ชาวคะยา 586 ชีวิต หนีภัยสงครามเข้าชายแดน จ.แม่ฮ่องสอน หลังทหารพม่าใช้เครื่องบินโจมตี ไทยวอนใช้อาวุธระมัดระวัง อย่ากระทบประเทศไทย
จากกรณีสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา บริเวณตรงข้าม อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงคะยา จำนวน 586 คน หนีภัยสงครามเข้าประเทศไทย โดยทหารเมียนมาใช้อากาศยานถล่มทหารคะยาอย่างหนัก ด้านศูนย์สั่งการชายแดนฯ แม่ฮ่องสอน จัดสถานที่ปลอดภัยชั่วคราว และประสานไปยังเมียนมาอย่าโจมตีกระทบประเทศไทย
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2565 ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน แถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน แถลงว่า วันนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังไม่ปรากฏการปะทะหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย
ส่วนสถานการณ์เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2565 เวลา 09.00-10.00 น. ได้เกิดการสู้รบระหว่างทหารเมียนมา และกองกำลังชนกลุ่มน้อยพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (KNPP) บริเวณฝั่งตรงข้ามพื้นที่บ้านใหม่ในสอย ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ปรากฏเครื่องบิน (เมียนมา) ไม่ทราบชนิด บินลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณตรงข้ามบ้านดอยแสง หมู่ 13 จ.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน
ทำให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา จากบ้านดอนกขุ จ.บอละแค รัฐคะยา เดินทางเข้ามาช่องทางทะนาควาย หมู่ 4 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และเมื่อเวลา 13.03 น. ได้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา จ.บอละแค รัฐคะยา เดินทางมาบริเวณพื้นที่เนิน 585 ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน
สำหรับผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงคะยา จำนวน 586 คน ทางการไทยได้จัดให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวอย่างทั่วถึง และดูแลเรื่องอาหารที่พอเพียงต่อการดำรงชีพ ภายใต้การดำเนินการของภาครัฐสำหรับการดำเนินการด้านการทูตระหว่างไทยกับเมียนมา ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายไทย (อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน) ได้แจ้งให้ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายเมียนมา (อ.ผาซอง จ.บอละแค) ขอความร่วมมือทหารเมียนมาใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เกี่ยวกับการใช้อาวุธยิงสนับสนุนและเครื่องบินโจมตีต่อเป้าหมาย ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อทหารไทย และประชาชนชาวไทย
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KNPP/KA เปิดเผยว่า วันนี้ทางทหารกะเหรี่ยงคะยา PA Karenni Army. ได้มีการสู้รบกับทหารรัฐบาลเมียนมาในพื้นที่รัฐคะยา บริเวณ ชานเมือง ลอยก่อว์, เมืองดีมอร์โซว์, เมืองฟลูโซว์ โดยทหารของกะเหรี่ยงคะยา PA ร่วมกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF เข้าโจมตีทหารเมียนมา พล.ร.เบา 66 ที่ถูกส่งเข้ามากวาดล้างฝ่ายต่อต้าน โดยทางการเมียนมาได้ใช้เครื่องบิน บินโจมตีทหารกะเหรี่ยงคะยาและPDF อย่างหนัก ขณะที่ทหารคะยาได้ส่งกำลังไปสกัดกั้นการเดินทางของทหารเมียนมา จากเมืองดีมอร์โซว์ ที่มุ่งหน้ามายังฐานฯ ยามู ที่ตั้งติดชายแดนด้านทิศตะวันตกของ จ.แม่ฮ่องสอน
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กะเหรี่ยงคะยา ระบุอีกว่า จากการสู้รบเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2565 ทหารกะเหรี่ยงคะยาสามารถยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมา ได้จำนวน 2 ฐาน คือฐานปากเสือ กองพัน ร.134 บริเวณใกล้กับสบห้วยอื้น และฐานอ่องเส่ย กองพัน คร.337 อยู่ใกล้กับผาห่มน้ำ หลังจากที่ทหารกะเหรี่ยงคะยายึดฐานได้ ทางการเมียนมาได้ส่งเครื่องบินมาโจมตี แต่ไม่ส่งผลเสียหายต่อทหารกะเหรี่ยงคะยา โดยขณะนี้ทหารเมียนมาทั้ง 2 กองพัน จำนวนประมาณ 200-300 นาย ได้หนีกระเจิดกระเจิงและเดินเท้ามุ่งหน้าไปทางบ้านท่าแพ บริเวณสบปาย ติดแม่น้ำสาละวิน