หลายคนอาจต้องตกใจเมื่อรู้ว่า 6 สิ่งนี้ในครัวสกปรกเพียงใด บางอย่างอาจมีแบคทีเรียมากกว่าฝาชักโครกเสียอีก
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าห้องน้ำหรือห้องสุขาเป็นพื้นที่ที่สกปรกที่สุดในบ้าน แต่ในความเป็นจริง ห้องครัวก็เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรียและเชื้อโรคได้อย่างดีเยี่ยม
ดร.ชัค เกอร์บา ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา สหรัฐฯ ได้ทำการศึกษาและพบว่าฝาชักโครกมีแบคทีเรียเฉลี่ยประมาณ 50 ตัวต่อตารางนิ้ว ในขณะที่อุปกรณ์และสิ่งของในครัวบางชิ้นมีแบคทีเรียในระดับที่มากกว่านั้น เช่น โคลิฟอร์ม, สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส, ซัลโมเนลลา รวมถึงเชื้อราและไวรัสต่าง ๆ ตัวอย่าง ได้แก่
1. ผ้าเช็ดครัว
ผ้าเช็ดครัวเป็นอุปกรณ์ที่สัมผัสกับอาหาร น้ำมัน และน้ำเสียจากการทำอาหารบ่อยครั้ง หากผ้าเช็ดไม่ถูกทำความสะอาดภายใน 2 วัน จำนวนแบคทีเรียอาจเพิ่มขึ้นถึง 600 ล้านตัว กลายเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคเคลื่อนที่ในครัว
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแอริโซนา สหรัฐฯ พบว่าผ้าเช็ดครัวถึงแม้จะซักแล้วก็ยังมีแบคทีเรียมากกว่าฝาชักโครกถึง 200 เท่า และมากกว่าภายในโถชักโครกที่ทำความสะอาดแล้วถึง 100 เท่า โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียอันตรายอย่างซัลโมเนลลาและอีโคไล
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผ้าเช็ดครัวถูกซักให้สะอาดและตากให้แห้งสนิทหลังการใช้งานทุกครั้ง รวมถึงเปลี่ยนใหม่เป็นประจำ
2. เขียง
เขียงเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในครัว แต่ก็เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียหากไม่ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี การศึกษาจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา สหรัฐฯ พบว่าเขียงอาจมีแบคทีเรียมากถึง 200% ของที่อยู่ในโถชักโครก ซึ่งหมายความว่าเขียงอาจมีแบคทีเรียมากถึง 100 ตัวต่อตารางนิ้ว หรือมากกว่านั้น
หลังจากใช้งานติดต่อกัน 7 วัน เขียงอาจมีแบคทีเรียหลายหมื่นตัวติดอยู่ที่รอยขีดข่วนบนพื้นผิว โดยเฉพาะเขียงไม้หรือเมื่อใช้กับอาหารดิบ เช่น เนื้อสัตว์ ไก่ หรืออาหารทะเลที่ไม่ได้ทำความสะอาดอย่างละเอียด
3. ฟองน้ำล้างจาน
ถึงแม้ฟองน้ำล้างจานจะดูสะอาด แต่โดยเฉพาะชนิดฟองน้ำที่ดูดน้ำได้ดี กลับเป็นแหล่งสะสมเศษอาหารและแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็ว การศึกษาจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา สหรัฐฯ พบว่า หากไม่ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี หลังจากใช้เพียง 2 มื้อ ฟองน้ำล้างจานอาจมีแบคทีเรียถึง 100 ล้านตัว
เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย หลังการใช้งานฟองน้ำล้างจานควรถูกล้างให้สะอาดและตากให้แห้ง สามารถแช่ในน้ำเกลือหรือน้ำยาฟอกขาวเจือจางสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อฆ่าเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ และควรเปลี่ยนฟองน้ำล้างจานทุก 2 สัปดาห์เพื่อความปลอดภัยทางสุขอนามัย
4. อ่างล้างจาน
อ่างล้างจานอาจสกปรกยิ่งกว่าฝาชักโครกหลายเท่า การศึกษาจากสถาบันสุขภาพสาธารณะในสหรัฐฯ พบว่าอ่างล้างจานสามารถมีแบคทีเรียมากกว่า 500,000 ตัวต่อตารางนิ้ว เนื่องจากอ่างล้างจานสัมผัสโดยตรงกับอาหารดิบ น้ำมัน และเศษอาหารที่ตกค้าง ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรียหากไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
จากสถิติพบว่า มีอ่างล้างจานประมาณ 15% ที่มีร่องรอยของแบคทีเรียอีโคไล ซึ่งเป็นสาเหตุของการอาหารเป็นพิษและปัญหาทางเดินอาหาร ควรทำความสะอาดอ่างล้างจานทุกวันด้วยน้ำยาทำความสะอาดและขัดให้สะอาดโดยเฉพาะตามมุมที่เข้าถึงยาก
5. เครื่องดูดควัน
เครื่องดูดควัน อุปกรณ์ที่คุ้นเคยในครัว ก็อาจเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียได้หากไม่ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยรัทเกอร์ส พบว่า ตัวกรองในเครื่องดูดควันสามารถมีแบคทีเรียถึง 2,500 ตัวต่อตารางนิ้ว ซึ่งมากกว่าฝาชักโครกถึง 50 เท่า เนื่องจากน้ำมัน, ฝุ่น และกลิ่นอาหารสามารถสะสมที่ตัวกรองได้ง่าย
แบคทีเรียเหล่านี้อาจแพร่กระจายสู่ในอากาศขณะเครื่องทำงาน ส่งผลให้เกิดมลพิษในอากาศและอาจมีผลเสียต่อสุขภาพหากไม่ได้ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
6. ที่จับตู้เย็น
ที่จับตู้เย็นถือเป็นสิ่งหนึ่งที่มองข้ามได้ง่ายในการทำความสะอาด แต่จริงๆ แล้วอาจมีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก จากการวิจัยของสถาบันสาธารณสุขแห่งอเมริกา พบว่าที่จับของตู้เย็นมีแบคทีเรียถึง 1,000 ตัวต่อตารางนิ้ว ซึ่งสูงกว่าฝารองนั่งชักโครกที่ทำความสะอาดถึง 20 เท่า
โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส ที่อันตราย การสะสมแบคทีเรียเกิดขึ้นเนื่องจากที่จับตู้เย็นมักสัมผัสกับมือและอาหารบ่อยครั้ง ทำให้เกิดการปนเปื้อนได้ง่าย แต่กลับไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และมักมีจุดที่เข้าถึงยาก