5 สาเหตุทำสัญญาณเน็ตบ้านอ่อนแรง ทำงานไม่ได้จนอ่อนใจ

Home » 5 สาเหตุทำสัญญาณเน็ตบ้านอ่อนแรง ทำงานไม่ได้จนอ่อนใจ
5 สาเหตุทำสัญญาณเน็ตบ้านอ่อนแรง ทำงานไม่ได้จนอ่อนใจ

ถึงแม้ในเวลานี้สถานการณ์ โรคระบาด COVID-19 จะเริ่มเบาบางลงแล้วก็ตาม แต่ก็มีบางสถานที่ทำงานยังคงให้ Work From Home กันอยู่ทำให้อินเทอร์เน็ตบ้านยังคงจำเป็นอยู่ แต่การทำงานแต่ห้องนอนอย่างเดียว ก็คงไม่ใช่ที่ๆ เหมาะสม บางครั้งเดินไปรอบบ้านแต่ทำไมสังเกตว่า เน็ตไม่แรงเท่ากับจุดที่เราอยู่ ทำให้ทำงานได้ไม่ราบรื่น หรือขั้นเลวร้ายสุดคือ คลื่นหายไปเลย

วันนี้ Sanook Hitech จะพาคุณมาพบกับ 5 สาเหตุที่ทำให้เน็ตบ้านช้าระดับ อ่อนแรงจนงานไม่เดินกันครับ

อุปกรณ์ของคุณไม่เคยปิดพัก ??

ปัจจัยแรกที่อยากให้คิดพิจารณาคืออุปกรณ์ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือ Router ทั้งหลายนั้นไม่เคยปิดพักหรือ Restart หรือไม่ หลายคนก็คงถามว่าทำไมถึงต้อง Restart คำตอบคือการรับส่งข้อมูลก็จะมีความจำแบบแคช หรือ Cache Memory นั่นเอง การสั่ง Restart ก็จะช่วยให้เครื่องได้เริ่มใหม่ก็ทำให้ลบขยะเหล่านี้ออกไปได้ส่งผลให้ทำงานได้เร็วขึ้น

มาตรฐานของ Router ที่ไม่พอดีอุปกรณ์ของคุณ

หากคุณ Restart ก็ยังพบว่าความเร็วไม่ได้ดีขึ้น อีกเรื่องที่ต้องพิจารณาคือ Router หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตว่า เป็นรุ่นเก่าไปหรือไม่ เช่น Notebook ของคุณเพิ่งซื้อมาในปี 2022 ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 หรือ 6E แต่ Router กลับรองรับแค่ Wi-Fi 5 หรือต่ำกว่านี้ก็อาจจะได้รับความเร็วที่ช้ากว่าที่ควร ทั้งนี้ไม่ได้ช้าระดับทำงานไม่ได้นะครับ

อย่างไรก็ตาม Router ที่ผู้ให้บริการให้มานั้น เป็นรุ่นมาตรฐาน จะเหมาะกับการใช้งานพื้นฐานเช่น การดูหนังความละเอียด 4K, ทำงานทั่วไปและ Streaming เกมได้ประมาณหนึ่ง ถ้าเกิดมีการใช้งานที่หนักกว่านี้อาจจะต้องลองเปลี่ยนอุปกรณ์ และสมัคร Package ในแบบที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้เอง หรือ BYOC

ใช้งานที่อยู่ในจุดอับสัญญาณ??

เมื่อคุณติดอินเทอร์เน็ตในบ้าน อาจจะคำนึงถึงเรื่องการเดินสัญญาณหลักจนเวลาเดินไปรอบบ้านแล้วพบว่าความเร็วไม่เท่ากัน นั่นเพราะสัญญาณของอุปกรณ์ที่ส่งไปนั้นอาจจะไม่ถึงหรือบางทีบ้านของคุณมีจุดอับสัญญาณ ซึ่งทีมแนะนำโปรแกรมตรวจเช่น Wi-Fi Analyzer ที่ดาวน์โหลดได้ทั้ง Android

และถ้าคุณพบว่าเจอจุดอับสัญญาณแล้วอยากจะแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ก็จะมี 3 วิธีเลือก

  1. ใช้ระบบ Repeater ข้อดีคือ ถูก และสามารถหาซื้อได้ง่าย ใช้ติดตั้งได้ง่าย แต่สิ่งที่เป็นข้อเสียคือ มันช้า!!!! กว่าเทคโนโลยีที่จะเล่าต่อไปนี้
  2. MESH Wi-Fi มาใช้งาน ข้อดีคือไม่ต้องเดินสาย แถมง่ายต่อการตั้งค่ายด้วยประการทั้งปวง แต่สิ่งที่ต้องทำใจคือราคาจะสูงสักหน่อย หรือ บางทีติดต่อผู้ให้บริการสามารถเลือกบริการ MESH Wi-Fi ได้ แต่ก็มีผลเสียคือ มันไม่ได้ทำให้อินเทอร์เน็ตไวขึ้น ทั้งนี้ผู้ให้บริการแทบจะทุกเจ้า มีบริการ MESH Wi-Fi ให้อยู่แล้ว สามารถขอเป็นบริการเสริมเพื่อลดจุดอับสัญญาณได้
  3. เดินสาย LAN ไปที่จุดที่ไม่ถึง วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตเท่ากันทุกชั้น และตัวบ้านก็พร้อมให้เดินสายเพิ่มหรือเจาะจากขั้น 2 ลงมาชั้น 1 หรือขึ้นไปชั้น 3 เป็นต้น วิธีนี้คือได้ความเร็วสูงเลย แต่ว่าข้อเสียคือถ้าวัดไม่ดีความสวยงามของบ้านก็จะลดลงไปนั่นเอง และถ้าเลือกซื้อ LAN ความเร็วผิด ชีวิตอาจจะเปลี่ยนได้เช่น แนะนำให้เลือกใช้มาตรฐาน CAT6 ซึ่งการเดินสายก็สามารถเรียกช่างเดินสายไฟ มาทำให้ได้ แต่คุณต้องหาซื้อสาย LAN มาก่อนนะ

เลือก Package ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

เรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญคือ Package ที่คุณเลือกเหมาะสมกับการใช้งานในบ้านคุณหรือไม่ เช่นถ้าคุณมีคนเล่นเกมอยู่บ้าน 1 คนแต่เลือก Package ธรรมดา อาจจะต้องพิจารณาเลือก Package สำหรับคนเล่นเกม ที่จะแยกอุปกรณ์และช่องสัญญาณออกจากกันเพื่อให้เกิดการความราบรื่น มากขึ้น เช่นเดียวกับการทำ Video Call ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่อยากให้เกิดความเร็วที่ช้าวิธีนี้ก็ช่วยคุณได้ครับ

พื้นที่ติดตั้งของคุณ

สุดท้ายคือเรื่องพื้นที่ติดตั้งของผู้ให้บริการที่คุณเลือกอยู่ จริงอยู่ถ้าคุณเลือกติดตั้งแล้วแต่ว่าสมัยแรกๆ อาจจะได้ความเร็วสูง เช่นเทคโนโลยี VDSL ที่ใช้ตามสายโทรศัพท์ แต่ทุกวันนี้มีการเดินทางผ่านไฟเบอร์นำแสงหรือ Fiber ที่ได้ความเร็วสูงกว่า แต่พื้นที่บ้านของคุณอาจจะไม่ได้รองรับ หรืออาจจะรับแต่ความเร็วไม่สูง

วิธีการนี้อาจจะต้องแก้ด้วยการถามผู้ให้บริการรายอื่นๆ ว่าในพื้นที่ของคุณนั้นเขารองรับและให้ความเร็วสูงกว่าหรือไม่ แต่หากไม่มีเลย คำตอบสุดท้ายคือลองติดอินเทอร์เน็ตในรูปแบบเครือข่ายมือถือแทนเน็ตบ้าน

ส่วนกลุ่มคนที่อยู่คอนโด ให้สอบถามนิติบุคคลว่า สายอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นแบบไหนและเก่าเกินไปหรือไม่ หากเก่าเกินไปอาจจะได้ความเร็วที่ไม่สูงมากนัก

เห็นไหมครับว่า วิธีจัดการกับเน็ตบ้านที่ช้า อาจจะมีหลายปัจจัยได้เช่นเดียวกัน แค่คุณต้องศึกษาว่าสาเหตุทั้งหมดนี้เกิดจากอะไรจะได้คำตอบที่เหมาะสมกับคุณเองครับ

ติดตาม Tips และ วิธีการใช้งานเทคโนโลยีง่ายๆ กับ Sanook Hitech ได้ในครั้งต่อไปครับ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ