การเผาผลาญไขมันในร่างกายส่วนใหญ่ที่เป็นที่ทราบกันดีมักมาจากการออกกำลังกายเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วหากเราดูแลพฤติกรรมในการกินของเราให้ดี เราก็สามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ แม้จะไม่ได้ออกกำลังกายก็ตาม

นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน อาจารย์ที่ปรึกษา แผนกศัลยศาสตร์หลอดเลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า หรือ หมอท็อป ระบุว่า ตามปกติร่างกายเราจะใช้พลังงานต่อวันราว 2,000 kcal หากเราอยากลดความอ้วนแล้วเราเลือกกินอาหารให้น้อยลงโดยพยายามลดปริมาณอาหารให้เหลือการให้พลังงานกับร่างกายเพียง 1,500 kcal น้ำหนักจะลดลงในช่วงแรก หรือราวๆ 7 วันแรก แต่หลังจากนั้นร่างกายจะปรับระดับการเผาผลาญพลังงานลงจากเดิม 2,000 kcal เหลือ 1,500 kcal ใกล้เคียงกับอาหารที่เราลดการกินลงมา เพราะร่างกายก็พยายามปรับระดับการเผาผลาญให้สมดุลกับปริมาณอาหารที่เรากินเข้าไป เพื่อไม่ให้ร่างกายอดตายนั่นเอง แต่หากเราพยายามจะลดน้ำหนักลงไปอีกด้วยการให้น้อยลงกว่าเดิมไปอีก จนเหลือ 1,000 kcal ก็จะยังเข้าสู่ภาวะเดิมคือลดน้ำหนักได้เพียงช่วงแรก แล้วจะเริ่มลดไม่ลงอีกเหมือนเดิม

นอกจากนี้ การกินอาหารน้อยเกินไป หรือราว 1,000 kcal อาจทำไม่ได้ในระยะยาวเพราะจะทำให้เราหิวมากเกินไป เมื่อไรก็ตามที่เรากลับมากินอาหาร 1,500 kcal เท่าเดิม ร่างกายที่ปรับระดับการเผาผลาญพลังงานมาอยู่ที่ 1,000 kcal แล้ว จึงทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มขึ้นพรวดพราดได้

ดังนั้น การลดน้ำหนักด้วยวิธีนับแคลอรี่อาหาร จึงเป็นเรื่องยากและมีเพียงคนกลุ่มน้อยมากๆ เท่านั้นที่จะทำได้สำเร็จ

4 วิธีเผาผลาญไขมันในร่างกาย โดยไม่ต้องออกกำลังกาย

1. กินคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง (Low carb diet)

การกินแป้งและน้ำตาลให้น้อยลง มีส่วนช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายได้มากขึ้น เพราะเมื่อเรากินแป้งและน้ำตาลเข้าไปในร่างกาย ร่างกายจะเลือกแป้งและน้ำตาลที่เราเพิ่งกินเข้าไป นำไปเผาผลาญเป็นพลังงานที่ใช้ในวันนั้นๆ ก่อน หากเรากินแป้งและน้ำตาลมากเกินความจำเป็นต่อร่างกาย เมื่อร่างกายมีแป้งและน้ำตาลที่เหลือจากการเผาผลาญในวันนั้นๆ ไม่หมด แป้งและน้ำตาลส่วนที่เหลือจึงถูกดึงไปเป็นพลังงานสะสมอยู่ในร่างกาย เป็นพลังงานสำรอง ซึ่งอยู่ในรูปแบบของ “ไขมันสะสม” นั่นเอง

หากเรากินแป้งและน้ำตาลให้น้อยลงกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน ร่างกายจะไปดึงไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนหน้านี้มาใช้เผาผลาญในวันนั้นๆ (เราสามารถเพิ่มการเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้ด้วยการออกกำลังกายนั่นเอง)

ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำต่อวันเพื่อการลดน้ำหนัก คือ น้อยกว่า 100 กรัมต่อวัน

2. กินโปรตีน-ไขมันดีให้เพียงพอ

ร่างกายของเราต้องการโปรตีนในแต่ละวันอย่างน้อย 1-1.2 กรัมต่อวัน ถ้าน้อยกว่านี้อาจเสี่ยงภาวะกล้ามเนื้อสลายได้

นอกจากนี้ยังควรกินไขมันดีให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยกินอย่างน้อย 60-70% หรือหากกำลังกินอาหาร 2,000 kcal ก็ควรกินไขมัน 1,200-1,400 kcal และควรเป็นไขมันที่มาจากธรรมชาติเท่านั้น

3. กินเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเวลา

นอกจากเราจะลองปรับเปลี่ยนสิ่งที่เรากินดูแล้ว การเปลี่ยนเวลาในการกินก็เป็นอีกเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย

นั่นคือการทำ IF (Intermittent Fasting) หรือการงดมื้ออาหารในระหว่างวันให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ให้ร่างกายหยุดกิน หยุดมีอาหารตกถึงท้องเป็นเวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง แต่สูตรเวลาที่แนะนำคือ 16/8 หมายถึงกินอาหารได้ 8 ชม. แล้วอีก 16 ชม. คือห้ามกินอะไรที่ให้พลังงานแก่ร่างกายได้เลย

4. ดื่มน้ำเยอะๆ

การดื่มน้ำเยอะๆ ยังคงเป็นหลักการง่ายๆ ที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานและไขมันในร่างกายได้ดีขึ้น ดังนั้นการดื่มน้ำระหว่างวันเยอะๆ ยังคงสำคัญอยู่นั่นเอง 

อย่างไรก็ตาม อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น การออกกำลังกายยังคงสำคัญต่อการเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน หากทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วย การลดน้ำหนักจะเห็นผลเร็วมากยิ่งขึ้น และยังได้ร่างกายที่แข็งแรงทั้งภายนอกและภายในได้อีกด้วย