คู่รักเพศเดียวกันจัดงานวิวาห์ แต่โดนเพื่อนสนิทขโมยซีนขอสาวแต่งงาน สุดท้ายตัดสินใจเดินออกจากงานเงียบ ๆ ยังโดนญาติต่อว่า
เว็บไซต์ New York Post รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีคู่รักเพศเดียวกันจัดงานวิวาห์ แต่เพื่อนสนิทของพวกเขากลับทำช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของพวกเขาพังยับเยิน ด้วยการขอแฟนสาวแต่งงาน
เจ้าบ่าววัย 30 ปี เล่าในฟอรั่มออนไลน์ Reddit ว่า เขาและสามี วัย 34 ปี เพิ่งแต่งงานกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี กระทั่งในช่วงเวลากล่าวสุนทรพจน์ของญาติและเพื่อนฝูง จู่ ๆ เพื่อนสนิทก็คุกเข่าลงขอแฟนสาวแต่งงาน ซึ่งฝ่ายหญิงก็ตอบตกลง และช่วงเวลานรกก็เริ่มต้นขึ้น
หลังจากนั้นแขกทั้งงานไม่มีใครสนใจเจ้าบ่าวและสามีเลย ช่วงเวลากล่าวสุนทรพจน์ถูกตัดออก และเพื่อนสนิทยังไปขอให้ดีเจเปิดเพลงรักของเขาและแฟนสาว ซึ่งกระตุ้นให้คู่รักคู่อื่น ๆ ทำตาม และยึดฟลอร์เต้นรำ
เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง เจ้าบ่าวและสามีจึงได้มีโอกาสเต้นรำในที่สุด แต่ในเวลานั้นผู้คนต่างหมดแรงและไปสนใจเรื่องกินข้าวแทน สุดท้ายเจ้าบ่าวตัดสินใจหันไปบอกสามีของตนเองว่าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว และทั้งคู่ก็ตัดสินใจออกจากงานไปเงียบ ๆ โดยร่ำลาเพียงพ่อแม่เท่านั้น
ปัญหาคือ 3 วันหลังงานแต่งงาน ลูกพี่ลูกน้องโทรมาถามเจ้าบ่าวว่าออกจากงานไปเมื่อไหร่ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มาบอกลา ซึ่งเขาก็บอกไปตามตรงว่า ที่ออกมาเร็วเพราะไม่มีใครสังเกตเห็นและสนใจ
ปรากฏว่าตอนนี้เขาได้รับโทรศัพพ์ต่อว่าจากญาติ ๆ ว่าไม่มีวุฒิภาวะและควรจะมีความสุขที่งานแต่งงานของตนเองทำให้ผู้คนรู้สึกโรแมนติกจนเกิดการขอแต่งงานกันขึ้น
เจ้าบ่าวยังกล่าวเพิ่มในคอมเมนต์ว่า พวกเขาวางแผนที่จะจัดงานแต่งงานเล็ก ๆ ที่มีเพียงพวกเขาและพ่อแม่ของทั้งคู่
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเพื่อนสนิทรายนี้แย่มากที่มาขโมยช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาไป ชาวเน็ตบางรายถึงขั้นแนะนำให้ส่งบิลค่าใช้จ่ายครึ่งนึงการจัดงานแต่งครั้งนี้ไปให้เพื่อนคนนี้
“ฉันจะไม่มีวันเข้าใจคนที่คิดว่านี่เป็นความคิดที่ดีและโรแมนติก”, “ฉันจะโกรธมากถ้ามีใครมาขอฉันแต่งงานในงานแต่งงานของคนอื่น มันไม่แปลกใหม่ ไม่มีความหมายพิเศษสำหรับความสัมพันธ์ของเรา ฉันรู้สึกกดดัน และเป็นการไม่เคารพคู่แต่งงาน” และ “ช่างเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ดีที่สุด”