สาวแจ้งความแล้ว กระบะหัวร้อนขับปาด – ตามด่า สงสารลูกร้องไห้เสียขวัญ

Home » สาวแจ้งความแล้ว กระบะหัวร้อนขับปาด – ตามด่า สงสารลูกร้องไห้เสียขวัญ


สาวแจ้งความแล้ว กระบะหัวร้อนขับปาด – ตามด่า สงสารลูกร้องไห้เสียขวัญ

สาวแจ้งความแล้ว กระบะหัวร้อนขับปาด – ตามด่า สงสารลูกร้องไห้เสียขวัญ เกรงไม่ปลอดภัย

จากกรณีมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “คนเราน้อ สงสารชมพู่ต้องมาเจอแบบนี้ “ พร้อมคลิปเหตุการณ์ ที่กำลังถูกด่าทอ โดยผู้ใช้รถ อีกคัน ซึ่งจากในคลิป จะเห็นได้ว่ามีการขอโทษขอโพย แต่ทางฝั่งคู่กรณี กลับไม่หยุด และต่อมา มีเสียงเด็ก พูดจนร้องไห้ “ทำอย่างนี้กับแม่หนูได้อย่างไร ใจดำจัง”

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2565 ที่ สน.โชคชัย น.ส.วรวลัญซ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วสุ ลีฬหาศิลป์ ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากกรณีมีรถยนต์กระบะ สีขาว ยี่ห้อโตโยด้า สีขาว ชับเข้ามาปาดหน้ารถยนต์ของตน เหตุเกิดที่ ซอยเสนานิคม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 18 พ.ค.65 ที่ผ่านมา

เหตุเพราะหลังจากที่ตนเองโพสต์ลง Facebook ได้มีการแชร์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย จึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย ต่อตนเองและลูก เพราะเหตุการณ์ดังกล่าว คู่กรณี ได้มีการใช้อารมณ์และข่มขู่

โดยน.ส.วราลัญซ์ เล่าเหตุการณว่า ตนพาลูกสาวขับรถมา หาร้านขนม พอมาถึงร้านดังกล่าว ก็ได้เปิดไฟเลี้ยว แต่ในขณะนั้นร้านขนมไม่ได้เปิดขาย ตนจึงหักรถออก และได้ยินเสียงบีบแตร ไล่หลัง จึงได้ยกมือขอโทษ เพราะคิดว่าตัวเอง อาจจะหักรถออกไปกินเลนหรือเปล่า ต่อจากนั้นก็ขับมาเรื่อยๆ แต่ก็เห็นรถกระบะคันหลังขับจี้เข้ามา จนกระทั่งถึงกลางซอย ซึ่งบริเวณถนนดังกล่าว ซึ่งเป็นสี่แยกและ ได้มีน้ำท่วมขัง ตนเองจึงชะลอรถ เพราะเกรงว่า หากขับเร็ว น้ำที่ท่วมขังนั้นอาจจะกระเซ็นไปโดนคนอื่น และได้ขับมาเรื่อยๆ

แต่กระบะที่ตามมาด้านหลัง กลับปาดหน้า และชายคนขับลงมาตะโกนด่าทอตน เหตุการณ์ต่อไปก็เป็นไปตามคลิป ที่ถูกบันทึกไว้ได้โดยกล้องภายในรถ ซึ่งขณะนั้นลูกสาวที่นั่งมาในรถ ก็ได้พูดขึ้นมาว่า “แม่หนูขอโทษแล้ว” แต่กระบะคู่กรณี ก็ยังไม่ยอมหยุด

เหตุที่เดินทางมาลงบันทึกประจำวันในวันนี้ ก็ไม่ได้ติดใจ หรืออยากจะเอาเรื่องแต่อย่างใดเพียงแต่กังวลใจว่ามีการแชร์ลงไปเยอะ เกรงว่าตนเองและลูกจะไม่ปลอดภัย แต่ในความรู้สึกจริงๆแล้วก็คิดว่าไม่น่าจะโดนอะไรมากมายขนาดนี้ทั้งที่มีเด็กอายุเพียง 5 ขวบอยู่ในรถด้วย ก็ไม่น่าจะมาเจออะไรแบบนี้ จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน น.ส.วราลัญซ์ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ