ดูเหมือนว่าข่าวการย้ายทีมของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ยอดนักเตะเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย ในช่วงซัมเมอร์นี้จะเริ่มมีมูลความจริงทีละน้อย ๆ
หนึ่งในสโมสรตัวเต็งที่มีความเชื่อมโยงกับดาวเตะโปรตุกีสจะเป็นทีมใดไม่ได้นอกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังในศึก พรีเมียร์ลีก ที่เป็นเหมือนสถานที่แจ้งเกิดของเจ้าตัวก่อนจะไปโด่งดังเป็นพลุแตกและการเป็นผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสที่ เรอัล มาดริด ในเวลาต่อมา
รายงานจากอิตาลีระบุว่า ทีม ปีศาจแดง ได้มีการติดต่อ จอร์จ เมนเดส เอเยนต์คนดังของ โรนัลโด้ เพื่อพูดคุยถึงการดึงตัวเขากลับมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว
แม้ว่าจะมีทีมอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เรอัล มาดริด สโมสรเดิมของเจ้าตัวที่ตกเป็นข่าวด้วย แต่สื่อเมืองผู้ดีก็เชื่อว่าแนวโน้มว่าการย้ายจาก ยูเวนตุส กลับมายัง พรีเมียร์ลีก นั้นดูจะเป็นไปได้มากกว่า
และนี่คือ 5 เหตุผลที่ทำสื่อในอังกฤษเชื่อว่า คริสเตียนโน โรนัลโด้ จะย้ายมาเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน
1. ความล้มเหลวใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ยูเวนตุส
ในคราวที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ ตัดสินใจจรดปากกาเซ็นสัญญากับ ยูเวนตุส เมื่อปี 2018 นั้นเป้าหมายของเขาและสโมสรต่างพุ่งตรงไปที่การเป็นแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก สถานเดียวเท่านั้น
ทีมม้าลายเพิ่งพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด ซึ่งตอนนั้นยังมี โรนัลโด้ อยู่ในทีม ในรอบชิงชนะเลิศในปี 2017 อย่างเจ็บปวดพวกเขาเป็นทีมใหญ่ของอิตาลีแต่เคยสัมผัสแชมป์ถ้วยใหญ่ของยุโรปเพียงแค่ 2 ครั้งคือในปี 1985 และ 1996 ซึ่งถือเป็นปมด้อยที่สโมสรต้องการลบมันทิ้งให้ได้
กองหน้าชาวโปรตุกีสจึงเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่จะพาทีมก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์สมัยที่ 3 ในขณะที่เจ้าตัวก็อยากจะเป็นแชมป์สมัยที่ 6 กับสโมสรที่ 3 เช่นเดียวกัน
หากแต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรในช่วง 2 ซีซันที่ ยูเวนตุส มี โรนัลโด้ กลายเป็นว่าพวกเขากลับทำได้ดีที่สุดเพียงการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้ง 2 ปี ซึ่งทำให้มีข่าวออกมาว่าดาวยิงวัย 36 ปีเริ่มเหนื่อยล้ากับความล้มเหลวที่ตูริน และกำลังมองหาความท้าทายใหม่ ๆ ในช่วงซัมเมอร์ แม้ว่าจะยังเหลือสัญญากับทีมอีก 1 ปีก็ตาม
2. ค่าเหนื่อยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายได้
แม้ว่าตอนนี้ คริสเตียโน โรนัลโด้ จะรับค่าเหนื่อยกับ ยูเวนตุส ในระดับมหาศาลถึง 520,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 22 ล้านบาท แต่ก็ใช่ว่าราคานี้จะไม่สามารถลดลงได้ เพราะด้วยอายุอานามที่ย่างเข้า 36 ปี การย้ายทีมครั้งต่อไปคงต้องมีการเจรจากันใหม่ ซึ่งเขาก็เข้าใจจุดนี้ดี
ก่อนหน้านี้มีรายงานจากอิตาลีว่า เรอัล มาดริด ออกมาปฏิเสธที่จะดึงนักเตะเก่าของตัวเองกลับไปร่วมทีม โดยทาง ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรออกมาบอกว่า เขายังรัก โรนัลโด้ แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้น เพราะเจ้าตัวยังเป็นนักเตะของ ยูเวนตุส
อย่างไรก็ตามสื่อตีความการให้สัมภาษณ์นี้ว่า เป็นเพราะเรื่องค่าเหนื่อยมากกว่าที่ทำให้ เปเรซ ไม่อยากดึงดาวเตะโปรตุกีสกลับสเปน เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าตอนนี้ มาดริด เองก็มีปัญหาการเงินพอสมควรจากพิษโควิด 19
เมื่อตัวเลือกลดลง แมนฯ ยูไนเต็ด จึงมีสิทธิที่จะเปิดเจรจากับ โรนัลโด้ ได้ ซึ่งแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถทุ่มทุนมหาศาลเหมือนที่ ยูเวนตุส ทำ แต่ค่าเหนื่อยระดับ 3-4 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ ก็คงไม่น่าเกลียดสำหรับสตาร์รายนี้เท่าใดนัก
3. ปีศาจแดง กำลังต้องการกองหน้าตัวใหม่
แม้ว่าตอนนี้ แมนเชสเตอื์ ยูไนเต็ด จะมีสามประสานในแดนหน้าอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวู้ด และ อองโตนี มาร์กซิยาล รวมทั้ง เอดิสัน คาวานี ดาวเตะมากประสบการณ์ช่วยกันล่าตาข่าย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างอยู่เช่นกัน
3 รายแรกอายุยังน้อย ฟอร์มไม่คงเส้นคงวา โดยเฉพาะ มาร์กซิยาล ที่ปีนี้ฟอร์มตกจนต้องการกลายเป็นตัวสำรอง แต่พวกเขาก็โชคดีที่มีพี่ใหญ่อย่าง คาวานี ที่กำลังท็อปฟอร์มและคอยถ่ายทอดประสบการณ์ให้ทั้งในสนามและห้องแต่ตัว
อย่างไรก็ตามกองหน้าชาวอุรุกวัยก็มีทีท่าว่าจะอยู่กับทีมแค่ปีเดียว หลังจากที่บิดาของเขาออกมาให้สัมภาษณ์ว่าลูกชายอยากจะกลับไปค้าแข้งที่อเมริกาใต้กับ โบคา จูเนียร์ เพื่อไปอยู่ใกล้ชิดครอบครัวที่นั่น
หากว่ามันเกิดขึ้นจริง ๆ ช่องว่างขนาดใหญ่ตรงหน้าเป้าจะเกิดขึ้นทันที ซึ่งประจวบเหมาะเหลือเกินที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ จะเข้ามาเสียบตรงตำแหน่งนี้ แม้ว่าในช่วงแรกที่เขาเล่นให้กับ ยูไนเต็ด เจ้าตัวจะถนัดในการเล่นริมเส้น แต่เมื่อมาอยู่กับ มาดริด เขาก็ปรับตัวเข้ามายืนตรงหน้ากรอบเขตโทษและกลายเป็นยอดดาวยิงอย่างในทุกวันนี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าประโยชน์จะตกกับทีมมากขนาดไหน ทั้งสถิติการยิงประตู ความอันตรายในแดนหน้า และ 3 กองหน้าอายุน้อยก็จะได้รับประสบการณ์จากศิษย์เก่ารายนี้อย่างเต็มที่แน่นอน
4. เป็นคำขอโทษจากกรณี ซูเปอร์ลีก
ตระกูลเกลเซอร์ตกเป็นผู้ต้องหาของแฟนบอล ปีศาจแดง อักครั้งจากกรณีที่กำลังจะพาทีมเข้าไปเล่นในรายการ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก แม้ว่าจะถอนตัวถอยทัพในภายหลัง แต่สาวกก็ยังรู้สึกหัวร้อนอยู่ดี
ป้ายขับไล่เจ้าของชาวอเมริกันผุดขึ้นเต็มหน้าสนามรวมไปถึงในโลกออนไลน์ ถึงขนาดที่ใครหลายคนออกมาบอกให้พวกเขาขายสโมสรให้ท่านชีคหรือเศรษฐีน้ำมันจากตะวันออกกลางไปซะถ้าไม่จริงใจกับการบริหารงาน
ดังนั้นหากทีมงานของตระกูลเกลเซอร์กำลังมองหาทางออกในเรื่องนี้ พวกเขาจะต้องเสนอโปรเจ็คดึง คริสเตียโน โรนัลโด้ กลับสโมสรมาพิจารณาโดยด่วน เพื่อเป็นการเรียกเรตติ้งกลับมาอีกครั้ง
ไม่แน่ว่าถ้า เอ็ด วู้เวิร์ด ทำงานนี้สำเร็จอาจทำให้เขาสามารถอำลาสโมสรได้แบบไม่มีใครด่าตามหลัง รวมทั้งเจ้าของทีมก็จะสามารถซื้อใจบรรดา เร้ดส์อาร์มี ได้เช่นกัน
5. เติมเต็มความฝันสุดท้ายก่อนแขวนสตั๊ด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คริสเตียโน โรนัลโด้ มอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองและครอบครัวที่สองของเขา แม้ว่าเจ้าตัวจะย้ายออกจากทีมมา 10 กว่าปีแล้วก็ตาม
โรนัลโด้ ไม่เคยลืม แฟนบอล ปีศาจแดง และ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเขาเคยเปิดเผยเมื่อปี 2014 ว่ายังคงติดต่อกับผู้เล่นบางคนในทีมและเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเตะบางคนรวมทั้งทีมงานสตาฟฟ์ด้วย
กองหน้าวัย 36 ปีบอกว่า ยูไนเต็ด เหมือนครอบครัวที่สองของตน เขาไม่มีวันลืมผู้คนที่นั่น แน่นอนว่าเขาแฮปปี้กับการอยู่ที่ เรอัล มาดริด แต่สิ่งที่ ยูไนเต็ด ปฏิบัติต่อเขานั้นมันทำให้เขาไม่มีวันลืมได้เหมือนกัน
ต่อมาในปี 2017 โรนัลโด้ กล่าวถึงแฟนบอล เร้ดเดวิลส์ ในเชิงบวก หลังจากที่เขาโดนแฟน มาดริด โห่ในการลงเล่นใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว
ดาวเตะวัย 36 ปีกล่าวว่าตอนที่เขาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะเล่นห่วยขนาดไหนก็ไม่มีแฟนบอลคนใดโห่ใส่เขา ต่างจากที่สเปนที่แม้จะเล่นในบ้านตัวเองเขาก็ยังโดนโห่และแสดงความไม่พอใจอยู่หลายครั้ง
นี่คือตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เจ้าตัวพูดถึงทีมเก่า ซึ่งหมายความว่าเขาพร้อมที่จะกลับมาที่อังกฤษทุกเมื่อ และเชื่อว่าหาก ยูไนเต็ด จริงจังกับดีลนี้เราก็จะได้เห็น คริสเตียโน โรนัลโด้ ลงวาดลวดลายใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง