หลังจากที่ทีม Sanook Hitech ได้สรุปข้อมูลของ Samsung Galaxy S24 Ultra ว่าทำไมน่าซื้อ แล้วทีนี้หลายคนบอกว่า ไม่ได้มองรุ่น Ultra แต่มองรุ่นกลางๆ มันจะมีอะไรที่น่าสนใจและพอจะซื้อไหม วันนี้เรามาสรุปกันสักหน่อยดีกว่ากับ Galaxy S24 และ Galaxy S24+
หน้าจอไวขึ้นและสว่างกว่า
จากสเปกที่ปรากฏออกมาทางด้านบนพบว่า ทั้งคู่จะได้หน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2x เหมือนกัน ความสว่าง 2,600 nits เท่ากัน พร้อมกับ Refresh Rate 1 – 120 Hz แต่ว่ารุ่นปกติจะมีขนาด 6.2 ความละเอียดอยู่ที่ FHD+ และขนาด 6.7 นิ้ว QHD+ ในรุ่น S24+
ขุมพลัง Exynos จะกลับมา
ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy S23 Series จะใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 แต่สำหรับในปีนี้พบว่า Galaxy S24 และ S24+ จะมีขุมพลัง Exynos 2400 โดยคาดว่าจะมีประสิทธิภาพ 70% พร้อมกับการ์ดจอ Xclipse 940 ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3 ที่เร็วขึ้น
และมีชิป AI ที่ทำให้ตอบสนองได้เร็วขึ้น 14.7 เท่า รองรับเทคโนโลยี Live Translate และ Generative Edit และมาพร้อมกับ RAM 8GB ในรุ่นเริ่มต้น และความจำเริ่มต้น 128GB (S24) และ 256GB (S24+)
กล้องชุดเดิม แต่มีพลัง AI
สำหรับกล้องหลังของ Samsung Galaxy S24 รวมไปถึง S25 อาจจะได้เห็นที่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลด้วยกัน, กล้องมุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล และ Telephoto 10 ล้านพิกเซลรองรับการซูม 3x แบบ Optical แต่ว่ารุ่นนี้ก็มีเทคโนโลยี Dual Telephoto ที่ซูมได้ 2x, 3x นั่นเอง และกล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล เท่าเดิม
วัสดุ Armor Alumium 2.0 ใหม่
ถึงแม้วัสดุไทเทเนียมถูกเก็บไว้เฉพาะ Galaxy S24 Ultra ก็จริงแต่รุ่น S24 และ S24+ จะได้วัสดุ Armor Aluminum เหมือนเดิม และมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีคือ Onyx Black, Marble Gray, Cobalt Violet และ Amber Yellow
และอีกเรื่องที่ยังดีสำหรับมือถือรุ่นนี้คือยังได้มาตรฐานกันน้ำ IP68 เหมือนเดิม
ราคาอาจจะถูกลง
ทั้งนี้การใช้ขุมพลัง Exynos ที่ Samsung ผลิตเองก็อาจจะมีปัจจัยที่ทำให้ราคาเครื่องนั้นถูกลงกว่าดิม ซึ่งในยุโรปมีการหลุดราคาพบว่าถูกกว่าเดิม 50 ยูโร แต่บางประเทศเช่นเกาหลีใต้ยังคงเท่าเดิม
- ดูกันเต็มๆ Samsung Galaxy S24 รุ่นเล็กสุดกับ 4 สีสวยแบบเลือกไม่ถูก
- หลุดต่อ! ภาพเครื่อง Samsung Galaxy S24+ ที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่น
ทั้งนี้คาดว่าการเปิดตัวของมือถือรุ่นใหม่นี้เจอกัน 18 มกราคม ในเวลา 01:00 น.