3 ผู้ต้องหาฆ่าเด็ก 3 ขวบ ร่ำไห้ขอโทษ ทิ้งน้ำทั้งที่ยังไม่ตาย แถมโกหกแม่เด็ก ก่อนความแตก เผยผลชันสูตร จมน้ำตาย ไม่ได้เสียชีวิตจากถูกทำร้าย
จากกรณีพบศพ เด็กชาย อายุ 3 ขวบ เสียชีวิตภายในน้ำ บริเวณใต้สะพานคลองชวดพร้าว ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี หมู่ 4 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยที่มีร่องรอยพกช้ำตามลำตัว คล้ายถูกทำร้ายร่างกาย รวมทั้งติดเชื้อโควิดด้วยก่อนที่ตำรวจจะจับตัว 3 ผู้ต้องหา โดยหนึ่งในนั้นเป็นสาวทอมอ้างว่าพลั้งมือ ก่อนจะร่วมกันนำศพมาทิ้ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 15 พ.ย.64 ร.ต.อ.ภาราดร เพ็งคต รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้คุมตัว 3 ผู้ต้องหาออกมาจากห้องขังขึ้นรถส่งตัวไปยังศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อส่งอัยการฟ้องศาล ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรงไว้ก่อน ทันทีที่ 3 ผู้ต้องหาเดินลงจากห้องขัง เมื่อถามว่าอยากบอกอะไรหรือพูดอะไรถึงครอบครัวเด็กที่เสียชีวิตหรือไม่ ทำให้ผู้ต้องหาถึงกับร่ำไห้ออกมาแล้วกล่าวคำว่าขอโทษที่พลาดลงมือทำไป
โดย น.ส.อริสรา จีนสมบูรณ์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นสาวทอม กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกผิดและขอโทษที่ทำลงไป โดยยอมรับผิดและรับกับผลที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ขณะที่ นายเรวัติ์ จีนสมบูรณ์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นพ่อผู้ร่วมก่อเหตุอีกคน เปิดใจขอโทษครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิต ยอมรับว่าวันเกิดเหตุไม่ทราบว่าน้องเสียชีวิตแล้วหรือยัง แต่เห็นว่าขาแข็งแล้วจึงพามาทิ้งอำพรางคดี
ด้าน พนักงานสอบสวนเผยผลการตรวจหาเชื้อยืนยันอีกครั้งว่า 3 ผู้ต้องหาไม่ติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด มีเพียงแม่ของเด็กเท่านั้นที่ยืนยันผล ซึ่งทำให้มีตำรวจหลายนายต้องพากันกักตัวให้วุ่น ส่วนการที่ไม่ได้แจ้งข้อหาอำพรางศพนั้น เนื่องจากผลการชันสูจน์ศพจากโรงพยาบาลระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการจมน้ำ ไม่ใช่จากการถูกทำร้ายร่างกาย จึงคาดว่าเด็กอาจจะยังไม่เสียชีวิตทันทีที่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่มาเสียชีวิตเพราะถูกโยนทิ้งคลองจนจมน้ำ
ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยคำให้การของ น.ส.อริสรา บางช่วงระบุว่า เพิ่งรับเด็กมาเลี้ยงได้เพียง 8 วัน โดยก่อเหตุทำร้ายร่างกายในช่วงบ่ายวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นนำร่างมาโยนทิ้งในเวลาประมาณห้าทุ่มของวันเดียวกัน ก่อนกลับไปห้องพักทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยวันที่ 9 พ.ย. แม่ของเด็กได้ติดต่อจะมาขอรับตัวลูกกลับ แต่ น.ส.อนิสรา ได้ออกอุบายว่ายังรับกลับไม่ได้ เนื่องจากแม่ของเด็กไม่มีเงินค่าจ้างเลี้ยงลูกให้ หลังจากนั้น น.ส.อนิสรา อ้างว่าพยายามติดต่อแม่ของเด็ก แต่ติดต่อไม่ได้
จนกระทั่งออกตามหาแม่ของเด็ก จนไปพบว่าเก็บของเก่าขายอยู่แถวโรงเรียนศึกษานารี จึงออกอุบายว่าพาเด็กไปเที่ยวดูลิงแถวแสมดำแล้วเกิดการผลัดหลงกัน โดยไม่รู้ว่าเด็กหายไปไหน จากนั้นมีการนำภาพถ่ายศพของเด็กมาให้แม่ดูทำนองว่าพบศพ แต่ไม่รู้ว่าใครทำร้าย ฝ่ายแม่จึงติดต่อตำรวจ จนมีการเรียกสอบปากคำจนยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว