8 สมาคมกีฬา ร่วมแถลงข่าว มีต เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ตั้งเป้ากวาด 28 เหรียญทอง รวมแถลงข่าว 2 ครั้ง ทั้งหมด 12 สมาคมกีฬา ตั้งเป้ากวาดไปแล้ว 35 เหรียญทอง
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 นายศิริ สาระผล อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานในงาน “มีต เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32” รอบที่สอง ซึ่งจัดขึ้นเพื่อประเมินความหวังของนักกีฬาไทยในศึก “คัมโบเดีย2023” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.66 โดยงานจัดขึ้นที่ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีผู้แทนจาก 8 สมาคมกีฬา ร่วมแถลงความพร้อม
เริ่มที่สมาคมฯ แรก ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ซีเกมส์ครั้งนี้เจ้าภาพจำกัดการส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน โดยประเภทต่อสู้จาก 16 รุ่น ส่งได้แค่ 10 รุ่นเท่านั้น และร่ายรำ จาก 8 ส่งได้ 5 รุ่นเท่านั้น ทำให้โอกาสที่ไทยจะคว้าเจ้าเหรียญทองในกีฬาเทควันโดเหมือนทุกครั้งคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ยังตั้งเป้าเอาไว้ไม่ต่ำกว่า 5 เหรียญทอง โดยปัญหาที่กังวลก็คือเรื่องของการตัดสินที่ใช้การตัดสินด้วยสายตา ไม่ได้กังวลเรื่องเจ้าภาพจะโกง แต่กังวลว่าผู้ตัดสินในอาเซียนนั้นขาดประสบการณ์ และไม่ทันกฎกติกาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นสิ่งที่ย้ำเตือนนักกีฬาคือต้องเตะให้เด็ดขาด ทิ้งห่างหลายๆ คะแนน จะได้ไม่เสียดายถ้าแพ้แค่ 1-2 คะแนนเท่านั้น” ประมุขจอมเตะไทยกล่าว ส่วนเรื่องของ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ที่หลายคนกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บนั้น ทางสมาคมฯ ได้พิจารณาแล้วว่าหลังจากซีเกมส์ยังมีเวลาพักก่อนชิงแชมป์โลกราวๆ 15 วัน ซึ่งก็เพียงพอ นอกจากนี้หลายๆ ชาติในอาเซียนก็ได้มีการสอบถามกันว่าพาณิภัคลงรุ่นไหนจะได้ไม่ลง ดังนั้นคู่แข่งในรุ่นของเทนนิสคงไม่เยอะมาก เตะแค่ 1-2 ครั้งก็ได้เหรียญทองแล้ว บวกกับตัวนักกีฬาเองอยากลงด้วย ดังนั้นจึงสรุปให้ลงแข่งขันซีเกมส์ไป
ด้าน นอ.คมกฤษ ทับแก้ว ผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมหญิง เปิดเผยถึงความพร้อมว่า ในประเภทตะกร้อทีมหญิงเจ้าภาพให้แต่ละชาติส่งได้ 2 ประเภท คือทีมชุด ตะกร้อคู่ และ ตะกร้อเดี่ยว โดยตนมีความมั่นใจมากกับศักยภาพนักกีฬาทุกคนที่มีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนี้เก็บตัวฝึกซ้อมกันอยู่ที่ศูนย์ฝึกตะกร้อแห่งชาติ คลอง 2 ทีมหญิงเราไม่พลาดเป้าทั้ง 2 ทองแน่นอน ส่วนทีมชาย รท.นภา แตงโต ผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาย กล่าวว่า เจ้าภาพจัดบรรจุ 6 อีเวนต์ แต่ให้แต่ละชาติส่งประเทศละ 3 อีเวนต์เท่านั้น ส่วนเจ้าภาพเองสามารถส่งได้ครบ ฝั่งทีมชายไทยเราเองอยากได้ครบทุกเหรียญอยู่แล้ว แต่เพื่อลดความกดดันของนักกีฬาจึงอยากตั้ง 2 ทองไว้ก่อน แต่ซีเกมส์ทุกปีเราก็ยังทำได้สำเร็จ ยังไงก็การันตี 3 ทองแน่นอน ประกอบด้วย ทีมชุด 3 คน, ทีมเดี่ยว 3 คน และ ตะกร้อ 4 คน ขณะที่ประเภทกีฬาตะกร้อชินลง นายสุพจน์ ตุ้มประชา ผู้จัดการทีมชินลง เปิดเผยว่า เราได้สิทธิ์ส่ง 4 อีเวนต์ ชาย-หญิง ประเภทละ 2 อีเวนต์ เราคาดว่าจะได้เหรียญทองในประเภทที่เมียนมาซึ่งเก่งในกีฬาชนิดนี้ไม่ได้ส่งแข่ง ซึ่งเมียนมาเขาทำสถิติสูงสุดไว้ที่ 160 คะแนน แต่เราสามารถทำได้เกินแล้วในตอนซ้อม อีกทั้งล่าสุดเราได้นักกีฬาตะกร้อมาเสริมทัพด้วย จึงมั่นใจว่าอย่างน้อยต้องได้ 2 เหรียญทอง ดังนั้นสรุปแล้วสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยตั้งเป้าคว้าทั้งหมด 7 เหรียญทองด้วยกัน
ขณะที่ นายตะวัน มุ่งพิงกลาง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย กล่าวว่า เจ้าภาพจัดชิงทั้งหมด 17 ทอง โดยในส่วนของชาย จัด 12 แต่ไทยส่งได้แค่ 8 รุ่น ขณะที่หญิงชิง 5 ทอง ไทยส่งได้แค่ 3 รุ่นเท่านั้น ตอนนี้นักกีฬาไทยทีมหญิงกำลังแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศอินเดียอยู่ ถ้าได้เหรียญรางวัลกลับมาเชื่อว่าจะเป็นความมั่นใจที่ดี ทางสมาคมฯ ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 5 ทอง โดยรุ่นที่มีความหวังคือแชมป์เก่าอย่าง สมชาย วงศ์สุวรรณ รุ่น 63.5 กก.ชาย, บรรจง สิงห์ศิริ รุ่น 67 กก.ชาย, จักพงษ์ ยมโคตร รุ่น 86 กก.ชาย รวมถึงนักกีฬาหญิงอย่าง จันทร์แจม่ สุวรรณเพ็ง รุ่น 62 กก.หญิง และจุฑามาศ จิตรพงษ์ รุ่น 54 กก.หญิง
ด้าน นายปิยะพงศ์ พิรุณ เลขาธิการสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย มีการเปิดแข่งขัน 4 ประเภท ประกอบด้วยประเภท 5×5 และ 3×3 ชาย-หญิง โดยในประเภท 3×3 จะมีแข่งก่อน ซึ่งเราสร้างเซอร์ไพรส์ได้ในซีเกมส์ครั้งที่แล้วคือคว้าทั้ง 2 ทองชาย-หญิง ซึ่งในซีเกมส์ครั้งนี้นักกีฬาทั้งชาย-หญิงเราก็จะยังเป็นชุดเดิมทั้งเซต ส่วนในประเภท 5×5 ทีมชายเราได้เหรียญทองแดงครั้งที่แล้ว ปีนี้เราเสริมกำลังเข้ามาสำหรับทีมชาย ได้ ไทเลอร์ แลมบ์ กลับมาช่วยหลังจากที่ครั้งที่แล้วเจ้าตัวติดภารกิจ และเตรียมดึงนักกีฬาลูกครึ่งคนใหม่จากลีกบุนเดสลีก้าที่เยอรมันมาร่วมทีม ซึ่งแม่เขาอาศัยอยู่ที่บุรีรัมย์กำลังทำการเจรจามาร่วมทีมชาติ ซึ่งตอนนี้คงยังเปิดเผยชื่อไม่ได้ โดยเจ้าตัวสูง 2 เมตรกว่า อายุประมาณ 30 ปี ด้านทีมหญิง 5×5 เราไม่ได้ขึ้นโพเดียมในครั้งที่แล้วถือว่าน่าผิดหวัง ในครั้งนี้เราล้างทีมสต๊าฟเดิมไปทั้งหมด ก็คาดหวังว่าทีมชุดใหม่นี้จะช่วยกันพัฒนานักกีฬาให้สามารถขึ้นโพเดียมได้ ตั้งเป้าทั้งหมดหวังไว้ที่ 2 ทองในประเภท 3×3 แต่จะดีกว่าครั้งก่อนคือสามารถขึ้นโพเดียมได้ทุกรุ่นแน่นอน
ผศ.ดร.ชาญชัย สุขสุวรรณ์ นายกสมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เราตั้งความหวังไว้ที่ 3 เหรียญทอง และอาจจะมีบวกเพิ่ม 1 ทอง ซึ่งต้องบอกว่าหนนี้เจ้าภาพบรรจุบางอีเวนต์ที่ไม่เป็นสากล โดยทั้งหมดเปิด 13 อีเวนต์ แบ่งเป็น ประเภทดูโอ้โชว์ 6 อีเวนต์, ยูยิตสูล็อก 3 อีเวนต์ และ ประเภทโนกิ 4 อีเวนต์ ซึ่ง โนกิ เป็นประเภทที่สหพันธ์กีฬายูยิตสูนานาชาติไม่ได้รองรับ และประเภทนี้เจ้าภาพเอาตัวอเมริกามาเล่นโดยที่ไม่ได้เป็นลูกครึ่งด้วย ดังนั้นไทยเราก็น่าจะลำบาก แต่ตั้งเป้าไว้ก่อน 3 ทอง ประกอบด้วย ประเภทดูโอ้โชว์ 2 ทอง และ ประเภทยูยิตสูล็อก 1 ทอง
นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ซีเกมส์ครั้งที่แล้วปันจักสีลัตนำเหรียญทองแรกมาให้แก่ประเทศไทยได้อย่างยิ่งใหญ่ ครั้งนี้เราก็จะพยายามทำให้ไม่น้อยหน้าครั้งที่แล้ว และมีความพร้อมที่ดี เราเก็บตัวกันอย่างต่อเนื่องที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตยะลา โดยเจ้าภาพจัดบรรจุ 22 อีเวนต์ ซึ่งไทยเราส่งแข่ง 13 อีเวนต์ แบ่งเป็น ประเภทต่อสู้ชาย 8 คน หญิง 2 คน และประเภทปันจักลีลา ส่ง เดี่ยวชาย, คู่ชาย และ เดี่ยวหญิง โดยเราตั้งเป้าไว้ที่ 2 เหรียญทองจากประเภทต่อสู้ได้แก่ อาดิลัน เจ๊ะแมง ความหวังสูงสุดในรุ่น 65 กก. ชาย เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัย ส่วนอีกหนึ่งทองคือ สุทัศน์ บุญชิต ในประเภทต่อสู้ 80 กก. ชาย อีกเรื่องคือปันจักสีลัตเพิ่งได้มีการเปลี่ยนกติกาใหม่ ซึ่งเรากำลังพยายามเทรนด์ให้นักกีฬาคุ้นชิน แต่ไม่น่ามีปัญหาเพราะกติกาใหม่ค่อนข้างเข้าทางกีฬามวยไทยซึ่งปันจักฯ เราเองก็มีอดีตนักกีฬามวยไทยเยอะ ดังนั้นเป้า 2 ทองไม่น่าพลาด
นายปราโมทย์ สุขสถิตย์ ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาโววีนั่มแห่งประเทศไทย เผยว่า โววีนั่ม เป็นกีฬาประจำชาติของเวียดนาม ซึ่งซีเกมครั้งที่ผ่านมา ที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เราได้มาทั้งหมด 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ครั้งนี้เรามีประสบการณ์มากขึ้น รวมถึงเราเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องว นักกีฬาพร้อมสมบูรณ์สำหรับการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นครั้งนี่เราตั้งความหวังไว้ที่ 2 ทองจากต่อสู้ และยังแอบหวังว่าจะได้เพิ่มอีก 1 เหรียญทองจากประเภทท่ารำ ซึ่งได้ผู้ฝึกสอนชาวเวียดนามเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้วย สรุปครั้งนี้สมาคมกีฬาโววีนั่มแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าไว้ที่ 3 เหรียญทอง
ปิดท้ายที่ พลเอกสุชาติ จิตต์แจ้ง นายกสมมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ซีเกมส์ ในปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ไทยคว้ามาได้ 3 เหรียญทอง ส่วนซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา ในปี 2022 เราไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ เราทำได้ดีที่สุดที่ 5 เหรียญทอง 10 เหรียญทองแดง ซึ่งสาเหตุที่เราพลาดเหรียญทองก็มาจากเป็นช่วงที่นักกีฬาถ่ายเลือดใหม่ นักกีฬาเก่าเลิกเล่นไป ทว่าปีนี้โชคดี เราเพิ่งจะกลับมาจากการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งทำให้เราได้เห็นคู่แข่ง ซึ่งครั้งนี้คู่แข่งที่น่ากลัวยังเป็น เวียดนา, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย อีกทั้งครั้งนี้เราได้นักกีฬาเก่าที่เคยคว้าเหรียญทองกลับมาช่วยทีมด้วย ทำให้เราหวังว่าจะสร้างเซอร์ไพรส์คว้าเหรียญทองได้ในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับซีเกมส์ ที่กัมพูชา คาราเต้ไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 17 คน แบ่งเป็นหญิง 6 คน และชาย 11 คน ชิงชัยทั้งหมด 13 เหรียญทอง ก็หวังว่าไทยจะได้ซัก 1 เหรียญทอง
สรุปผลมีต เดอะเพรส ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในรอบที่สอง ทั้ง 8 สมาคมกีฬา ตั้งเป้าคว้ารวมทั้งสิ้น 28 เหรียญทอง จากตะกร้อ 7 ทอง, เทควันโด 5 ทอง, มวยสากล 5 ทอง, ยูยิตสู 3 ทอง, โววีนั่ม 3 ทอง, บาสเกตบอล 2 ทอง, ปันจักสีลัต 2 ทอง และ คาราเต้ 1 เหรียญทอง
รวมการแถลงความพร้อมมีต เดอะเพรส สองรอบ ทั้งหมด 12 สมาคม ตั้งเป้าแล้ว 35 เหรียญทอง โดยสำหรับกำหนดการ “มีท เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32” รอบที่สาม จะมีขึ้นในวันศุกร์ ที่ 24 มี.ค.นี้ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป โดยจะมี 6 สมาคมกีฬา ประกอบด้วย วอลเลย์บอล, กอล์ฟ, เรือยาวประเพณี (เรือพาย), เจ็ตสกี, หมากรุกเซี่ยงฉี และ หมากรุกสากล ร่วมแถลงความพร้อม