2 แก๊งดูแลสถานบันเทิงนัดเคลียร์ไม่จบ เปิดศึกไล่ตีกันยับ ‘เอ๋ มารีน’ นักต่อยมวยโชว์ หนีไม่ทัน โดนแทงดับหน้าผับ บาดเจ็บ 2 ราย คาดขัดแย้งผลประโยชน์
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.65 พ.ต.ท.เกริกฤทธิ์ สายวรรณะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีคนถูกของมีคมแทงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในแหล่งรวมสถานบันเทิง ภายในซอยบัวขาว พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขต เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บคือ นายนราวิช โป่งสูงเนิน อายุ 54 ปี หรือเอ๋ มารีน อดีตนักต่อยมวยโชว์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกของมีคมแทงเข้าลิ้นปรี่ มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 รายพากันหลบหนี ไปขอความช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้แล้ว
สอบถามทีมตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ขอสงวนชื่อ นามสกุล ) ทราบว่าขณะที่กำลังตรวจหาผู้ติดเชื้ออยู่ด้านหน้าสถานบันเทิงพัทยาบีชนั้น พบเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ไล่ตีกันมา 7-8 คน ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ผู้บาดเจ็บวิ่งหนีตาย กระทั่งพลาดท่าล้ม ทำให้กลุ่มคู่อริไล่ตามมาเตะเข้าที่ใบหน้าแล้วกระทืบซ้ำ แล้วใช้ของมีคมแทงปักเข้าที่หน้าอก จนนอนแน่นิ่งไป หลังเกิดเหตุก็พากันวิ่งหลบหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาได้รับการเปิดเผยจากผู้ประกอบการสถานบันเทิงว่า ทั้ง 2 กลุ่มนั้นเป็นกลุ่มผู้ดูแลตลาดทรีทาวน์ แหล่งรวมสถานบันเทิง บาร์เบียร์ ร้านเหล้านั่งชิลกว่าร้อยร้านค้า ทั้งสองกลุ่มนัดเคลียร์ปัญหากัน โดยตนบอกว่าห้ามมีเรื่องบริเวณนี้ ค่อยพูดค่อยจากัน แต่ทั้ง 2 กลุ่มกลับไล่ทำร้าย คว้ามีดมาแทงกันที่หน้าร้าน ภายหลังแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้น พ.ต.ท.เกริกฤทธิ์ สายวรรณะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ พยานแวดล้อม กล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และตลอดเส้นทางการเกิดเหตุและหลบหนี เพื่อติดตามกลุ่มคนผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเพียงไม่ถึง 20 นาที เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองอำบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงตรวจมาตรการก่อนเข้าบริการของสถานบริการ บริเวณที่เกิดเหตุ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่คล้อยหลังไป กลับเกิดเหตุสะเทือนขวัญกับนักท่องเที่ยว ถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์ เมืองท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก