โค้งสุดท้ายก่อนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม จะเดินทางมาถึงมีความแหลมคม
เป็นความแหลมคมไม่เพียงแต่ 1 ไม่ปรากฏเงาร่าง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง บนเวทีดีเบตประชันวิสัยทัศน์บางแห่ง
แต่ก็ปรากฏใน “บางแห่ง” อย่างน่าจับตา
เป็นความแหลมคมที่ 1 ผลปรากฏของ “โพล” ดำเนินไปอย่างแยกขั้ว แตกฝ่ายคะแนนและความนิยมออกมาอย่างเด่นชัด ไม่เกรงอกเกรงใจกัน
บ้างก็ “ชัชชาติ” นำโด่ง บ้างก็ “อัศวิน” นำโด่ง
ผลโพลที่มีชื่อของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นำโด่งก่อให้เกิด “คำถาม” ตามมามากมาย
หากประเมินผ่านแนวทางการวิเคราะห์ตั้งแต่โค้งแรกจากความชัดเจนของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ว่า “ม้ามืด” แท้จริงคือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
ก็ไม่น่าจะบังเกิดข้อกังขาตามมา
เพราะเมื่อประเมินจาก “ความพร้อม” ที่มีอยู่ 5 ปีในตำแหน่ง “ผู้ว่าฯ กทม.” ประสานกับการเดินสายเชียร์อย่างลับผ่านคลองโอ่งอ่างก็แจ่มชัด
แม้ว่าจะแย้งกับ “โพล” ที่มีอยู่อย่างเป็น “ด้านหลัก”
เส้นทางของ “โพล” บ่งสะท้อนการแบ่งขั้ว แยกฝ่ายทางการเมืองอย่างไม่อำพราง
หากว่าเป็นสำนักที่มี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง คะแนนนำที่ไล่ตามมาย่อมเป็น นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ย่อมเป็น นายสกลธี ภัททิยกุล
และรวมถึง น.ส.รสนา โตสิตระกูล
หากเป็นสำนักที่มี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คะแนนนำที่ไล่ตามห่างๆ ย่อมเป็น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ น.ต.ศิธา ทิวารี
จึงกล่าวได้ว่าเป็นปีก “อัศวิน” ประชันกับปีก “ชัชชาติ”
กระนั้น หากมองสำนักพัฒนบริหารศาสตร์ สำนักสถาบันพระปกเกล้า ก็จะเห็น
ผลตรงกันอยู่ที่ชื่อของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตามมาด้วยชื่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และชื่อของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
ขณะที่โพลลึกลับระบุอย่างมองข้าม “วิโรจน์” ไปเลย