7สมาคมกีฬา ประเดิมแถลงความพร้อมซีเกมส์กับสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย “มีต เดอะ เพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31” ประกาศตั้งเป้ารวม 18 ทอง
7สมาคมกีฬา ประกอบด้วย คูราช, มวยปล้ำ, ยิมนาสติก, ยูโด, มวยสากล, ยูยิตสู และแบดมินตัน ร่วมแถลงความพร้อมในการเตรียมสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม “มีต เดอะ เพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31” เมื่อ 18 เม.ย. ที่ห้องประชุม 222 โซนอี สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมี “บิ๊กก้อง”ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นประธาน
นายจักรพันธ์ นาคลดา เลขาธิการสมาคมกีฬาคูราชแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กีฬาคูราช จัดในซีเกมส์หนแรก เมื่อปี 2019 ที่ฟิลิปปินส์ หนนั้นไทยคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง มาในครั้งนี้ชิงทั้งหมด 9 เหรียญทอง และไทยส่งแข่งครบ 9 รุ่น ครั้งนี้ทีมคูราชไทยเตรียมตัวมาอย่างดีและเต็มที่
- ชบาแก้ว ยกทัพทดสอบร่างกายครั้งแรก เตรียมพร้อมล่าทองซีเกมส์
“จากการแข่งขันรายการล่าสุดที่ทาจิกิสถาน นักกีฬาไทยสามารถคว้ามาได้ถึง 3 เหรียญทอง โดยคู่แข่งสำคัญยังคงเป็นเจ้าภาพเวียดนาม ที่การสร้างพื้นฐานและการพัฒนาค่อนข้างใกล้เคียงไทยเรามาก อย่างไรก็ดียังเชื่อว่าทัพคูราชไทยจะทำผลงานได้ดีกว่าซีเกมส์ครั้งที่แล้ว คาดหวัง 3 เหรียญทอง จากทั้งผู้ชายและผู้หญิง”
ด้ายนายวิสุทธิ์ ตั้งวาริธร นายกสมาคมกีฬามวยปล้ำแห่งประเทศไทย เผยว่า ตอนนี้ทัพนักกีฬาเก็บตัวกันอยู่ที่ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี ทั้งทีมหญิงและทีมชาย ทีมละ 12 คน ซึ่งกำลังเก็บตัวซ้อมกันอย่างเข้มข้น แต่ต้องยอมรับว่ายังมีอุปสรรคที่เรื่องของงบประมาณจากทางภาครัฐที่ค่อนข้างล่าช้า คงต้องรอทางการกีฬาแห่งประเทศไทยพิจารณาในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามทัพนักมวยปล้ำไทยยังพร้อมสู้เต็มที่ และคาดหวังไว้ที่ 2 เหรียญทองจากนักกีฬาชายประเภทฟรีสไตล์ รุ่น 74 ก.ก. และประเภทเกร็กโกโรมัน รุ่น 97 ก.ก. ส่วนนักกีฬาหญิงความเป็นไปได้ยัง 50-50
ส่วนน.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เผยว่า ซีเกมส์หนนี้ยิมนาสติก จัดชิงชัย 21 เหรียญทอง จึงถือเป็นกีฬาที่สามารถตัดสินเจ้าเหรียญทองได้เลย โดยผลงานในซีเกมส์ครั้งที่แล้วคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง
“อันที่จริงทางสมาคมมองว่า 5 เหรียญเงินจากซีเกมส์ครั้งที่แล้วนั้นควรเป็น 5 เหรียญทองด้วยซ้ำ มั่นใจถึงความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้น เพราะเนื่องด้วยกีฬายิมนาสติกเป็นกีฬาที่ตัดสินด้วยสายตา แต่ครั้งนี้เราเก็บข้อผิดพลาดจากครั้งที่แล้วนำมาแก้ไข และเชื่อว่าจะทำได้ดีกว่าเดิม โดยขอตั้งเป้าเอาไว้ที่ 1 เหรียญทอง”
ขณะที่ ร.ต.หญิงพัชรี พิไชยแพทย์ ผู้ฝึกสอนทีมยูโดเผยว่า ในซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ ทีมยูโดไทยทำได้ถึง 7 ทอง มาคราวนี้เวียดนามตัดรุ่นที่ไทยได้เหรียญทองออกเกือบหมด แล้วทำการบรรจุรุ่นที่ไม่มีโอในโอลิมปิกเกมส์เข้ามา ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากขึ้นกับการรักษาความหวังเหรียญทองของเอาไว้
“หนนี้ทีมส่งแข่งนักกีฬา 17 คน แบ่งเป็นประเภทเดี่ยว 10 คน เป็นนักกีฬาหน้าใหม่เกือบครึ่งทีม ซึ่งจะมีทีมผสมชิงชัยเป็นครั้งแรกด้วย โดยเป้าหมายของเรา ตั้งเอาหวังไว้ที่ 3 เหรียญทอง จากทั้งหมด 13 เหรียญทอง”
ด้าน พล.อ.อ.ระพีพัทธ์ หลาบเลิศบุญ ประธานเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เผยว่า “ต้องยอมรับว่าเจ้าภาพเวียดนาม ที่มาเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่กับเรา ทำให้เราได้เห็นเทคนิคและฝีมือ พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วมากๆ”
“โดยหนนี้มวยสากลมีชิงชัยรวม 13 รุ่น แต่ไทยส่งแข่งได้แค่ 11 รุ่น แบ่งเป็นชาย 7 รุ่น และหญิง 6 รุ่น ถึงเวลานี้นักกีฬาของเรามีความพร้อมที่จะลงทำการแข่งขันและตั้งเป้าเอาไว้ที่ 5 เหรียญทอง โดยชาติที่เป็นคู่ต่อกร คือฟิลิปปินส์ ซึ่งมวยชายแข็งแรง และเวียดนาม ที่มีมวยหญิงแข็งแกร่ง ลึกๆ ยังเชื่อ 11 รุ่นที่ไทยส่งแข่งขันจะได้เหรียญติดมือครบทุกคน”
ผ.ศ.ชาญชัย สุขสุวรรณ์ นายกสมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย เผยว่า ซีเกมส์ครั้งที่แล้วทัพยูยิตสูไทยคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง ครั้งนี้เจ้าภาพเวียดนามจัดชิงชัย 6 เหรียญทองจาก 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทเนวาซา 4 ทอง และประเภทโนกิ 2 ทอง
ต้องบอกว่าเจ้าภาพเปิดชิงชัยในประเภทที่ค่อนข้างเข้าทางประเทศตนเอง และส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นประเภทสากลที่ทางสหพันธ์กีฬายูยิตสูนานาชาติเปิดจัดแข่งทั่วไป อย่างประเภทโนกินั้นไม่ได้อยู่ในสหพันธ์อยู่แล้ว ส่วนประเภทเนวาซาที่เปิดแข่งส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้แข่งในสหพันธ์
“อีกประเด็นคือเรื่องของการที่ฟิลิปปินส์ส่งนักกีฬาไปเก็บตัวถึงสหรัฐอเมริกา และประเทศสิงคโปร์ส่งนักกีฬาไปเก็บตัวที่บราซิล จุดนี้อาจมีผล แต่ยังเชื่อว่าการที่ทัพยูยิตสูไทยเก็บตัวภายในประเทศ เน้นพัฒนาเด็กในประเทศ ไม่ใช้ลูกครึ่ง ยังน่าจะสร้างผลงานที่ดีออกมาได้”
“เราตั้งเป้ารักษามาตรฐานซีเกมส์ครั้งที่แล้วไว้ก่อนที่ 2 เหรียญทอง จากนักกีฬาหญิงทั้ง 2 รุ่นของประเภทเนวาซา ได้แก่ กัญจุฑา ภัทรบุญซ่อน ในรุ่น 48 ก.ก. และ อรภา เสนาธรรม ในรุ่น 63 ก.ก. แต่จริงๆ เราหวังทุกรุ่นที่ส่งไป อยากฝากแฟนๆ กีฬาไทยส่งกำลังใจมาเชียร์ลูกหลานคนไทยด้วยกันเยอะๆ”
ด้านนายธนัช อัศวนภากาศ รองเลขาธิการสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย เผยว่า แบดมินตันซีเกมส์ มีชิง 7 ทอง จากทีมชายและทีมหญิง รวมถึงประเภทบุคคลอีก 5 ประเภท ภาพรวมนักกีฬาชุดนี้ จะใช้ชุดเอกับบีผสมกัน
“ทีมหญิง ที่เราเป็นแชมป์ 4 สมัยติดต่อกัน น่าจะป้องกันแชมป์ได้ ส่วนหญิงเดี่ยว ที่มี หมิว (พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์) นำทัพ เป็นความหวังของเราอีกเหรียญ เช่นกันกับ ชายเดี่ยว ที่มี วิว (กุลวุฒิ วิทิตศานต์) เชื่อว่าหากอยู่ในห้วงเวลาที่เข้าฟอร์ม มีโอกาสได้แชมป์ เช่นกันกับหญิงคู่ โดยรวมเชื่อว่าแบดมินตันไทยในซีเกมส์ น่าจะมี 2 เหรียญทองจากทีมหญิง และหญิงเดี่ยว”
นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สรุปครั้งแรกของการแถลงความพร้อม มีต เดอะ เพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ทั้ง 7 สมาคม ตั้งเป้ารวม 18 เหรียญทอง”
“แบ่งเป็น คูราช 3 เหรียญทอง, มวยปล้ำ 2 เหรียญทอง, ยิมนาสติก 1 เหรียญทอง, ยูโด 3 เหรียญทอง, มวยสากล 5 เหรียญทอง, ยูยิตสู 2 ทองเหรียญทอง และแบดมินตัน 2 เหรียญทอง”
ดร.ก้องศักด เผยว่า เวลานี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเก็บตัวเพื่อไปเวียดนาม สำหรับอุปสรรคในการชิงชัยช่วงการระบาดของโควิด-19 ตนมองว่ามีมากกว่าในภาวะมากปกติ ทั้งความกระชั้นชิด และความไม่แน่นอนของเจ้าภาพในเรื่องกฎ มาตรการ และอีเวนต์ที่จัดการแข่งขัน ทำให้ไทยเตรียมการฝึกซ้อมได้ไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม กกท.พยายามสนับสนุนการฝึกซ้อมของทุกสมาคมให้ได้มากที่สุดและดีที่สุด
“หนนี้กกท. ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬา และคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย โดยใช้งบประมาณเตรียมทีมเก็บตัวฝึกซ้อมและส่งแข่งขันราว 700 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ”
“สำหรับกีฬาซีเกมส์เป้าหมายที่แท้จริงของเรา คืออยากให้เป็นเวทีสร้างดาวรุ่งและเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาทุกๆ ชนิดกีฬาเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสู้ศึกเอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ และเวทีนานาชาติ โดยเป้าหมายหลักๆของไทย คือเป็นอันดับ 1 ในชนิดกีฬาที่เป็นสากล ซึ่งมีแข่งขันในโอลิมปิก”
สำหรับการเเถลงข่าว มีท เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ครั้งที่ 2 จะมีขึ้นในวันพุธ ที่ 20 เม.ย. 65 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม 222 โซนอี สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยจะมี 7 สมาคมกีฬร่วมแถลงความพร้อม ประกอบด้วย ฟุตบอลและฟุตซอล, ว่ายน้ำ, ยิงธนู, บาสเกตบอล, ฟันดาบ, ปันจักสีลัต และเปตอง