โดยปกติแล้วพ่อแม่จะรู้ว่าการที่ลูกมีน้ำหนักเกินหรือไม่นั้น สามารถคำนวณได้จากค่าดัชนีมวลกาย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัวและส่วนสูง ดังนั้นถ้าพ่อแม่รู้ว่าลูกมีน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป จะต้องรีบหาทางให้ลูกลดน้ำหนักอย่างไว เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของลูก วันนี้เราได้รวม 5 วิธีลดน้ำหนักในเด็กที่มีน้ำหนักเกิน ซึ่งสามารถทำตามได้ง่ายและไม่ทำให้เสียสุขภาพมาแชร์ให้ได้ลองทำตามกันค่ะ
5 วิธีลดน้ำหนักในเด็กที่มีน้ำหนักเกิน
1.ให้ลูกกินอาหารเพื่อสุขภาพ
การใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินของลูกนั้น มีส่วนช่วยลดน้ำหนักของลูกที่มีน้ำหนักเกินได้ดี โดยพ่อแม่จะต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์และคอยควบคุมอาหารการกินเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่ครบทุกหมู่ สำคัญที่สุดคือ ห้ามให้ลูกขาดการกินอาหารมื้อเช้าเด็ดขาด เพราะอาหารมื้อเช้าถือเป็นอาหารที่สำคัญของวันเลยก็ว่าได้ เนื่องจากช่วยให้ร่างกายของลูกสามารถทำงานได้ดีตลอดวัน
2.กินของว่างที่มีประโยชน์
ของว่างที่มีประโยชน์ที่แนะนำให้ลูกที่มีน้ำหนักเกินกินได้แก่ ผลไม้สด เมล็ดพืช ถั่ว เป็นต้น และควรหลีกเลี่ยงให้ลูกกินอาหารที่มีแคลอรีสูง เช่น ลูกชิ้นทอด มันฝรั่งทอด เค้ก และน้ำอัดลม เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยทำให้น้ำหนักของลูกเพิ่มขึ้นได้ง่าย
3.ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
สำหรับการลดน้ำหนักในเด็กที่มีน้ำหนักเกินอีกหนึ่งวิธีก็คือ การให้ดื่มน้ำเปล่าประมาณ 4-6 แก้วต่อวัน โดยพยายามให้ลูกดื่มน้ำก่อนกินอาหาร วิธีนี้ช่วยให้ลูกรู้สึกอิ่มง่าย และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะบวมน้ำในร่างกาย และช่วยลดภาวะขาดน้ำในร่างกายได้เป็นอย่างดี
4.หมั่นให้ลูกออกกำลังกาย
แน่นอนว่าการลดน้ำหนักที่ดีและเห็นผลมากที่สุดก็คือ การให้ลูกหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะการออกกำลังกายมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก และช่วยให้ร่างกายของลูกเกิดการเผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นพ่อแม่จึงควรชวนลูกไปออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้น้ำหนักตัวของลูกลดลงได้
5.พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดี
จะให้ลูกปฏิบัติตัวแบบไหน พ่อแม่ควรทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการกินอาหารเพื่อสุขภาพ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การเข้านอนแต่หัวค่ำและตื่นเช้าในทุกวัน วิธีเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพของพ่อแม่และลูกๆ เสมอ
สำหรับพ่อแม่ที่เป็นกังวลในเรื่องของน้ำหนักเกินของลูก แนะนำว่าอย่าเพิ่งเป็นกังวลมากจนเกินไป แต่ควรเริ่มให้ความสำคัญที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการกินอาหารเพื่อสุขภาพ ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะทำได้ยากมาก เนื่องจากเด็กมักมีพฤติกรรมอยากกินแต่อาหารที่ตัวเองชอบเป็นส่วนใหญ่
