เทรนด์ของการดูแลสุขภาพตัวเองกำลังมาแรง นอกจากออกกำลังกายแล้ว ยังมีเรื่อง “กินคลีน” ที่สาวๆ หนุ่มๆ กำลังให้ความสนใจเป็นพิเศษอีกด้วย หากเห็นใครกำลังทานสลัด หรืออาหารคลีนเป็นกล่องๆ สวยงาม คนรอบข้างก็เริ่มมองว่าคนนี้ดูแลสุขภาพดีจัง
แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งคิดว่าทุกคนกินคลีนกันถูกวิธี เพราะเราเชื่อว่าต้องมีส่วนหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจวิธีการกินคลีนที่ถูกต้อง ไม่ใช่แค่กินอาหารรสจืด เน้นผัก เน้นสุขภาพดี แล้วจะเรียกว่ากินคลีนเสมอไป มีอะไรที่ต้องระวังบ้าง มาดูกันค่ะ
5 ข้อควรรู้ก่อนเริ่ม “กินคลีน”
1. อย่ากินเมนูเดิมซ้ำๆ
บางคนเลือกทำอาหารทานเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และน่ายกย่องมากค่ะ แต่หลายคนซื้ออกไก่มาครึ่งโล แล้วทำอยู่เมนูเดียว เช่น ทำแต่ไก่ต้มไว้ทั้งหมด วันๆ ทานแต่ไก่ต้ม ไก่ต้ม และไก่ต้ม ถึงปากคุณจะบอกว่าไม่เบื่อ แต่ร่างกายของคุณอาจจะเบื่อก็ได้ เพราะได้รับสารอาหารเดิมๆ อยู่ทุกวัน การพลิกแพลงเมนูบ่อยๆ ใส่ส่วนประกอบต่างๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นอกจากจะได้อาหารคลีนรสชาติดีไม่น่าเบื่อแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลายขึ้นด้วยค่ะ
2. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่าทานแต่ผักผลไม้
บางคนหนักเลย กินคลีนเหรอ ไม่หรอก ฉันไปชีวจิต หรือมังสวิรัสซะเลย ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกค่ะ แต่ครั้นจะมาถึงก็ทานแต่ผัก ผลไม้แค่สองอย่าง ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารไม่พอเอา เพราะหลายคนลืมไปว่าพลังงานที่แต่ละวันร่างกายต้องใช้ ส่วนใหญ่มาจากคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน หากทานผักผลไม้ที่ให้พลังงานไม่เพียงพอ อาจเป็นลม หรือขาดสารอาหารได้ง่ายๆ
แถมโปรตีนที่จะต้องเข้ามาช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอก็ไม่มีอีก (เพราะหลายคนลืมทานเต้าหู้ ถั่ว และพืชที่ให้โปรตีนชนิดอื่นๆ) วิธีที่ดีที่สุด จึงเป็นการทานให้ครบทั้ง 5 หมู่นั่นแหละค่ะ แต่เลือกทานอาหารที่ให้พลังงานน้อยหน่อย หากคุณเป็นคนที่ร่างกายใช้พลังงานในแต่ละวันน้อย เช่น นั่งทำงานบนโต๊ะทั้งวัน และมีเวลาไปออกกำลังกายน้อย เป็นต้น
3. อย่าคิดว่าน้ำมันมะกอกเท่านั้นที่เราต้องการ
น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันที่คนที่ชอบกินคลีนนิยมนำมาปรุงอาหารมากที่สุด ถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าน้ำมันอื่นๆ แต่ด้วยคุณค่าทางสารอาหาร และไขมันที่ดีต่อร่างกาย คนถึงเทใจมาเลือกน้ำมันมะกอกประกอบอาหารแทน แต่อย่าคิดว่าน้ำมันมะกอกจำมีประโยชน์ตลอดเวลา เพราะน้ำมันมะกอกจะดีต่อสุขภาพก็ต่อเมื่อทานสดๆ ราดในสลัด เนื้อต่างๆ หรือผัดอะไรเร็วๆ แบบสะดุ้งไฟ
แต่หากเริ่มทำเมนูที่ใช้ความร้อนนานๆ อย่างผัดอะไรนานๆ หรือทอด น้ำมันมะกอกจะไม่เหมาะทันที เพราะน้ำมันมะกอกทนความร้อนนานๆ ไม่ได้ นอกจากสารอาหารดีๆ จะหายไปหมดแล้ว ยังอาจเกิดสารก่อมะเร็งด้วย (โดยเฉพาะน้ำมันมะกอกชนิด เอ๊กซ์ตร้า เวอร์จิ้น และ เวอร์จิ้น ที่คนไทยมักนิยมซื้อมาทานกัน)
4. กินคลีน ไม่ได้หมายถึงว่าจะไม่อ้วน
บางคนคิดว่าอาหารคลีนดีต่อสุขภาพ ดูสิ แป้งก็น้อย น้ำตาลก็น้อย โซเดียมก็ต่ำ จะเอาอะไรมาอ้วน ก็เลยซัดเอาๆ แต่ขอบอกว่าต่อให้เป็นอาหารคลีนที่ให้พลังงานต่ำกว่าอาหารปกติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทานมากๆ แล้วไม่อ้วน อย่างไรก็ตามทุกจานที่ทานเข้าก็พลังงานทั้งนั้น ดังนั้นควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ว่าจะกินคลีนอยู่หรือไม่ก็ตาม
5. ลืมน้ำตาลแฝง
บางครั้งเราเลี่ยงเครื่องดื่ม น้ำอัดลมแทบตาย สุดท้ายมาตกม้าตายที่น้ำผลไม้ ที่เราคิดว่าดีมีประโยชน์ ความหวานจากธรรมชาติไม่ทำร้ายหรอก ความคิดนี้ผิดมหันต์เลยนะคะ ไม่งั้นคนที่ทานทุเรียนจะอ้วนได้ยังไง ผลไม้ที่มีรสหวานจัด นี่แหละแหล่งน้ำตาลที่เราต้องเลี่ยง รวมไปถึงน้ำผลไม้สำเร็จรูปต่างๆ ที่บรรจุขวดด้วย ลองหันขวดดูฉลากจะพบว่าปริมาณน้ำตาลสูงจนต้องสะดุ้งเลยเชียวล่ะ เพราะฉะนั้นทานผลไม้สด และเลือกทานผลไม้รสจืดๆ จะเหมาะกับการกินคลีนของเราที่สุดค่ะ
ใครทำพลาดข้อไหน ยังพอจะกลับตัวกันได้นะคะ เพราะอย่างไรการเริ่มต้นกินคลีนไม่ได้ยากอย่างที่หลายคนคิดหรอก กินคลีนแล้ว ก็อย่าลืมออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีในทุกๆ ด้านด้วยล่ะ คราวนี้เจ้าของหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม ปราศจากโรคภัยก็เป็นของคุณได้ง่ายๆ แน่นอนค่ะ
ภาพประกอบจาก istockphoto