3 วิธี ล้าง ‘องุ่นไชน์มัสแคท’ ยังไงให้ปลอดภัย และน่ารับประทาน

Home » 3 วิธี ล้าง ‘องุ่นไชน์มัสแคท’ ยังไงให้ปลอดภัย และน่ารับประทาน

วิธีล้าง องุ่นไชน์มัสแคท -ปก-min

กรมอนามัย แนะ 3 วิธีล้าง “องุ่นไชน์มัสแคท” ให้ปลอดภัยจาก สารพิษตกค้าง หลัง ‘องุ่นไชน์มัสแคทจีน’ ระบาด มีวางขายตามห้างทั่วไป

องุ่นไชน์มัสแคท หรือ องุ่นไซมัสแคท ที่กำลังเป็นที่นิยมรับประทานกันอยู่ในทุกวันนี้ ถูกดึงดูดด้วยความที่มีผลขนาดใหญ่กว่าองุ่นทั่วไป ช่อผลแน่น ผิวตึงเรียบเนียน สีเขียวอ่อนสดใส เกือบจะไม่มีเมล็ด เนื้อแน่นมีลักษณะคล้ายเจลลี นุ่ม กรอบฉ่ำน้ำ รสชาติหวานหอมละมุน เปรี้ยวน้อย และเก็บได้นาน แต่เจ้า องุ่นไชน์มัสแคท กับข่าวสารที่ปรากฎในปัจจุบัน พบ มีสารพิษตกค้างทั้งหมด 50 ชนิด ทำให้ประชาชนต่างพากันวิตกกังวลว่า หากซื้อมารับประทานนั้นจะเสี่ยงหรือไม่

องุ่นไชน์มัสแคท (1)-min

ล่าสุด พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีข่าวการตรวจพบสารตกค้าง “องุ่นไชน์มัสแคท” ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่ส่งผลให้ประชาชนมีความกังวล และกระทบต่อพ่อค้า แม่ค้า ที่จำหน่ายองุ่นไชน์มัสแคท ที่ผ่านมา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้ประชาชนบริโภคผักและผลไม้เป็นประจำ แต่อย่าลืมล้างผักผลไม้ให้สะอาดทุกครั้ง เพราะนอกจากจะช่วยลดสารเคมี หรือการตกค้างของยาฆ่าแมลง ยังช่วยทำความสะอาดลดการปนเปื้อนคราบดิน โคลนได้ด้วย

การล้างผัก ผลไม้ มี 3 วิธี ดังนี้

1) ล้างด้วยน้ำไหล โดยแช่ในน้ำนาน 15 นาที จากนั้นเปิดน้ำไหลผ่านและคลี่ใบผักถูไปมานาน 2 นาที (เหมาะสำหรับการล้างผักจำนวนน้อย)
2) แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วนน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 15 นาที จากนั้น ล้างด้วยน้ำสะอาด
3) แช่ในโซเดียมไบคาร์บอเนต (เบคกิ้งโซดา) ในอัตราส่วนครึ่งช้อนโต๊ะผสมน้ำ 10 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้น ล้างด้วยน้ำสะอาด (เหมาะสำหรับการล้างผักจำนวนมาก) ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้ จะช่วยลดสารพิษตกค้างจากยาฆ่าแมลง และเชื้อโรคในผัก ผลไม้ได้

องุ่นไชน์มัสแคท (3)-min
  • “อัจฉริยะ” โต้สื่อ ยัน เข้าพบ “โค้ชแล็ป” ตามกฎระเบียบ
  • หมอเหรียญทอง ฟาด! โพสต์ทวงหนี้ สปสช. หลังทำ รพ.ขาดทุนกว่า 20 ล.
  • อ. เจษฎา สวนกระแส องุ่นไชน์มัสแคทจีน ยังคงกินได้ แนะล้างให้ถูกวิธี!

ทั้งนี้ กรมอนามัย แนะนำให้ประชาชนบริโภคผลไม้อย่างหลากหลายและเลือกผลไม้ตามฤดูกาล สำหรับองุ่นนั้นมีหลายชนิดและหลายสี แต่ละชนิดมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน เช่น องุ่นเขียว มีสารพฤกษเคมีที่เป็นแอนติออกซิแดนท์ อาทิ คาเทชิน (Catechin) และ เทอโรสติลบีน (Pterostilbene) ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก และโรคหัวใจ องุ่นแดง มีสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง อีกทั้ง ยังมีสารซาโปนิน (Saponin) ที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ป้องกันเนื้องอก และลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอล ส่วนองุ่นดำ ช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด มีการศึกษาพบว่าน้ำองุ่นดำช่วยเพิ่มระดับสารแอนติออกซิแดนท์ในเลือดและลดอนุมูลอิสระ

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย-min

นอกจากนี้ กรมอนามัย ยังแนะนำให้เลือกผลไม้ตามฤดูกาลอื่นๆ เช่น ฝรั่ง ส้มโอ ส้มเขียวหวาน มะละกอ และกล้วยน้ำว้า เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน และควรเลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสุขาภิบาลอาหารตามวิถีชีวิตปกติใหม่ (SAN & SAN Plus) เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ