3 นช.ป่วยโควิด แหกคุกหนองคาย จ๊ะเอ๋ ตร.กำลังออกเวร รวบได้ 2 อีกคนยังไม่เจอ เผยฉวยจังหวะเข้าเวรเฝ้านักโทษชวนกันหนี เร่งล่ามาดำเนินคดี

วันที่ 3 พ.ค.65 พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดหนองคาย ว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดหนองคายได้เช็คยอดนักโทษช่วงเช้า ทำให้ทราบว่ามีนักโทษชายหายไป 3 คน ขอกำลังตำรวจช่วยติดตามจับกุม

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา เมื่อทางตำรวจทราบรูปพรรณสัณฐานของนักโทษที่หลบหนีแล้ว เวลาประมาณ 08.30 น. ตนได้เรียกประชุมแถวกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้ทราบ เมื่อปล่อยแถวเสร็จ ส.ต.ต.ประวิตร สีพรมติ่ง สายตรวจรถจักรยานยนต์ชุดที่ 4 ขี่รถจยย.ออกเวรกำลังจะกลับที่พักตามถนนมิตรภาพขาออกตัวเมืองหนองคาย

พอมาถึงตึกร้างใกล้กับปั๊มน้ำมัน ปตท. แยกทางเลี่ยงเมืองบึงกาฬ พบชายต้องสงสัย 2 คน ท่าทางอิดโรยเดินทางออกมาจากตึกร้าง จึงจอดรถแล้วเรียกตรวจสอบ ทั้ง 2 คน รับว่าเป็นนักโทษที่หลบหนีจริง ส.ต.ต.ประวิตร จึงได้ใส่กุญแจมือไว้ แล้วรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนจะเข้าควบคุมตัวทั้ง 2 คนส่งให้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดหนองคาย

พ.ต.อ.ยุทธนา กล่าวว่า นักโทษที่หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดหนองคายนั้น มีทั้งหมด 3 คน เป็นคนไทย 2 คน ประกอบด้วย นักโทษชายรังสิวุฒิ สิริสุรัตน์, นักโทษชายพัฒนพงษ์ ช่วยแสง และอีก 1 คน คือ นักโทษชายสด โพนสิงห์ เป็นชาว สปป.ลาว ทั้งหมดเป็นนักโทษคดียาเสพติด อยู่ระหว่างรอการพิจารณาคดีจากศาลจังหวัดหนองคาย โดยเป็นผู้ป่วยโควิดซึ่งแยกออกมาพักรักษาอยู่ที่สถานพยาบาลภายในเรือนจำจังหวัดหนองคาย

ซึ่งนักโทษชายสด นั้น เดิมไม่ได้เป็นเวรเฝ้านักโทษผู้ป่วยด้วยกัน แต่คืนเกิดเหตุนักโทษชายสด ได้ขอเปลี่ยนทำหน้าที่เวรแทนคนอื่น แล้วฉวยโอกาสชักชวนเพื่อนนักโทษอีก 2 คน พากันหลบหนีออกจากเรือนจำทั้งที่ยังมีโซ่ตรวนอยู่ที่เท้า เมื่อออกจากรั้วเรือนจำได้แล้วก็แยกย้ายกันหลบหนี

โดยนักโทษชายรังสิวุฒิ และนักโทษชาวพัฒนพงษ์ หลบหนีไปด้วยกัน เดินเท้าไปหลบอยู่ที่ตึกร้าง ห่างจากเรือนจำประมาณ 1.5 กม. และใช้เศษเลื่อยที่พบในตึกร้างตัดโซ่ตรวจที่เท้าออก จนกระทั่งมาถูกจับกุมโดยยังไม่มีแผนการหลบหนีว่าจะไปไหนต่อ ส่วนนักโทษชายสด อยู่ระหว่างการหลบหนี ขณะนี้ทางเรือนจำจังหวัดหนองคายได้ขอกำลังพร้อมประสานหน่วยงานข้างเคียงช่วยตรวจสอบตามจุดผ่านแดนริมแม่น้ำโขง ตามหมู่บ้านต่างๆ ที่ติดกับแม่น้ำโขง เพื่อสกัดและติดตามจับกุมตัวนักโทษที่กำลังหลบหนีอยู่กลับมา