สมัยเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่มักบอกเราเสมอ ถึงความสำคัญของการดื่มน้ำผักและผลไม้ที่ มีวิตามินซี หลายคนชอบดื่มน้ำมะนาวหรือน้ำส้ม เพราะส้มมีวิตามินซีสูง แต่ยังมีผักและผลไม้อีก 5 ชนิด ที่มีวิตามินซีสูงกว่าผลส้มขนาดกลางหนึ่งผล มาลองดูกันดีกว่าค่ะว่า มีอะไรกันบ้าง ดังต่อไปนี้
5 อาหารไม่มีรส “เปรี้ยว” แต่ “วิตามินซี” สูงไม่แพ้กัน
- พริกหวาน
พริกหวาน ไม่เพียงเพิ่มรสชาติของอาหารด้วยสีสัน (สีแดง สีเหลือง สีเขียว) ที่น่ารับประทานแล้ว พริกหวานยังเป็นผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ พร้อมด้วยรสชาติที่อร่อย กรอบ และกลิ่นที่หอมเฉพาะตัว เพราะสีที่สวยงาม เราจึงมักจะเห็นพริกหวานสีต่างๆ เป็นตัวช่วยสร้างสีสันในเมนูสลัดผัก
พริกหวานแดงหนึ่งถ้วยมีวิตามินซีประมาณ 190 มิลลิกรัม ซึ่งสูงกว่าส้มหนึ่งผลถึง 3 เท่า พริกหวานสีเหลืองหนึ่งถ้วยให้วิตามินซี 155 มิลลิกรัม ในขณะที่พริกหวานเขียวหนึ่งถ้วยให้วิตามินซีน้อยกว่าเล็กน้อย คือ ประมาณ 120 มิลลิกรัม แต่ก็สูงกว่าน้ำส้มคั้นหนึ่งแก้วถึง 30% พริกหวานยังเป็นแหล่งวิตามินเอและใยอาหารซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยป้องกันการเกิดโรคอื่นๆได้อีกหลายโรค
- มะละกอ
ผลไม้รสชาติหวานอร่อยชนิดนี้ในปริมาณ 100 กรัม ให้วิตามินซีสูงถึง 70 มิลลิกรัม ไม่ว่าจะรับประทานเป็นชิ้น หรือปั่นเป็นเครื่องดื่ม มะละกอยังมีเส้นใยอาหารและวิตามินเอ หากรับประทานทุกวัน จะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ลดอาการไซนัส และช่วยให้เส้นผมและกระดูกแข็งแรง รวมถึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
- ผักใบเขียว
ผักเคล (คะน้าใบหยิก) ได้ชื่อว่าเป็นราชินีของผักใบเขียว โดยผักเคลปริมาณ 1 ถ้วยมีวิตามินซีอยู่ถึง 80.4 มิลลิกรัม ผักชนิดนี้ยังมีกรดไขมันจำเป็น แร่ธาตุหลายชนิด และประกอบด้วยวิตามินเคสูงถึง 7 เท่าของปริมาณที่แนะนำ และวิตามินเอสูงกว่า 2 เท่าของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
นอกจากนี้ผักเคล 2 ถ้วยยังมีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 150 มิลลิกรัม และให้โพแทสเซียมประมาณ 700 มิลลิกรัมและกากใย 7 กรัม คุณสามารถหาแหล่งวิตามินซีในผักใบเขียวเข้มชนิดอื่นได้ เช่น ผักปวยเล้ง 100 กรัม ให้วิตามินซี 28.1 มิลลิกรัม ผักบุ้ง 100 กรัม ให้วิตามินซี 55 มก.
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นที่คุ้นเคยกันดีในบ้านเรา อย่างเช่นสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งในปริมาณ 1 ถ้วยของสตรอว์เบอร์รี่มีวิตามินซีถึง 98 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับวิตามินในผลส้มขนาดกลางหนึ่งผล ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อื่นๆ ซึ่งยังปลูกไม่ได้ในบ้านเรา แต่สามารถหาซื้อได้จากซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ หลายแห่ง อย่างเช่นราสเบอร์รี่ ก็ให้วิตามินซีร้อยละ 54 แบล็กเบอร์รี่ร้อยละ 50 และบลูเบอร์รี่ ให้วิตามินซีร้อยละ 24 ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
เพื่อให้ได้คุณค่าที่ดีที่สุด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เหล่านี้ควรทานสด หรือจะนำมาปั่นเป็นน้ำผลไม้หรือสมูทตี้ก็ได้ หากเป็นผลไม้กระป๋องหรือแปรรูปมาแล้ว จะมีคุณค่าทางอาหารน้อยลง และอาจมีการเพิ่มสิ่งปรุงแต่งอื่นๆ ที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพสักเท่าไหร่เข้าไปด้วยก็ได้ และต้องระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลจากการแปรรูป ก่อนที่จะรับประทานเข้าไป
- บร็อคโคลี่
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผักตระกูลกะหล่ำรสชาติดีชนิดนี้ ในปริมาณ 100 กรัมให้วิตามินซีสูงถึง 89.2 มิลลิกรัม อีกทั้งยังเป็นแหล่งใยอาหารที่ช่วยป้องกันท้องผูก และมีคุณสมบัติที่อาจป้องกันการเกิดมะเร็งได้
คุณยังสามารถหาแหล่งวิตามินซีในผักตระกูลกะหล่ำชนิดอื่นๆ ได้ เช่น กะหล่ำดาว 100 กรัม มีวิตามินซี 85 มิลลิกรัม กะหล่ำดอก 100 กรัม มีวิตามินซี 48.2 มิลลิกรัม กะหล่ำแดง 100 กรัม ให้วิตามินซี 57 มิลลิกรัม และกะหล่ำปลี 100 กรัม ให้วิตามินซี 36.6 มิลลิกรัม เป็นต้น
นอกจากส้มและผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ แล้ว คุณยังมีตัวเลือกเหล่านี้ ที่เป็นแหล่งวิตามินซี ที่สามารถเพิ่มเข้าไปในมื้ออาหารประจำวันของคุณได้