คนรักสุขภาพไม่มีใครไม่รู้จัก “อะโวคาโด” เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่ก่อนอาจจะหากินได้ยาก และมีราคาแพง แต่สมัยนี้สามารถหากินได้ง่ายและราคาถูกลงกว่าแต่ก่อนมาก รสชาติอาจยังไม่คุ้นปากคนไทยบางคน แต่หากได้ลิ้มลองไปเรื่อยๆ รับรองว่าจะติดใจในความเข้มข้นหอมมันแน่นอน
Lisa Drayer นักโภชนาการประจำสำนักข่าว CNN ระบุถึงประโยชน์ดีๆ ของอะโวคาโดที่อยากให้ทุกคนได้ลองกินเอาไว้ 4 ข้อสั้นๆ ดังนี้
4 ประโยชน์ดีๆ จาก “อะโวคาโด” ที่คุณอาจไม่เคยรู้
- โพแทสเซียมสูง
กระทรวงเกษตรของอเมริการะบุว่า อะโวคาโด 100 กรัม มีโพแทสเซียม 485 มิลลิกรัม เมื่อเทียบกับกล้วยในปริมาณเท่ากันแล้ว มีโพแทสเซียมเพียง 358 มิลลิกรัม โพแทสเซียมช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และช่วยลำเลียงสารอาหารในร่างกายให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประโยชน์ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต เพราะโพแทสเซียมช่วยทำให้ร่างกายขับเอาโซเดียมส่วนเกินจากที่ร่างกายออกไปผ่านปัสสาวะด้วย
- อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ดีต่อร่างกาย
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fats) ช่วยเข้าไปลดปริมาณไขมันเลว (LDL) ในร่างกายได้ นอกจากนี้ยังเข้าไปช่วยการก่อตัวของไขมันที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของหลอดเลือดอุดตันได้อีกด้วย
- มีกากใยอาหารสูง
อะโวคาโด 100 กรัมมีกากใยอาหารราว 7 กรัม อาหารที่มีกากใยอาหารสูงจะช่วยให้รู้สึกอิ่ม และอยู่ท้องได้นานขึ้น อะโวคาโดจึงเป็นตัวเลือกที่ดีของหลายๆ คนที่กำลังอยู่ในระหว่างควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้กากใยอาหารยังช่วยให้การทำงานของระบบขับถ่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือพูดง่ายๆ คือช่วยลดความเสี่ยงของอาการท้องผูกนั่นเอง
- มีโฟเลตสูง
ผลไม้ที่มีไขมันมักอุดมไปด้วยโฟเลต โดยในอะโวคาโด 100 กรัมจะมีโฟเลตอยู่ราวๆ 81 ไมโครกรัม โดยโฟเลตเป็นวิตามิน B ที่สำคัญต่อการพัฒนาของสมองและยังช่วยบำรุงครรภ์อีกด้วย โดยแนะนำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์กินโฟเลตราว 400 ไมโครกรัมทุกวันเพื่อให้ลูกน้อยสุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะพัฒนาการของสมองที่ดี และช่วยให้กระดูกสันหลังแข็งแรงด้วย
กินอะโวคาโดอย่างไรให้ได้ประโยชน์
เลือกอะโวคาโดที่สุกแล้ว จากการสังเกตที่ขั้วของลูก ควรเป็นสีน้ำตาลเหลือง ไม่ใช่น้ำตาลเข้ม (สุกเกินไป) หรือเขียวอ่อน (อ่อนเกินไป) ใช้มีดผ่าครึ่งตามแนวยาวรอบๆ เม็ดอะโวคาโดที่จะอยู่ตรงกลาง แบ่งแกะออกมาเป็นสองซีก แล้วใช้มีดสับตรงเม็ดเบาๆ ไม่ต้องลึกมาก แล้วดึงเม็ดออก จากนั้นจะใช้ช้อนขูดเนื้อออกมา หรือผ่าเป็นแว่นๆ แล้วค่อยลอกเปลือกออกมาก็ได้
สามารถกินเนื้ออะโวคาโดเพียวๆ ได้เลย หรือจะนำมาทาขนมปังกินแทนเนย นอกจากนี้ยังสามารถใส่ลงไปในสลัด โยเกิร์ต และอื่นๆ เหมือนการกินผลไม้ทั่วไปได้ตามใจชอบ
- 9 ประโยชน์สุดยอดจาก “อะโวคาโด” ดีต่อสุขภาพของจริง