วิธีประหยัดค่าไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช็คไว้ก่อนจะต้องรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ สวนทางกับสภาพอากาศบ้านเรา เพราะตัวเลขค่าไฟที่พุ่งสูงตามอุณหภูมิช่วงหน้าร้อน ลองมาเริ่มต้นรีเช็กบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่อาจอยู่ในการใช้งานน่าสุ่มเสี่ยงทำให้สิ้นเปลืองโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยวิธีง่ายๆ กันดีกว่า

5 วิธีประหยัดค่าไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช็กไว้ก่อนค่าไฟพุ่งแรง

ประหยัดค่าไฟด้วยการปรับความเคยชิน

หลายครั้งเราเคยชินกับการชาร์จแบตค้างไว้ ชาร์จไปใช้ไป หรือเสียบปลั๊กทิ้งไว้โดยไม่ใช้งานก็อาจนำมาซึ่งความสิ้นเปลืองได้โดยไม่ตั้งใจ ลองมาปรับพฤติกรรมประหยัดไฟกันอย่างง่ายๆ เริ่มจากการถอดปลั๊กทันทีหลังเลิกใช้ ลดละเลิกการเปิด-ปิดบ่อยๆ ที่สำคัญคืออย่าเสียบใช้งานปลั๊กพ่วงจนแน่นเกินไป

ประหยัดค่าไฟด้วยการใช้มากดีกว่าใช้บ่อย

ปรับมาใช้งานบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราจำเป็นต้องใช้ประจำให้เสร็จสิ้นในครั้งเดียวจะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องการกินไฟอย่างเตารีด เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น การทำงานบ้านอย่างการซักรีดครั้งละมากๆ ให้เสร็จสิ้นในครั้งเดียวจะช่วยเรื่องการประหยัดไฟได้ดีกว่าการใช้งานครั้งละน้อยๆ แต่ถี่เกินไป ทั้งนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นก็ไม่ควรใช้พร้อมกันเพราะจะทำให้กินไฟมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์และรีดผ้าไปพร้อมกันเพื่อการประหยัดไฟ

ประหยัดค่าไฟด้วยการเลือกซื้ออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน

การเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นหนึ่งวิธีเริ่มต้นประหยัดไฟที่ทั้งง่ายและทำได้จริง แถมยังช่วยให้เรามั่นใจในความปลอดภัยระหว่างใช้งานได้อีกด้วย โดยดูได้จากเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. ที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองจาก สมอ. เป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกว่าอุปกรณ์นั้นมีความครบถ้วนทั้งความปลอดภัย ประสิทธิภาพการใช้งาน และคุณภาพที่สมราคา

ประหยัดค่าไฟด้วยการจัดระเบียบการใช้งาน

เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดควรติดตั้งหรือจัดวางในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เปิดใช้งานในอุณหภูมิที่เหมาะสมและไม่อยู่ใกล้แหล่งที่มีความร้อนจัด หรือสะสมความร้อนต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินไป ทั้งนี้ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านไม่น้อยที่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กให้ทำงานตลอดเวลา โดยเฉพาะตู้เย็น การจัดระเบียบการใช้งานเป็นตัวช่วยง่ายๆ ให้ตู้เย็นไม่ทำงานหนัก ด้วยการไม่กักตุนอาหารในตู้เย็นจนแน่นเกินไป

ประหยัดค่าไฟด้วยการหมั่นตรวจเช็คเครื่องใช้ไฟฟ้า

ยิ่งมีความสกปรกสะสมหรือการชำรุดที่ไม่ได้ซ่อมแซม ก็ยิ่งทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นทำงานหนักโดยใช่เหตุ ควรล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก่อนการใช้งานควรตรวจเช็คความเรียบร้อย เช่น การทำความสะอาดถุงเก็บฝุ่นก่อนใช้งานเครื่องดูดฝุ่น และตรวจเช็กขอบยางตู้เย็นว่ายังปิดสนิทได้ดีเพื่อป้องกันการรั่วซึม เป็นต้น