ในขณะที่บรรดาน้ำตกชื่อดังระดับโลกอย่างไนแองการาหรืออีกวาซูเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ รายล้อมด้วยร้านอาหาร ร้านขายของกระจุกกระจิก และรถรับส่งนักท่องเที่ยว ถ้ากำลังมองหาประสบการณ์แบบออร์แกนิกเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายดังที่กล่าวมา การเดินป่าเข้าไปชมน้ำตกก็น่าสนใจ ลองมาดูว่าทั้ง 8 เส้นทางที่ว่านี้จะอยู่ ณ มุมไหนของโลกกันบ้าง

Veliki Slap, Croatia

ในอุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิตวิเชแห่งโครเอเชีย มีน้ำตกทั้งหมด 7 แห่ง แต่ที่ Veliki Slap ได้ชื่อว่าสูงที่สุด ถ้าอยากเห็นความยิ่งใหญ่นี้มีวิธีง่าย ๆ คือใช้เส้นทาง A จากทางเข้า 1 และไต่เขาวน 2.2 ไมล์ผ่านน้ำตก แต่ถ้าอยากได้ความท้าทายต้องใช้เส้นทาง C จากทางเข้า 1 และเพลิดเพลินไปกับการเดินป่าระยะทาง 5 ไมล์สลับกับการเดินทางผ่านภูมิทัศน์สุดตื่นตาโดยทางเรือและรถไฟ

Cola de Caballo, Spain

อุทยานแห่งชาติ Ordesa y Monte Perdido มีน้ำตกสวย ๆ อยู่หลายแห่งเหมือนกัน แต่น้ำตก Cola de Caballo นั้นงดงามที่สุด แนะนำให้จอดรถไว้ที่ที่จอดรถ Pradera de Ordesa เพื่อเริ่มต้นการเดินทาง 11 ไมล์ หากไปตั้งแต่เช้าตรู่ก็อาจจะได้เวลาเหลือ ๆ เดินทางต่อไปอีกครึ่งไมล์ผ่านน้ำตกเพื่อไปปิกนิกตอนเที่ยงที่กระท่อมบนภูเขา Refugio de Góriz อีกด้วย

Havasu Falls, Arizona, USA

ก่อนที่จะได้ชมบ่อน้ำสีฟ้าสดใสท่ามกลางผาหินสีแดงส้มไม่ใช่เรื่องง่าย เหตุผลคือน้ำตกแห่งนี้ไม่มีถนนเข้าถึงและยังตั้งอยู่ในที่ดินชนของเผ่าฮาวาซูปาย เพราะฉะนั้นก่อนจะเดินทางไปถึงจึงต้องขอใบอนุญาตก่อนจากนั้นขับรถ 4 ชั่วโมงจากขอบด้านใต้ของอุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอนไปยังยอดเขาฮัวลาปาย จากนั้นใช้เวลาเดินป่า 8 ไมล์ไปยังหมู่บ้าน Supai Village และเดินขึ้นอีก 2 ไมล์ไปยังน้ำตก Havasu และที่สำคัญน้ำตกแห่งนี้ไม่ได้เปิดให้เข้าชมทุกวัน อาจจะต้องพักค้างคืนก่อนด้วย

Gocta Waterfall, Peru

Gocta ได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ตั้งอยู่ในภูมิภาค Amazonas ทางตอนเหนือของเปรู มีหลายวิธีในการเดินทางไปชมน้ำตก เส้นทางที่ง่ายที่สุดคือการเดินป่าจากหมู่บ้าน Cocachimba ระยะทางไป-กลับประมาณ 6 ไมล์ แต่ถ้าต้องการเข้าชมทั้งน้ำตกชั้นบนและชั้นล่างอย่างใกล้ชิด ต้องใช้เส้นทางเดินป่าทางอื่นโดยเริ่มจาก San Pablo และเดินป่าผ่านน้ำตก Cocachimba ไปประมาณ 9 ไมล์

Tappiya Falls, Philippines

น้ำตกอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Batad นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานยนต์หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะจากใจกลางเมือง Banaue แล้วเดินอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงหมู่บ้าน และจากหมู่บ้านไปยังน้ำตกจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที การเดินทางอาจจะกินเวลาไปหนึ่งวันเต็ม แต่ก็คุ้มค่าเพราะเส้นทางนี้จะพาคุณผ่านนาขั้นบันได Batad ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกด้วย

Søtefossen, Norway

อุทยานแห่งชาติ Hardangervidda ของนอร์เวย์มีน้ำตกให้ชมถึง 4 แห่ง เริ่มต้นที่หมู่บ้าน Kinsarvik คุณจะได้เดินทางข้ามแม่น้ำ Kinso ก่อนผ่านน้ำตก Tveitafossen ที่ชวนตะลึงตั้งแต่เริ่ม จากนั้นระหว่างทางก็จะมีน้ำตกเล็ก ๆ ให้ชมอีก 2 แห่งก่อนจะไปจบที่น้ำตก Søtefossen ซึ่งเป็นไฮไลต์ของการเดินทาง ปกติแล้วเส้นทางนี้จะใช้เวลาเดินประมาณ 5-6 ชั่วโมง จึงควรเริ่มทริปตั้งแต่เช้า

Baatara Gorge Waterfall, Lebanon

น้ำตก Baatara Gorge หรือที่เรียกว่า Cave of Three Bridges อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน Mgharet al-Ghaouaghir แนะนำว่าให้มาช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อน้ำแข็งกำลังละลายจากยอดเขาด้านบนและไหลลงมาในปริมาณมากกว่าฤดูอื่น ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนก็น่าเดินทางเข้ามาเก็บภาพความมหัศจรรย์ของธรรมชาติทั้งนั้น

Fairy Pools, Scotland

ตั้งอยู่ที่ Isle of Skye ของสกอตแลนด์ ใช้เวลาเดินป่าเข้าไปไม่นาน จากบริเวณที่จอดรถไปยังน้ำตกมีระยะทางไป-กลับเพียงหนึ่งไมล์ครึ่งเท่านั้น น้ำตกและบ่อน้ำสีฟ้าโคบอลต์สดใสอนุญาตให้ลงไปแช่ตัวได้ด้วย จึงแนะนำให้ไปแต่เช้าแล้วใช้เวลาช่วงบ่ายให้แสงแดดช่วยผึ่งตัวให้แห้งก่อนกลับ