ว ต่างคนต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ต่างคนต่างรู้หน้าที่ตัวเองว่าควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร”

คิมบอกว่าไม่พร้อมมีลูก เพราะกลัวมาแย่งความรัก?โอ้โห (หัวเราะ) พูดซะ เราก็มีความรักให้คุณเหมือนเดิม ไม่มีหมดหรอก เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัว เรื่องนั้นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตไป ถ้าจะมีเมื่อไหร่ก็คงจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดของเขาอยู่แล้ว

ใจเราเองอยากมีลูกใช่ไหม? “ขอเที่ยวก่อนได้ไหม ขอใช้เวลาฮันนีมูน พูดถึงฮันนีมูนแล้วดูสิ อยากเที่ยวให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด แล้วถึงเวลาตอนนั้นก็อยากมีแหละ”

จะต้องไปเกลี้ยกล่อมทางนั้นยังไง? “เขาก็อยากมี (ก็ต้องสร้างความมั่นใจว่าฉันจะรักเธอตลอดไป?) โอ้โห มั่นใจอยู่แล้ว เราบอกเขาอยู่แล้ว”

เรือนหอก็ใกล้เสร็จแล้ว? “ยังไม่เสร็จ แต่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราตั้งใจ เพราะว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว เรากำลังสร้างเรือนหอด้วยกัน ก็อยากให้เสร็จปลายปี (กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว?) ได้สักห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นรูปเป็นร่างแล้ว ตื่นเต้นมากๆ เพราะหลังนี้เราทั้งคู่เริ่มวาดมันกับมือว่าห้องไหนใช้ทำอะไร บ้านหลังนี้เป็นของเราจริงๆ”

วางงบไว้เท่าไหร่? “ยังบอกไม่ได้จริงๆ (ทะลุ 50 ล้านจริงไหม?) จะบอกยังไง ไม่อยากพูดให้คนรู้เรื่องราคา (แต่ทำแล้วชอบ?) ใช่ๆ (วาดรูปห้องลูกหรือยัง?) มีๆ แบ่งสัดส่วนแล้ว 4 ห้องนอน (จะมีลูก 2 คน?) ไม่รู้ๆ (หัวเราะ) สร้างเผื่อไว้ก่อน”

ถามถึงมือ เล่นจริงเจ็บจริง? “เป็นอุบัติเหตุในกองถ่ายใต้เงาตะวัน คือทำตัวเองนี่แหละ เป็นซีนที่ต้องใช้อารมณ์สูง ต้องทะเลาะกับพ่อ แต่จะบอกว่าเป็นความผิดตัวเองนะ ไม่ใช่ความผิดกอง เราพลาดเอง แต่ก็ต้องขอโทษละคร และงานหลายๆ อย่างที่ต้องเลื่อน ต้องพักไป”

อาการความรุนแรงขนาดไหน? “ข้อมือแตกครับ คือทีแรกไม่เป็นไร ก็ไปเอ็กซเรย์อีกทีเพราะว่าทำไมมันปวม เจ็บขนาดนี้ ปรากฏแตก คือเราอยากทำให้มันเต็มที่ เพราะเป็นส่วนหนึ่งในงานของเรา ไม่ได้เป็นซีนใหญ่โตอะไร เดี๋ยวรอดูดีกว่า ให้ทายว่าซีนไหน”

ดูแลต่อยังไง? “หมอให้ใส่เฝือกอ่อนอย่างนี้ไปสามอาทิตย์ แต่เราก็เกรงใจงานอื่นๆ และทางกองที่ทำให้เขาหยุด ก็เลยบอกไปว่าถ้าถ่ายแค่หน้าแต่ตัวเราทำได้ไปถ่ายได้”

กองเลื่อนถ่ายไปเลย? “ก็บอกไปว่าถ้าทำแบบนี้ๆ ได้ ก็ไปให้ได้ครับ บอกตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะเราทำตัวเองนะ”

ใช้ชีวิตประจำวันยังไง? “ได้ปกติ แต่พยายามอย่าแกะอย่าถอดแบบนี้”

ทริปฝรั่งเศสที่รวมกับ Chanel.beauty เป็นยังไงบ้าง? “อ๋อ ดีมากเลย ได้พากันไปดูสวนกุหลาบสวนดอกไม้ที่เราก็ชอบกันอยู่แล้ว ได้ไปเจออะไรที่ชอบอย่างน้ำหอมของเขา ได้ไปดูการผลิตจริงๆ ได้ไปเที่ยวด้วย ได้เจอทีมที่น่ารักมากๆ”

มีโอกาสได้เทียบเชิญอีกไหม? “รอดูโอกาสต่อไปครับ ก็ยังอุบไว้ก่อน แต่อาจจะได้ชมกันในปีนี้ (งานนี้เรียกว่าโกอินเตอร์?) อันนี้เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่และน่าภูมิใจอีกระดับหนึ่งครับ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ