4 วิธีลด “เหนียง”คาง 2 ชั้นจากน้ำหนักเกิน-อายุมากขึ้น

Home » 4 วิธีลด “เหนียง”คาง 2 ชั้นจากน้ำหนักเกิน-อายุมากขึ้น
4 วิธีลด “เหนียง”คาง 2 ชั้นจากน้ำหนักเกิน-อายุมากขึ้น

เหนียง หรือคาง 2 ชั้น คือไขมันสะสมใต้คาง สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวมากเท่านั้น อย่างไรก็ตาม วิธีการบางอย่าง เช่น การบริหารใบหน้า การควบคุมอาหาร เป็นประจำ อาจช่วย ลดเหนียง ได้ ถึงแม้ว่าเหนียงจะไม่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็อาจส่งผลต่อความมั่นใจได้

เหนียง คืออะไร

เหนียง หรือคาง 2 ชั้น คือ ไขมันที่สะสมอยู่บริเวณใต้คาง มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อห้อย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะมีน้ำหนักตัวปกติหรือน้ำหนักตัวมากก็สามารถเกิดเหนียงได้

สาเหตุของการเกิดเหนียง

เหนียง อาจเกิดจากสาเหตุหลัก คือ มีไขมันสะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นผลมาจาก การรับประทานอาหารมีไขมันสูงเป็นประจำ การไม่ค่อยออกกำลังกาย โรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน เป็นต้น นอกจากนี้ เหนียงอาจเกิดจากพันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีผิวหนังที่มียืดหยุ่นน้อย ผิวหนังไม่เต่งตึง ก็อาจส่งผลให้มีเหนียงมากกว่าปกติได้ และอายุที่เพิ่มขึ้น มักส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียคอลลาเจน จนผิวหนังหย่อนคล้อยและเกิดเหนียงได้เช่นกัน

วิธีลดเหนียง

วิธีดังต่อไปนี้ อาจช่วยลดเหนียงได้

  1. การทำท่าบริหารใบหน้าเป็นประจำทุกวัน โดยท่าที่อาจช่วยลดเหนียงได้ เช่น
    • ท่าแลบลิ้น เริ่มจากมองตรงแล้วแลบลิ้นออกมาให้สุด พยายามให้ลิ้นแตะจมูก ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที ทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง/รอบ
    • ท่าจูบท้องฟ้า เงยหน้ามองเพดานจนรู้สึกตึงบริเวณใต้คางและลำคอ แล้วทำปากจู๋คล้ายจูบ ค้างไว้ประมาณ 5-20 วินาที ทำซ้ำประมาณ 10-20 ครั้ง/รอบ
    • ท่าคางกดลูกบอล นำลูกบอลที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 9-10 นิ้ววางไว้ใต้คาง แล้วใช้คางกดลูกบอล ทำประมาณ 25-30 ครั้ง/รอบ
  1. การควบคุมอาหารโดยการรับประทานผักผลไม้ให้หลากหลายเป็นประจำ เลือกรับประทานเนื้อสัตว์มันน้อยหรือไร้ไขมัน และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ของมัน ของทอด เนื่องจากอาหารเหล่านี้อาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้ ทั้งนี้ ควรรับประทานอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ให้ได้พลังงานไม่น้อยกว่า 1,200 กิโลแคลอรี่/วัน และจำกัดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้มีสัดส่วนตามหลักโภชนาการ
  2. การดูดไขมันคุณหมอจะใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อยาวสอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมา หรืออาจใช้ความร้อนเพื่อละลายไขมันและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น ซึ่งอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น บวม เขียวช้ำ เจ็บปวดบริเวณแผล
  3. การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีลดเหนียงด้วยการฉีดสารละลายไขมัน หรือกรดดีออกซีโคลิก (Deoxycholic Acid) ปริมาณเล็กน้อยในบริเวณใต้คางเพื่อสลายไขมัน ซึ่งอาจจะต้องฉีด 20 เข็มขึ้นไป และอาจใช้เวลารักษานานกว่า 6 เดือนถึงจะเห็นผล ทั้งนี้ การฉีดเมโสแฟตต้องทำโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะหากฉีดกรดดีออกซีโคลิกไม่ถูกวิธีอาจส่งผลต่อเส้นประสาทได้ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ทั่วไป เช่น บวม ช้ำ ชา มีรอยแดงบริเวณที่ฉีด

อย่างไรก็ตาม วิธีลดเหนียงข้างต้นไม่สามารถช่วยให้เหนียงหายไปได้อย่างถาวร หากกลับไปมีพฤติกรรมที่เสี่ยงเกิดเหนียง เช่น ชอบรับประทานอาหารไขมันสูงจนน้ำหนักเกินและมีไขมันสะสม ก็อาจทำให้เหนียงกลับมาได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ