ชาวบ้านจ.ชัยภูมิ แห่ซื้อเตาถ่านไว้ใช้ หลังราคาแก๊สหุงต้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เผยหมู่บ้านดังออเดอร์ปัง ทำขายแทบไม่ทัน สร้างรายได้เสริมให้ชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากทั้งราคาน้ำมันและแก๊สหุงต้ม ปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่ ทำให้มีต้นทุนรายจ่ายที่สูงขึ้น ไม่เพียงพอต่อรายรับตามมาเป็นจำนวนมาก ในขณะนี้แนวทางการแก้ปัญหาของประชาชนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีแหล่งผลิตเตาดินใช้ฟืนหรือถ่านเป็นเชื้อเพลิง ที่สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้านเมืองน้อยเหนือ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยผลิตเตาถ่านที่ให้เก็บความร้อนยาวนานมากขึ้น ไม่แพ้การใช้เตาแก๊สหุงต้มหรือไฟฟ้า
นางปราณี วัย 73 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ที่สืบทอดความรู้ด้านเครื่องปั้นดินเผา มาจากบรรพบุรุษมายาวนาน มาตั้งแต่โบราณจากรุ่นปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ที่ติดตัวมาด้วยจาก จ.นครราชสีมา และมาอยู่ที่จ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่เกิด และยึดประกอบเป็นอาชีพปั้นเตาถ่านดินใช้ฟืนหรือถ่านเป็นเชื้อเพลิง เพื่อส่งขายตั้งแต่จำความได้ มาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนางปราณี และลูกทีมคนในหมู่บ้านอีก 3 คน กำลังเร่งปั้นเตาดินตามขนาดให้ทันความต้องการของยอดสั่งซื้อ ที่นำไปขายต่อในตัวจ.ชัยภูมิและจังหวัดใกล้เคียง หรือตามหมู่บ้านต่างๆ หลังที่แก๊สหุงต้ม ในปัจจุบันปรับราคาพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นครั้งที่ 3 แล้วในขณะนี้ เป็นถังขนาด 15 กิโลกรัม พุ่งถังละ 363 บาท จากเดือนพ.ค.อยู่ที่ 348 บาท
ซึ่งขณะนี้ทำให้พ่อค้าแม่ขาย รวมทั้งชาวบ้านทั่วไป สู้ราคาแก๊สที่ปรับสูงขึ้นไม่ไหว ทำให้มียอดออเดอร์สั่งซื้อเตาถ่านในหมู่บ้านไปขายต่อเพิ่มสูงขึ้น ในขณะนี้กว่า 20% แต่ก็เกิดปัญหาในหน้าฝนที่จะมีฝนตกบ่อยครั้งทำให้ขั้นตอนการผลิตได้ช้าลง ในช่วงนี้ที่เตาแต่ละใบต้องใช้เวลาตากให้แห้งสนิทอย่างน้อย 4-6 วัน (ในช่วงหน้าร้อนก็จะแห้งเร็วตากไม่เกิน 4 วัน แต่ช่วงหน้าฝนต้องใช้เวลาตากให้ได้แดดที่มีความร้อนพอ ต้องใช้เวลาตากเตาถ่านแต่ละใบนาน 6 วันถึงสัปดาห์ขึ้นไป/ใบ) จนผลิตเตาถ่านใช้ฟืนหรือถ่านแห้ง ส่งขายในขณะนี้แทบไม่ทันส่งให้ลูกค้า
“ช่วงนี้หน้าฝนสามารถผลิตเตาดินใช้ฟืนหรือถ่านเป็นเชื้อเพลิงได้เพียงวันละ 100 ใบเท่านั้น แม้ยอดสั่งซื้อจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกกว่า 20% ก็ตาม ก็ยังส่งขายไม่ทัน ซึ่งการผลิตเตาถ่านเน้นคุณภาพ ต้องผ่านขั้นตอนที่ทำสืบทอดกันมาครบทุกขั้นตอน จึงสร้างชื่อให้หมู่บ้านที่นี่ ว่าเป็นเตาดินหรือเตาถ่านเก็บความร้อนที่ขึ้นชื่อของ จ.ชัยภูมิ มายาวนานจนปัจจุบันได้” นางปราณี กล่าว
นางปราณี กล่าวว่า ส่วนราคาขายส่งยังเท่าเดิม ลูกหรือใบเล็กใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงลูกละ 38 บาท ลูกใหญ่ใช้ฟืนหรือถ่านเป็นเชื้อเพลิงลูกละ 65 บาทเท่านั้น ลูกทีมที่ปั้นเตาด้วย จะมีรายได้เสริมกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่มาช่วยผลิตอย่างน้อยวันละ 300-500 บาท ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคน
ส่วนตนหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วมีรายได้จากการปั้นเตาดินขายลูกละ 5 บาท ได้วันละไม่เกิน 100 ลูก ก็พอมีรายได้ต่อวันกว่า 500 บาท พอมีรายได้ในช่วงนี้ได้ และไม่กล้าขึ้นราคา กลัวขายเตาดินใช้ฟืนหรือถ่านเป็นเชื้อเพลิงลดลง ซึ่งก็เห็นใจลูกค้าทุกคนด้วยเช่นกันถ้าเราปรับราคาเขาก็มีต้นทุนเพิ่ม