หนูแหม่ม-บ๊อบบี้ เห่อ 'น้องแอลลี่' หาโรงเรียนรอ อวดความน่ารักลูก ฟังออก 3 ภาษา

Home » หนูแหม่ม-บ๊อบบี้ เห่อ 'น้องแอลลี่' หาโรงเรียนรอ อวดความน่ารักลูก ฟังออก 3 ภาษา


หนูแหม่ม-บ๊อบบี้ เห่อ 'น้องแอลลี่' หาโรงเรียนรอ อวดความน่ารักลูก ฟังออก 3 ภาษา

หนูแหม่ม-บ๊อบบี้ เห่อ ‘น้องแอลลี่’ หาโรงเรียนรอ อวดความน่ารักลูกสาว ฟังออก 3 ภาษา

หนูแหม่ม-บ๊อบบี้ / เปิดครอบครัวสุดอบอุ่นของ หนูแหม่ม สุริวิภา กับคุณสามี บ๊อบบี้ ที่วันนี้อุ้ม น้องแอลลี่ มาเผยความน่ารักครั้งแรก พร้อมเผยพัฒนาการของลูกสาววัย 1 ขวบ 2 เดือน สายลุย ฟังเข้าใจแล้ว 3 ภาษา งานนี้แด๊ดดี๊บ๊อบบี้เห่อหนักมาก ติดกล้องวงจรปิดทั่วบ้านเอาไว้ดูลูกโดยเฉพาะ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show ทางช่อง วัน31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ, ชมพู่ ก่อนบ่าย และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

น้องแอลลี่กี่ขวบแล้ว? หนูแหม่ม : 1 ขวบกับ 2 เดือนเมื่อวานนี้

เห็นว่าพูดได้ 3 ภาษา? หนูแหม่ม : ณ วันนี้แอลลี่ยังไม่ได้พูด เขาเดินก่อน แต่ว่าเราเดากันว่าแอลลี่เข้าใจทุกภาษาที่ทุกคนคุยในบ้าน มีภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และกะเหรี่ยง เพียงแต่ว่าเขายังไม่ได้เลือกที่จะพูดภาษาอะไรก่อน

ตามเกณฑ์การพูดมองว่าน้องช้าไหม? หนูแหม่ม : เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน หนูแหม่มไม่รู้สึกว่าช้านะคะ หนูแหม่มว่าเมื่อไหร่ที่เขาพร้อม เดี๋ยวเขาก็จะพูดเพราะว่าเขายังขยับปากตามเรา เขาฟังเรา เขาสื่อสารกับเรา ซึ่งเราก็คุยกับคุณหมอตลอด คุณหมอก็ไม่ได้เร่งอะไรเขาหนูแหม่มคิดว่าไม่หรอกมันตามเกณฑ์

เห็นว่ามีชาวเน็ตช่วยเลี้ยงด้วย? หนูแหม่ม : ไม่เยอะๆ เขาน่าจะเห็นแล้วคงเป็นห่วง เขาบอกว่าน่าจะฝึกให้น้องใส่แมสก์ ซึ่งน้องยังเด็กเกินไป คุณหมอบอกว่าถ้าจะฝึกใส่แมสก์จริงๆ ก็ต้อง 2 ขวบขึ้นไป แต่ก็ขอบคุณนะคะ เขาเป็นห่วงนั่นแหละ เพราะน้องยังเล็กมาก

การมีลูกเขาสามารถเติมเต็มได้จริงไหม หรือเขาสามารถประสานความเป็นชีวิตคู่ให้มันต่อไปได้สำหรับกรณีการมีลูก? หนูแหม่ม : เอาเติมเต็มก่อน ถ้าคิดว่าอยากให้เติมเต็มผิดตั้งแต่คิดแล้ว เราต้องมีพอก่อน ต้องมีเหลือก่อน ใจเราพร้อมก่อน หมายถึงเหลือในเรื่องของความรัก เหลือในเรื่องของการที่อยากจะให้ เหลือในเรื่องของการที่เห็นเขาอยากได้รับโอกาส

อย่าคิดว่าต้องมาเติมเต็ม เพราะเราไม่ได้คิดว่าเขามาเติมเต็ม เรามีล้นอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นความรัก โอกาสความสุข อันนั้นคือคำตอบที่ว่าเราพร้อมแล้วหรือยัง ทุกอย่างเหมือสวรรค์จัดสรรให้เราแล้ว มันเป็นพรหมลิขิต ถ้าเราไปกระเสือกกระสนเราจะไม่ได้อารมณ์นี้เลย

ทั้งที่ทุกวันนี้พี่หนูแหม่มจดทะเบียนรับเป็นลูกตามกฎหมาย แต่พี่หนูแหม่มจะให้เกียรติแม่แท้ๆ เขามากที่สุด? หนูแหม่ม : ใช่ค่ะ อันนั้นคือเบอร์ 1 เขาโตมาเขาก็ต้องรู้ด้วยว่าอันนั้นคือเบอร์1 ของเขา

ถ้าสมมติในอนาคตแม่ๆ ต้องไปใช้ชีวิตของเขาไม่อยู่กับเราแล้ว? หนูแหม่ม : เรามองว่านั่งคือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวของแม่ๆ และแอลลี่แต่วันที่แอลลี่มั่นคงในทุกด้านอย่างเช่นสามารถดูแล จัดสรร รับผิดชอบต่อชีวิตเขาได้

หมายถึงว่าเขาโตที่จะตัดสินใจเองได้ คือเกิดขึ้นแน่นอน การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นตอนนี้เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือฟอร์มให้แอลลี่เป็นคนที่เข้มแข็งแล้วก็รับได้กับทุกสถานการณ์ ตัดสินใจเองได้ในทุกสถานการณ์ วันนั้นโบยบินเลยลูก

เราเตรียมความรู้สึกตรงนี้ยังไง? หนูแหม่ม : หนูแหม่มเตรียมตั้งแต่เดย์วันที่เราจะรับ

บ๊อบบี้ : ก่อนเรารับ เรามาคุยกันก่อน

หนูแหม่ม : เราประชุมกันทั้ง 2 ครอบครัวแล้ว ให้ไปถามยาย ถามตา ถามปู่ ถามย่า พ่อๆ แม่ๆ ว่ายังไง พี่หนูแหม่มไม่ได้คุยกัน 2 คน เพราะฉะนั้นเราวางแผนตั้งแต่วันแรกแล้ว

บ๊อบบี้ : เราคุยกันแต่แรก แอลลี่จะอยู่กับใครหรือตัดสินใจอะไรเป็นสิทธิ์ของแอลลี่เลย เราจะไม่ทะเลาะ ไม่บังคับ เราจะไม่เป็นแบบนั้น เราแค่อยากให้แอลลี่โตขึ้นเป็นคนดี

พอมีเด็กสักคนมาอยู่ในบ้านมันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วจริงไหม? บ๊อบบี้ : เมื่อก่อนแหม่มกลับมาจากที่ทำงาน ร้อน โมโหนู่น นี่ เจอแอลลี่ยิ้มทีเดียวหาย

หนูแหม่ม : เรากลัวเขารับความเทาๆ จากเราไป เราต้องเปลี่ยนโหมด

เห็นว่าตอนนี้ไปดูโรงเรียนแล้วเหรอ? หนูแหม่ม : เผอิญว่าเราเห็นในเฟซบุ๊ก เป็นเนอร์สเซอรี่ พาแอลลี่ไปเที่ยวเล่นดีกว่า เขาชอบนะคะ

หลายคนมองว่าแอลลี่เพิ่งขวบกับสองเดือน ไปดูโรงเรียนแล้ว เห่อไปหรือเปล่า? หนูแหม่ม : ก็เห่อนะ จริงๆ เราเตรียมถึงเข้าอนุบาลไปแล้ว

ปรับตัวกันยากไหมพอมีน้องเข้ามา ในการใช้ชีวิตส่วนตัว หรือเรื่องบางที่รู้สึกเหตุผลไม่ตรงกัน? หนูแหม่ม : ถ้าเป็นเมื่อก่อน พี่ว่าน่าจะไฟว์กันบ้านแตกแน่เลย แต่ชีวิตมันมาถึง 55 มันเหมือนต้องฟังความอีกข้างนึงด้วย แล้วค่อยเอามาไตร่ตรอง

เห็นว่ามีรับเลี้ยงน้องบุญธรรมอีกคนชื่อน้องจิ๊กซอว์? หนูแหม่ม : ใช่ค่ะๆ ของน้องจิ๊กซอว์จะเป็นแนวอุปการะ ไม่ได้ยกเป็นบุตรบุญธรรม จริงๆ น้องจิ๊กซอว์ทุกคนเคยเห็นเขาแล้วในไวรัลข่าวเมื่อปีนู่น น้องจิ๊กซอว์เป็นเด็กคนนึงที่แม่กำลังถ่ายคลิปแล้วนั่งร้องไห้ เป็นข่าวเกือบทุกสถานีเลยนะบอกว่าแม่น้องอยากขาว เขาพูดถาษาใต้ แม่ก็เลยตกใจถ่ายคลิปไว้ ทำไมน้องถึงพูดแบบนี้

เขาบอกปู่ดำกับปู่เล็กเรียกน้องว่าอีดำ แล้วก็ร้องไห้ เขาบอกน้องดำๆ น้องอยากขาวๆ ด้วยความที่น้องเป็นผิวที่ติดทะเล หรืออาจจะเป็นคุณปู่ คุณตา ผิวสีก็ได้ ทุกคนก็จะเรียกแบบที่เราพูดไปเมื่อกี้ เรารู้สึกว่าเด็กคนนึงไม่ควรที่ถูกบูลลี่อะไรแบบนี้ เขาเด็กเกินกว่าที่จะมาแบกรับสถานการณ์แบบนี้ เราไม่มีทางรู้ว่าถ้าเขารับมือไม่ได้

อนาคตจะเป็นยังไงพี่รู้สึกว่าเราจริตตรงกัน ตั้งแต่วันที่เห็นในข่าว ก็เลย DM คุยกับคุณแม่ไป ด้วยความที่เราอ่อนหัดเรื่อง TIKTOK มากเมื่อปีนู้น ก็ไม่เห็นแม่ตอบสักที แม่เขาคงคิดว่าเราเป็นตัวปลอมหรือแบบอาจจะมาหลอกเขาหรือเปล่า ก็ไม่ได้รับการตอบ 1 ปีผ่านไป พี่ก็เก่งTikTok ขึ้น คลิปใหม่น้องก็เด้งขึ้นมา พี่ก็รีบคุยไปเลย โชคดีครั้งที่2 พี่เก่ง TikTok แล้ว

แม่ก็เลยตอบกลับมา เขาขอโทษข้อความเมื่อปีนู้นเขาไม่ได้อ่าน มันไม่ขึ้นมา เขาบอกอย่างนี้ พี่ก็เลยรู้สึกแบบี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นพี่ขอเป็นส่วนนึงในครอบครัวของคุณแม่ทำให้น้องเข้มแข็งทางภาวะอารมณ์ของเด็ก 5 ขวบ จริงๆ น้องไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นพูด พี่รู้สึกว่าพี่ทนไม่ได้ที่เด็กถูกบูลลี่ เราจะซัพพอร์ตน้องในทุกเรื่อง

เรื่องอะไรบ้าง? บ๊อบบี้ : เรียนเป็นหลัก เรียนภาษาอังกฤษ เรียนว่ายน้ำ กิจกรรมที่จิ๊กซอว์อยากทำเราสนับสนุน ไปซื้อของ ซื้อเสื้อผ้า

คุณพ่อ คุณแม่น้องว่ายังไงบ้าง? หนูแหม่ม : อีกไม่กี่สัปดาห์นี้เราจะไปที่ชุมพร ไปเจอคุณพ่อ คุณแม่น้อง เราเจอแค่คุณแม่คนเดียว ตอนที่น้องมากรุงเทพ คุณแม่มาด้วย เราก็จะไปคุยกัน

ตอนที่เขารับสายบอกว่าพี่หนูแหม่มจะมาอุปการะมันเป็นยังไงบ้าง? หนูแหม่ม : เราไม่ได้ประกาศว่าเราจะอุปการะกับแม่เขา แค่บอกว่าคุณแม่มาทำงานร่วมกันไหม โดยที่แม่หนูแหม่มจะเป็นผู้สนับสนุนข้างหลังน้องให้ แล้วให้แม่ของน้องจิ๊กซอว์ชื่อ แม่จุ่ม เป็นคนแอ๊กทีฟหน้างาน เรามาร่วมมือกัน ซึ่งคุณแม่เขาดีใจ เขาบอกว่าเป็นความโชคดีของครอบครัวเขาที่ได้เจอกัน เขาก็คิดว่าเป็นพรหมลิขิตเหมือนกัน

ตอนแรกที่จะอุปการะ พี่หนูแหม่มมาปรึกษาพี่บ๊อบบี้ คุยกันยังไงบ้าง? บ๊อบบี้ : ตอนแรกคิดว่าแหม่มเขาจะแค่ส่งหนังสือ ซื้อของเด็กเล่น ไม่ได้คิดว่าจะเอาเขามากรุงเทพ มาในครอบครัวแบบนี้เราก็โอเค เรายินดี มันทำให้ทุกอย่างมันครบด้วย เราอยากให้จิ๊กซอว์เป็นคนดีในสังคม ไม่อยากให้เขาโดนบูลลี่

หนูแหม่ม : เราไม่มีทางรู้ คุณอาจจะพูดเล่นด้วยความรัก ความเอ็นดูก็ตาม แต่บางคำนั้นมันออกจากปากของคนที่เป็นญาติ หรือคนที่อยู่ในชุมชนเดียวกัน แต่สุดท้ายถ้าเขาข้ามกำแพงบูลลี่ไม่ได้ คนในสังคมคนนึง เสียดายนะคะ ถ้าเราจะหล่อหลอมให้เขาแข็งแรงวันนึงเขาอาจจะโตมาเป็นนางงามก็ได้ เป็นวิศวะก็ได้ เป็นพยาบาล เป็นหมอ อาจจะเป็นนักกีฬาระดับชาติก็ได้

พี่หนูแหม่มเห็นอะไรในตัวน้อง? หนูแหม่ม : จิ๊กซอว์เป็นเด็กที่มีของนะ พูดจาดี เข้าใจพูด คือเราเห็นเงาเราอยู่ในตัวจิ๊กซอว์ จิ๊กซอว์เป็นพิธีกรได้นะ

เลี้ยงลูกด้วยกล้องวงจรปิด? หนูแหม่ม : สืบเนื่องมาจากรถที่บ้านเคยหาย มีคนขโมย มาเอากุญแจแล้วสตาร์ทรถเราออกจากบ้านเลย เราเลยรู้สึกว่าต้องติดกล้องวงจรปิด แต่จริงๆ หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านปิดนะคะ คุณโจรเขาเอาไปเรามาคิดได้ทีหลังว่าติดกล้องวงจรดีกว่า พอติดแล้วก็ยาวมาจนถึงมีลูกมันก็เลยได้ประโยชน์ สมมติเราไปไหน นอนโรงแรมแด๊ดดี้เขาก็จะตื่นเช้ามาดูลูกเขาว่าอ่านหนังสือหรือยัง เล่นของเล่นไหม ใครดูลูกเขา

เป็นกล้องมีเสียงไหม? บ๊อบบี้ : ไม่มีเสียง เห็นแต่ภาพ

หนูแหม่ม : พี่ว่าเดี๋ยวจะเปลี่ยนแล้ว พอหนูพูดเดี๋ยวจะกลับไปเปลี่ยนแล้ว

แล้วเรื่องรถได้คืนไหม? หนูแหม่ม : ไม่ได้คืน หายไปเลย

บ๊อบบี้ : หลักฐานกล้องวงจรปิดมีทุกอย่าง

หนูแหม่ม : หลายปีแล้วค่ะ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ