จิตแพทย์ชี้ 3 สัญญาณบอก “ติดพนัน” ช่วงฟุตบอลโลก ห่วงกับดักสู่ด้านมืด หาทางออกไม่ได้ ถึงขั้นปล้นทรัพย์ ขายตัว ค้ายา ฆ่าตัวตาย แนะ 3 แนวทางเลิกพนัน ย้ำครอบครัวรับฟังช่วยเหลือ

27 พ.ย. 65 – พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ไม่เพียงแต่ในช่วงเทศกาลบอลโลก ปัจจุบันช่องทางการพนันมีหลายรูปแบบ เข้าถึงแหล่งพนันได้ง่ายดาย ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ในทุกช่วงอายุ ไม่เว้นแม้ปต่กลุ่มเด็กและเยาวชน

ซึ่งส่วนใหญ่เล่นพนันเพราะมักมีสภาพแวดล้อมที่ทําให้สุ่มเสี่ยง เช่น มีโต๊ะสนุกเกอร์อยู่ใกล้บ้าน เล่นบอล ฯลฯ ยิ่งปัจจุบันรูปแบบพนันออนไลน์ยิ่งเข้ามาปะทะตัวเด็กและเยาวชนได้ง่าย โดยเฉพาะเกมพนันที่ตอบสนองพฤติกรรมของวัยรุ่น คือ รู้ผลเร็ว, เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา

ทั้งนี้ การสังเกตพฤติกรรมโรคติดพนัน คือ 1. เมื่อพยายามหยุดหรือลดเล่นพนัน จะกระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย ถึงพยายามหยุดหรือลดก็ทําไม่สําเร็จ ครุ่นคิดถึงแต่การพนันอย่างมาก 2. หลังจากเสียเงินจะกลับไปเล่นเพื่อเอาเงินคืน โกหกเรื่องการใช้เงิน เสี่ยงต่อการหาเงินอย่างผิดกฎหมาย และ

3. เพิ่มปริมาณเงินพนันมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้คงความรู้สึกตื่นเต้นเท่าเดิม หากตนเองหรือคนในครอบครัวมี พฤติกรรม 1 ใน 3 แสดงว่าเสี่ยงต่อการติดพนัน

สําหรับผู้ที่อยากเลิกเล่นพนันให้สําเร็จด้วยตนเอง ให้ยึดหลักแนวคิด 3 ข้อ คือ 1. สร้างแรงจูงใจในการเลิกเล่น พิจารณาทบทวนผลกระทบของการเล่นพนัน เช่น ปัญหาที่เกิดขึ้นหรือผลลัพธ์ที่ตามมา

2. สํารวจวิเคราะห์สาเหตุตัวกระตุ้นภายในหรือความคิด อารมณ์ ที่ทําให้เล่นพนัน เช่น เบื่อ เครียด กังวล แล้ว วางแผนจัดการหลีกเลี่ยง จัดการความเสี่ยงที่จะกลับไปเล่นพนัน เช่น ไม่เปิดดู ไม่คุยกับกลุ่มที่เล่นพนัน ควรกําหนดวันเลิกเล่น ซึ่งเลิกเล่นเลยจะปลอดภัยที่สุด จํากัดการเข้าถึงแหล่งพนัน เช่น ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตชั่วคราว

และ 3.หาทางเลือกกิจกรรมอื่นๆที่ดีกว่าไปทํา หมั่นคิดถึงเป้าหมายในชีวิตที่มีความสุข

พญ.บุญศิริ จันศิริมงคล ผอ.สํานักความรอบรู้สุขภาพจิต กล่าวว่า การพนันถูกออกแบบมาให้คนติดง่าย เมื่อตกไปในวังวนนี้ บางคนไม่สามารถออกมาจากการเสพติด ทําให้ติดกับดักวงจรชีวิตด้านมืด เช่น เป็นหนี้ โกหก ลักขโมย ไม่มีสมาธิเรียน เสียงาน ติดสิ่งเสพติดอื่น มักหงุดหงิดก้าวร้าว นําไปสู่ความแตกร้าวในครอบครัว หรืออาจรุนแรงถึงปล้นชิงทรัพย์ ล่อลวงเงิน ขายบริการทางเพศ ค้ายาเสพติด มีโอกาสติดเหล้า เกิดภาวะซึมเศร้า และพยายามฆ่าตัวตาย เป็นต้น

ดังนั้น เมื่อทราบว่าคนในครอบครัวกําลังติดพนัน ควรรับฟังและช่วยเหลืออย่างตั้งใจ เข้าใจ ให้ความรัก ไม่กล่าวโทษ หรือใช้ถ้อยคําอารมณ์รุนแรง ควรเพิ่มพลังใจให้กัน เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ผู้มีปัญหาพนัน เพื่อช่วยกันหาทางจัดการปัญหาและส่งต่อบําบัดได้อย่างเหมาะสม