6 ประโยชน์ของ "แตงโม" ผลไม้สีแดงหวานฉ่ำประจำหน้าร้อน

Home » 6 ประโยชน์ของ "แตงโม" ผลไม้สีแดงหวานฉ่ำประจำหน้าร้อน
6 ประโยชน์ของ "แตงโม" ผลไม้สีแดงหวานฉ่ำประจำหน้าร้อน

หากนึกถึงวิธีคลายร้อนแล้วละก็ การรับประทานแตงโมในรูปแบบการแช่เย็น นับว่าเป็นอีกวิธีที่ช่วยได้ดีเลยทีเดียว เพราะเป็นการดับอุณหภูมิความร้อนจากภายใน และนอกจากการทานแตงโมแบบผลสดๆ เรายังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม หรือท็อปปิ้งกินคู่กับไอศครีมเย็นๆ เพิ่มอรรถรสในการทานสร้างความหลากหลายให้ทุกเมนูได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ก่อนรับประทานนั้น วันนี้ Hello คุณหมอ ขอพาทุกคนมารู้จักกับ ประโยชน์ของแตงโม ว่าสามารถช่วยบำรุงสุขภาพของเราในด้านใดได้บ้าง

สารอาหารที่อยู่ในแตงโมมีอะไรบ้าง?

ผลไม้หน้าร้อนที่ใครๆ ก็รู้จักเป็นที่ทานเมื่อไหร่ก็ทำให้รู้สึกสดชื่น ซึ่งสารอาหารในแตงโมนี้มีมากมายจนเราคาดไม่ถึงเลยทีเดียวเพราะแค่ทานในปริมาณ 1 ถ้วยต่อวัน ก็สามารถทำให้เราได้รับสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างเต็มเปี่ยม ดังนี้

  • พลังงาน 46 แคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม
  • ไฟเบอร์ 6 กรัม
  • แคลเซียม 8 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 9
  • แมกนีเซียม 4 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 172 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 5 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ลูทีน ไลโคปีน โคลีน ที่อยู่ในแตงโม และเข้าไปช่วยปรับความสมดุล บรรเทาอาการโรคต่างๆ ช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

6 ประโยชน์ของแตงโม กับสุขภาพ ที่ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย

ใครว่าแตงโมมีดีแค่อร่อยคงต้องคิดใหม่เสียแล้ว เพราะยังมีประโยชน์อีกหลายด้านดังต่อไปนี้ แอบแฝง โดยที่คุณไม่รู้ตัว และคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

  • ป้องกันโรคหอบหืด

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อนุมูลอิสระมีส่วนที่ทำให้คุณสามารถป่วยเป็นโรคหอบหืดได้ การที่ทานแตงโมเข้าไปจะทำให้สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซี เข้าไปช่วยป้องกัน ไม่ให้เกิดการกระตุ้นอาการใดๆ แทรกซ้อนได้เพิ่มเติม และลดโอกาสที่ทำให้คุณป่วยอยู่ในภาวะหอบหืดได้

  • ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (The National Cancer Institute (NCI) พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระในแตงโมช่วยลดความเสียหายของเซลล์ที่อาจก่อให้เกิดเป็นโรคมะเร็งได้ พร้อมทั้งมีไลโคปีนที่ยับยั้งความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกเช่นกัน

  • บำรุงสมอง และระบบประสาท

การรับประทานแตงโมที่เพียงพอต่อวันเป็นประจำ อาจช่วยให้คุณมีความจำที่ดีขึ้น มีการพัฒนาของสมองด้านการเรียนรู้ และยังรักษาโครงสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ จากโคลีนที่เป็นสารชนิดหนึ่งที่อยู่ในแตงโม แต่ถึงอย่างไรยังไม่มีหลักฐานเพียงพอถึงการรับประทานแตงโมเพื่อชะลอการลุกลามของโรคสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ได้

  • บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ

ด้วยแตงโมเป็นผลไม่ที่มีน้ำเยอะถึง 90% จึงทำให้ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และช่วยฟื้นฟูการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือผู้ที่ออกกำลังกายมาหนักๆ ได้ ในการศึกษาปี 2017 ได้ทดสอบให้นักกีฬาดื่มน้ำผลไม้ก่อนการแข่งขัน 2 ชั่วโมง โดยผู้ดื่มรายงานว่า อาการปวดกล้ามเนื้อนั้นบรรเทาลง และดีขึ้นกว่าเดิม

  • เพิ่มประสิทธิภาพด้านการมองเห็น

ไลโคปีนที่ถูกค้นพบอยู่ในผลแตงโม มีส่วนช่วยให้ดวงตาของเรามีการทำงานที่ดี ลดการอักเสบ และป้องกันการเสื่อมสภาพของจอประสาทตาตามการใช้งาน หรือช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ตาของคุณบอดได้

  • บำรุงผิว และเส้นผม

วิตามินเอ วิตามินซี ที่อยู่ในแตงโม มีความสามารถในการสร้างคอลลาเจน ที่เป็นโปรตีนส่งเสริมให้เส้นผมของคุณดูสุขภาพดีแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย และเพิ่มความอ่อนนุ่มให้แก่ผิวของคุณดูชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ไม่แห้งกร้าน หรือแตกเป็นขุย จนทำให้คุณรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ

ความเสี่ยงของการรับประทานแตงโมมากเกินควร

การรับประทานแตงโมที่พอดีควรทานอยู่ในปริมาณ 1 ถ้วยต่อวัน หรือในปริมาณ 154 กรัม จึงจะพ้นจากความเสี่ยง และไม่มีอันตรายใดๆ ต่อสุขภาพร่างกายของคุณ แต่หากรับประทานมากเกินไป อาจมีผลกระทบต่อผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวาน และโรคภูมิแพ้ ที่ส่งผลให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เป็นโรคลมพิษ และระบบทางเดินหายใจมีปัญหา หรือหายใจลำบาก

ดังนั้นคุณจึงควรรับประทานแต่พอเหมาะ และถ้าหากมีอาการแพ้ หรือสัญญาณอาการแทรกซ้อนรุนแรงผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ ลิ้น และลำคอบวม ควรเข้ารับการปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใกล้บ้านคุณทันที

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ