เศร้า 10ขวบช่วยหมาตกน้ำ สุดท้ายคนไม่รอด สระลึก2เมตร พ่อแม่นั่งร้องไห้กอดร่างลูกแทบขาดใจ เหตุเกิดที่ สนามกีฬาเทศบาลตาคลี นครสวรรค์

วันที่ 27 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวานนี้ ร.ต.อ.อุทัย อุตะยา รองสว.(สอบสวน) สภ.ตาคลี รับแจ้งว่ามีผู้จมน้ำเสียชีวิต ภายในสระน้ำข้างสนามฟุตบอล สนามกีฬาเทศบาลตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่อาสาบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิการกุศลตาคลี

ที่เกิดเหตุ พบว่ามีชาวบ้านช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิต ขึ้นมาจากสระแล้วเป็นด.ช.วัย 10 ขวบ โดยมีพ่อแม่นั่งกอดร่าง ร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ท่ามกลางความสลดหดหู่ของชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์โดยด.ช.พลัดตกลงไปในสระน้ำ ข้างสนามฟุตบอล ซึ่งมีความลึกกว่า 2 เมตร ขณะเดียวกันมีชาวบ้านรายหนึ่ง นำคลิปภาพที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้มาให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

โดยก่อนเกิดเหตุ ด.ช.และพ่อ รวมถึงกลุ่มเพื่อน ได้พากันลงไปที่ขอบของสระน้ำ เพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ที่พลัดตกลงไปในสระน้ำ แต่เนื่องจากบริเวณรอบสระน้ำถูกปูคลุมไปด้วยผ้าใบ จึงทำให้เกิดการพลาดลื่นไถล จนผู้ที่ลงไปช่วยสุนัขพากันเสียหลักพลัดตกลงไปในสระน้ำ

ขณะนั้นพ่อของ ด.ช.และกลุ่มเพื่อน ต่างรีบช่วยกันนำร่างของ ด.ช.ขึ้นมาจากสระน้ำ และช่วยกันผายปอดปั๊มหัวใจอย่างทุลักทุเล แต่สุดท้าย ก็ไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตของ ด.ช.เอาไว้ได้ ส่วนสุนัขจรจัดที่พลัดตกลงไปในสระน้ำ มีพลเมืองดีร่วมกันลงไปช่วยเหลือ เอาขึ้นมาไว้บนฝั่งได้อย่างปลอดภัย

สอบถาม นายอรรถพล อายุ 30 ปี พ่อของ ด.ช. เปิดเผยว่า ในช่วงเย็น ลูกชายมักจะมาเล่นกีฬาออกกำลังกายกับเพื่อนๆ ที่สนามกีฬาแห่งนี้อยู่เป็นประจำ และวันนี้ก็เช่นกัน ลูกชายมาออกกำลังกายตามปกติ โดยมีตนมาด้วย และในระหว่างที่อยู่ภายในสนามกีฬา ได้ไปพบเห็นว่ามีสุนัขจรจัด พลัดตกลงไปในสระน้ำ บข้างสนามฟุตบอล ซึ่งมันกำลังดำผุดดำว่าย ตะเกียกตะกายพยายามเอาตัวรอดอยู่ภายในสระ ตอนนั้น ตนและลูกชายเห็นว่ามีสุนัขตกสระน้ำ จึงได้ไปเรียกกลุ่มเพื่อนของบุตรชายให้มาช่วยกัน

แต่เนื่องจากรอบสระถูกคลุมไปด้วยผ้าใบ ซึ่งมันลื่นมาก จึงทำให้มีบางคนเกิดลื่นเสียหลัก และพากันจับดึงจนทำให้พลัดตกสระน้ำไปกันทั้งหมด และในระหว่างนี้ ต่างคนก็ต่างพากันเอาตัวรอดเพื่อเข้าฝั่ง ส่วนตนก็ยังอยู่ในน้ำ และพยายามมองหาลูกเพื่อช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่า ลูกของอยู่ไกลตัวเกินไป จึงทำให้ว่ายน้ำไปช่วยไม่ทัน กว่าจะไปใกล้ถึงตัว ลูกก็จมหายไปต่อหน้าต่อตาแล้ว และต้องให้ทีมกู้ภัยมาช่วยกันงมหาร่างขึ้นในภายหลัง

ทั้งนี้ ในระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ชันสูตรอยู่นั้น จู่ๆผู้เป็นแม่ของด.ช.เกิดอาการแปลกๆ ระหว่างนั่งกอดร่างของลูกชาย โดยมีลักษณะปากจู่ สีหน้าท่าทางน้ำเสียงเปลี่ยนไป พร้อมคำพูดคล้ายกับเด็กว่า “แม่หนูไม่อยากไป แม่หนูรักแม่ แม่รักหนูไหม แม่ๆ หนูอยากอยู่กับแม่ที่สุดเลย หนูรักแม่ที่สุด แม่รักหนูไหม” สร้างความตกอกตกใจต่อผู้ที่มามุงดูเหตุการณ์ ต่างวิพากวิจารณ์ เชื่อว่าน่าจะเป็นวิญญาณของ ด.ช.มาเข้าสิงร่างของแม่

แต่ก็ยังมีชาวบ้านอีกบ้างส่วน ต่างสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วยิ่งได้เห็นแม่ถูกวิญญาณลูกเข้าสิง ยิ่งทำให้ชาวบ้านบางคนถึงกับกั้นน้ำตาไม่ไหว แต่อย่างไรก็ตาม หลังการชันสูตรเบื้องเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งร่างคืนให้กับพ่อแม่ของผู้ด.ช.เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป