2 นักร้องผู้มีแสงในตัว VS ทิดไพรวัลย์-จตุรงค์ ฉะไม่ร้องพระนั่งเบนซ์คันละ 4 ล้านบ้าง ชี้ถ้านั่งรถอีแต๋นมาจะเชื่อว่าไม่บ้ายศ พัดยศไม่ต้องถือกันได้มั้ย
รายการโหนกระแสวันที่ 16 ธ.ค. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ 2 นักร้องดังแห่งยุค ผู้มีแสงในตัว “ศรีสุวรรณ จรรยา” และ “สนธิญา สวัสดี” มาพร้อม “อ.จตุรงค์ จงอาษา” ผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนา มานั่งดีเบตด้วย
พี่ศรียืนยันว่ามีแสงในตัว?
ศรีสุวรรณ : ผมก็พูดตลกไป เพราะพี่หนุ่มชอบแซวผม ผมก็แซวกลับ ปกติผมทำอะไร ผมเคลื่อนไหวอะไรก็เป็นข่าวอยู่แล้ว แค่นั้นเอง
ยิ่งกว่าน้องกลัฟ ที่กำลังดัง กลายเป็นพี่ศรี ขยับตัวปุ๊บมีข่าวทั้งนั้น?
ศรีสุวรรณ : การขยับตัวหรือการร้องเรียนของผม เป็นที่สนใจของสื่อมวลชน ของสาธารณชนอยู่แล้ว หลายเรื่องที่ไปดำเนินการก็อาจมีสังคม สื่อมวลชนสนใจ หรือไม่สนใจก็มีเยอะแยะไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่สนใจ ทำให้ถูกแซวว่ามีแสงในตัว โดยเฉพาะพี่หนุ่มชอบแซวอยู่เสมอ
มุมสนธิญา ยังกราบเรียนอยู่มั้ย?
สนธิญา : ยังกราบเรียนเหมือนเดิม ขออนุญาตตรงประเด็น การกระทำต่างๆ เหล่านี้ ทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 เรื่องการร้องเรียน แจ้งความ กรณีหมู่บ้านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผมเป็นผู้แจ้งความตั้งแต่ปี 50 ถึงวันนี้ก็ 15 ปี ส่วนหนึ่งที่ทำมาเพราะตอนรับพระราชทานปริญญาบัตร ผมถวายสัตย์ปฎิญาณชัดเจน พลีชีพเพื่อส่วนรวม ฉะนั้นสิ่งที่ทำจึงได้ตรึกตรอง ไตร่ตรองแล้วว่าเป็นประโยชน์กับสังคมจริงๆ
คำว่าพลีชีพเพื่อส่วนรวม ไม่กลัวชาวบ้านบอกว่าถ้าพลีชีพจริงๆ วันนี้ตายไปแล้ว?
สนธิญา : ไม่ตาย แต่โดนดำเนินคดีไปแล้ว 4 คดี (หัวเราะ)
ส่วนใหญ่คนให้ฉายานักร้อง?
สนธิญา : วันนึงมีผู้ไปร้องเรียนสถานที่ต่างๆ เป็นร้อยเป็นพันคน แต่กรณีผมเองกราบเรียนว่าผมทำมาตั้งแต่ปี 2550 และการที่สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ ซึ่งเขามีมูลค่าเป็นหมื่นๆ ล้านเขาให้เครดิต กับผู้ไปร้องคนใดคนหนึ่งก็ตาม ผมถือว่าได้รับเกียรติจากสื่อสารมวลชนให้เกียรติเราในการทำข่าว
แต่พี่ได้รับการเกลียดจากชาวบ้าน?
สนธิญา : เป็นเรื่องที่ชาวบ้านทั้งประเทศต้องโปรดพิจารณาด้วยใจที่เป็นกลาง วันนี้ผมนำพระราชดำรัสมาเลย
ล่าสุดพี่ไปร้องฝั่งทิดไพรวัลย์ ทำไมถึงไปร้อง?
สนธิญา : ผมไม่ได้ติดตามเรื่องท่านอดีตพระมหาไพรวัลย์เลย แต่ 3-4 วันที่ผ่านมา มีคนโทรศัพท์มาที่ผม รวมทั้งพระ 3 รูปแถวจังหวัดสมุทรสาคร โทรมาบอกว่าช่วยไปดูเพจนึง วันที่ 12 ธ.ค. ที่มีคุณจอมขวัญ หลาวเพ็ชร อยู่ด้วย มีคำพูดอยู่ 4 อย่างที่ผมเองติดใจ และผู้นับถือศาสนาเองก็ไม่สบายใจ โดยเฉพาะผม ประเด็นที่หนึ่งที่อดีตพระมหาไพรวัลย์พูด คือหนึ่งศาสนาคือเต่าล้านปี สองวันๆ นั่งประชุมกันจะเลื่อนใคร จัดตั้งใคร สามศาสนามีแต่บ้ายศบ้าอะไรกันอยู่ สี่แข่งกันสร้างอะไรใหญ่โต 4 อันนี้ที่ติดใจ ต้องขอกราบเรียนว่าพระสังฆาธิการสำคัญ ๆ ในประเทศไทยนั้น เป็นพระราชอำนาจ การที่บุคคลใดก็ตาม กล่าวและพาดพิงไปถึงสถาบันศาสนา ซึ่งประเทศไทยมีผู้นับถือศาสนาพุทธกว่า 63 ล้าน เรามีวัดจำนวนกว่า 4 หมื่นวัด เรามีพระสามเณรกว่า 2 แสนรูป นี่คือสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 ปกปักษ์ไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผมจะทำอะไรก็ตามจะยึดพระราชดำรัสในหลวงร. 9 จะยึดพระราชดำรัสหลักคุณธรรม คิดด้วยจิตใจที่เป็นกลางก่อนพูดหรือทำสิ่งไร
มุมพี่ศรีเหมือนกับทางพี่สนธิญามั้ย?
ศรีสุวรรณ : ไม่ครับ ประเด็นผมอาจไม่เหมือนคุณสนธิญา ประเด็นเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
รู้จักกันมาก่อนมั้ย?
ศรีสุวรรณ : ไม่เคยรู้จักกัน วันนี้เป็นวันแรกที่ได้รู้จักกันตัวเป็นๆ ก่อนหน้านี้เห็นหลังไว เดินสวนกัน
ถูกกันมั้ย?
ศรีสุวรรณ : ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง เขาก็เคยไปร้องเรียนผมอยู่
ร้องเรื่องอะไร?
สนธิญา : ร้องค้านหลายเรื่อง ถ้าเรื่องไหนที่ผมไมเห็นด้วย ผมก็ไปร้องค้าน
ศรีสุวรรณ : ก็เป็นเรื่องปกติ ได้ข่าวว่าเขาไปร้องก็โอเคเป็นสิทธิเป็นเรื่องปกติ
สนธิญา : ตรวจสอบกันเป็นธรรมดา
อยู่กันคนละข้าง?
ศรีสุวรรณ : แล้วแต่จะคิดว่าอยู่ข้างไหน ผมคิดว่าสิ่งที่ผมกับคุณสนธิญาทำ ก็เป็นเรื่องสอดคล้องกัน แต่บางเรื่องตรงข้ามกันก็มี
แต่เรื่องทิดไพรวัลย์มองตรงกัน?
ศรีสุวรรณ : ก็ไม่ตรงกันซะทีเดียว หลายเรื่องก็เห็นด้วยกับทิดไพรวัลย์ ผมเห็นด้วยก็ไม่จำเป็นต้องบอกเขา ก็เงียบๆ ไปเสีย
เขาบอกพี่สองปาง ตอนโพสต์ก็ด่าแก แต่พอเจอก็คุยดี?
ศรีสุวรรณ : คนเราคุยกัน จำเป็นต้องเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน แต่เวลาโพสต์อาจใส่ความเห็นให้เต็มที่ ให้มีสีสัน ไม่งั้นสื่อมวลชนจะหยิบไปนำเสนอ นำไปดราม่าได้ไง
วางแผนมาเลย?
ศรีสุวรรณ : ถูกต้อง ผมยืนยันมาตลอด ผมกับทิดไพรวัลย์ก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้ง บาดหมาง เพียงแต่ต่างคนต่างสถานะ ต่างมีจุดยืนกัน บางเรื่องที่ผมเห็นเขาไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมก็เตือนกัน อาจเตือนโดยใช้เพจ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ทิดเขาอาจสววนผมก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ซีเรียส
รูปกลมๆ ใคร?
ศรีสุวรรณ : ผมเอง มีระบบทำได้ ใส่ให้ดูเข้ม ปกติหน้าหล่อเหมือนพี่หนุ่ม
ที่โพสต์ว่าแต่งตัวจี๊ดควงสาวรับงานพรีเซ็นเตอร์ ส่วนแม่นอนป่วยเป็นมะเร็งอยู่โรงพยาบาล ไหนบอกสึกออกมาจะดูแลคุณแม่ แต่กลับโชว์โง่ ระริกระรี้ด่าคนเต็มโซเชียล?
ศรีสุวรรณ : ก็สะท้อนความจริงไม่ใช่หรือ เรื่องนี้ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายเลย ถ้าญาติผมป่วย โดยเฉพาะผู้มีพระคุณที่คลอดออกมา แล้วโรคที่เป็นร้ายแรงค่อนข้างสูง สิกขาลาเพศมาก็แถลงต่อประชาชนว่าจะไปดูแลแม่ จำเป็นต้องไปดู จะมาอ้างว่าหมอไม่ให้ดูตลอด 24 ชม. มันก็ใช่ แต่ก็ต้องไปอยู่ในพื้นที่ อยู่รพ. อย่างผมไปเช่าอยู่ห้องข้างเคียง เผื่อเวลาหมอมีปัญหาจะได้ปรึกษาได้ตลอดตลอดเวลา ไม่ใช่ออกไปโน่นไปนี่ มีกิจกรรมตลอด
ในภาพเขาก็ป้อนข้าวแม่อยู่นะ เขาก็ต้องออกมาทำมาหากิน หาเงินช่วยจุนเจือแม่ไง มองอย่างนี้ได้มั้ย?
ศรีสุวรรณ : ก็มองได้ แต่ผมก็มีสิทธิ์มองในมุมของผม
ทำไมต้องว่าเขาระริกระรี้?
ศรีสุวรรณ : ก็สวยงามออก มีคำอธิบายในตัวคำพูดเหล่านี้อยู่แล้ว ไม่ต้องไปอธิบายเพิ่มเติม
พี่ไม่ได้ไปร้อง แต่มีวิวาทะ แต่สนธิญานี่ไปร้องเลย?
สนธิญา : ผมแค่ไปสะกิดว่าสิ่งที่พูดอย่างนั้นกระทบชาวพุทธจำนวนมากในประเทศไทย ผมเรียนอีกครั้งผมแห็นใจท่านไพรวัลย์ อย่างน้อยแม่ไม่สบายและท่านออกมา อยู่วัดมา 18 ปี คนอยู่วัดช่วงนึงของชีวิต เมื่อออกมาก็ต้องทำมาหากิน ยังคิดส่วนตัวด้วยซ้ำว่าผู้ดูแลเกี่ยวกับพระหรืออะไรก็ตาม อย่างอยู่วัดมา 20 พรรษา ถ้าคุณออกมากรมศาสนาน่าจะมีงบส่วนหนึ่งให้เขา นี่ผมคิดเองนะ เหมือนบำเหน็จและบำนาญ เพราะบุคคลเหล่านี้เข้าไปเขาก็ทำประโยชน์ให้กับสังคมของเรา
อาจารย์มองยังไง?
จตุรงค์ : อย่างแรกผมต้องมีแสงไฟให้ตัวเองก่อน ไม่รู้จะมองยังไง ผมมาคนเดียว
ศรีสุวรรณ : เดี๋ยวผมช่วยฉายให้
จตุรงค์ : (หัวเราะ) ขอบคุณครับ
เรื่องพี่สนธิญาเขาไปร้อง จริงๆ ถือว่าเข้าสี่ข้อที่เขาบอกมั้ย?
จตุรงค์ : ในความรู้สึกผม สี่ข้อที่เขาเขียนมา เรื่องยศตำแหน่ง ผมว่าเป็นเรื่องจริง เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงแล้วลบหลู่ตรงไหน ถ้าเขาไม่ได้ทำแล้วท่านไพรวัลย์ไปใส่ร้ายเขา เช่น เขาประชุมเรื่องดีๆ งามๆ แต่ท่านไพรวัลย์ไปใส่ไคล้ว่าเขาประชุมกันเรื่องยศเว้ย อันนี้ผมว่าเข้า ถามว่าเรื่องยศเรื่องตำแหน่งใครจะยังไง อยู่ในวาระประชุมทุกวาระ เรื่องเจ้าอาวาสวัดไหนตาย ใครจะเป็นเจ้าอาวาสต่อ จะตั้งเจ้าคณะอำเภอ ตำบล จังหวัด มันเป็นเรื่องปกติทั้งนั้น สิ่งที่ท่านไพรวัลย์พูดมันจริงทั้งหมด
ศาสนามีแต่บ้ายศ?
จตุรงค์ : ไม่จริงเหรอคุณ ถามว่าที่นั่งรถมาประชุม นั่งรถอะไรกันมา ถ้านั่งรถอีแต๋นมาผมจะเชื่อว่าเขาไม่บ้ายศ แต่เห็นแต่ละคน โอ้โห จีวรแพรพรรณชั้นดี รถเบนซ์ โฟล์ค แล้วบ้ายศมั้ย สิ่งที่ท่านไพรวัลย์พูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตรงไหน คราวหลังถ้าท่านประชุมช่วยนั่งรถอีแต๋นมาประชุม นั่งรถบุโรทั่งมาประชุมกันได้มั้ย พัดยศไม่ต้องถือกันได้มั้ย ทำให้ผมชื่นใจว่าพระภิกษุที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อยู่เหนือท่านไพรวัลย์ อุดมไปด้วยความสมถะ ปล่อยวาง ถ้าตราบใดยังนั่งโฟล์ค อัลพาร์ด นั่งรถราคา 3-4 ล้านอัพแต่ละรูป อย่าบอกว่าท่านไม่บ้ายศ ไม่บ้าเงิน ด้วยความเคารพครับ (ยกมือกราบ)
มีแข่งกันสร้างอะไรใหญ่โต?
จตุรงค์ : หรือไม่จริง การสร้างศาสนสถาน ไม่ต้องแปลกใจ ตัวชี้วัดวัด มาจากศาสนก่อสร้างมากกว่างานสร้างคน เพียงแต่มารัชกาลนี้ดีหน่อย เริ่มมีตัวชี้วัด เน้นการสร้างคนมากขึ้น ลดการสร้างสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตให้มันน้อยลง
เขาก็วิจารณ์ได้หรือเปล่า?
สนธิญา : ด้วยเหตุผลนี้ที่ไปร้อง เมื่อไหร่ก็ตามท่านอยู่วงนอกของศาสนาแล้ว มาเป็นปุถุชนคนธรรมดาแล้ว ก็หากินไปตามปกติเถอะครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องไปรื้อฟื้นอะไรก็ตาม ถ้าจะเอาอย่างนั้นคุณต้องเอาหลักฐานมาด้วย
หลายคนมองว่าไปเบียดบังสิทธิทิดหรือเปล่า หากเขาเห็นสิ่งไม่ถูกต้องก็มีสิทธิ์พูด ร้องเรียกความเป็นธรรม แต่พอร้องทางนี้ก็บอกว่าคิดเอง?
สนธิญา : ถูกต้องครับเป็นสิทธิ แต่สิทธินั้นไปกระทบพระผู้ใหญ่ จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่จริง แต่คนส่วนมากไม่เห็น
ถ้าเป็นเรื่องจริง ต้องทำยังไง?
สนธิญา : แล้วพิสูจน์ได้มั้ยว่ารถที่ท่านนั่งมาตามที่บอกประชุมกันทุกวัน หรือกรณีบ้ายศบ้าตำแหน่ง เขาทำกี่ครั้งต่อปี อย่างน้อยปีละครั้ง ประชุมก็ตามปกติ มีพระผู้บริหารอยู่ตรงนั้นอยู่แล้วเป็นปกติ
“ทิดไพรวัลย์” อยู่ในสาย อยากให้เคลียร์กันด้วยเหตุผล มองยังไง?
ทิดไพรวัลย์ : อยากได้หมากรุกมั้ย ผมให้ลุงสองคนไปนั่งเล่นกันสองคนเลย ผมว่าได้ประโยชน์มากกว่าทำอะไรแบบนี้ ลุงศรีผมก็เคารพนะ ตอนหลังเงียบๆ คิดว่าจะปล่อยผมไป ไม่จองเวรจองกรรม ก็ดีใจทำมาหากินไป โน่นนี่นั่น อ้าว มาเจอลุงอะไรอีก ด้วยความเคารพผมไม่ได้รู้จักท่านเป็นการส่วนตัว มาร้องเรียนอีกแล้ว สิ่งที่เขาพูดสี่ข้อต้องไปฟังทั้งหมด จะมาตัดท่อนใดท่อนนึงไม่ได้ ผมวิจารณ์ในส่วนที่ผมมองว่าเป็นปัญหา แล้วลุงสนธิญาต้องแยกนะ ศาสนาส่วนศาสนา องค์กรศาสนาส่วนองค์กรศาสนา ผมวิจารณ์การทำงานของคณะสงฆ์ ไม่ได้วิจารณ์ตัวศาสนา ตัวหลักธรรมคำสอน ผมไม่ได้วิจารณ์พระพุทธเจ้า ผมยังนับถือศาสนาพุทธ บัตรประชาชนยังระบุว่าเป็นคนพุทธ ทำไมผมถึงวิจารณ์คณะสงฆ์ไม่ได้
พี่ศรีบอกว่าคำว่าระริกระรี้ดูอ่อนหวาน?
ศรีสุวรรณ : เป็นสำนวนทั่วไป โดยคำพูดก็ชัดเจนในตัวมันแล้ว พี่หนุ่มชอบรื้อฝอยหาตะเข็บให้ผมทะเลาะกับทิดไพรวัลย์อยู่เรื่อย
ตกลงเคลียร์แล้ว?
ศรีสุวรรณ : ไม่มีอะไรกัน เป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นเพื่อนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ช่วยเพื่อนหน่อยได้มั้ย ไปร้องสนธิญาหน่อยได้มั้ย?
ศรีสุวรรณ : จะไปร้องประเด็นไหน ผมคิดว่าการร้องเรียน ไม่ได้เป็นเรื่องที่ใครจะดำเนินการอย่างไรก็ได้ การร้องเรียนสังคมเป็นคนตัดสินกำหนดเองว่าสิ่งที่สนธิญา-ศรีสุวรรณไปร้อง เหมาะสมหรือไม่อย่างไร ผมว่าสังคมควรตัดสิน ให้สังคมพิพากษาดีกว่า
มุมทิดว่าไงบ้าง อยากให้จบยังไง?
ทิดไพรวัลย์ : ก็ตามสบายเลยครับ เพราะสิ่งที่ผมพูดคือความจริงทั้งนั้น ผมอยู่ในศาสนามา 18 ปีทำไมผมจะไม่รู้
ทางนี้ถามว่ามีหลักฐานเหรอ?
ทิดไพรวัลย์ : โอ้ย ไปอยู่ไหน หลักฐานมีเยอะแยะ เห็นอยู่วัดที่คนไปท่องเที่ยว ไม่ได้สร้างเหรอ ลุงสนธิญาเคยเป็นอดีตกรรมาธิการกฎหมาย ยุติธรรม สิทธิมนุษยชน ทำไมไม่ไปทำพวกนั้นไปเป็นปากเสียงให้พระที่โดนรังแก จ.กาฬสินธ์ ทำไมไม่ออกมาแอ็กชั่นบ้างทำไมไม่ถามไปยังองค์กร ไม่ปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่มามีปัญหาแค่คนอย่างผม ซึ่งเป็นคนธรรมดา กล้ารีแอ็กชั่นมั้ยไปตรวจสอบองค์กรบ้างว่าคณะสงฆ์ใช้อำนาจกันถูกต้องมั้ย ละเมิดสิทธิมนุษยชนมั้ย การปลดการตั้งเป็นไปอย่างชอบธรรมมั้ย กล้ามั้ยครับ ผมจะรอดู
กล้ามั้ย?
สนธิญา : ประเด็นคือที่ผมร้อง หนึ่งสี่ข้อต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสิ่งที่ท่านพูดเป็นเรื่องจริง สิ่งที่ผมไปร้องคือให้ตร. พิจารณาวินิจฉัยตามกระบวนการกฎหมาย ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนที่ถามว่าผมไปร้องเรื่องอะไรบ้าง อย่างน้องที่ร้อยเอ็ด ไปกู้หนี้มา สามชม.จ่าย 2 หมื่นเขาไปร้องที่ดีเอสไอไม่ได้ทำอะไรให้ มาร้องปอท.ไม่เท่าไหร่ นักข่าวแนะนำมาร้องที่ผม ผมไปร้องที่กองปราบ เมื่อวานเขายังบอกผมว่าเขายังเจรจากับเรื่องหนี้ตัวนั้น ที่ไปร้องไม่ใช่เพราะผม แต่เป็นเพราะคนอื่นร้องมาที่ผม ผมถึงไปร้องต่อ
ถ้าสังคมให้จับมือกันแล้วไปดูว่าสี่ข้อมีจริงหรือเปล่า?
สนธิญา : เรื่องนี้เป็นของผม ผมทำงานเดี่ยวอยู่แล้ว ถ้าเมื่อไหร่เราทำผิดหรือถูกเราต้องรับผิดชอบ ถ้าผิดก็พร้อมติดคุก เท่านั้นเอง ผมโดนฟ้อง 4 คดี แต่ที่กราบวิงวอนคือท่านออกจากศาสนาแล้ว ก็โปรดทำมาหากินไป อย่าไประรานพระใหญ่โตเขาเลย อย่าไปแตะเขาสิครับ
ทิดไพรวัลย์ : ตอนผมเป็นพระผู้น้อยโดนจดหมายร้องเรียน ตั้งคณะกรรมการสอบผม ลุงสนธิญาไปอยู่ไหน เคยปกป้องสิทธิผมมั้ย จนผมกระเซ็นกระซ่านออกจากผ้าเหลืองมา เคยทำงานให้พระตัวเล็กตัวน้อยหรือเปล่า ปกป้องแต่พระผู้ใหญ่ พระผู้ใหญ่ผมจะไปทำอะไรเขาได้ คำพูดผมจะทำอะไรเขาได้ จะทำให้เขาหลุดจากตำแหน่งเหรอ
สนธิญา : ท่านมีหลักฐานมั้ย เอามาให้ผม อย่ามัวแต่คำพูด เอาเป็นหนังสือมาเลย
ทิดไพรวัลย์ : เขามีการประชุมเป็นวาระ ตั้งคนโน้นคนนี้ ก่อสร้างที่มีวัดพัฒนาตัวอย่างในหลักเกณฑ์ประกอบการวัดพัฒนาตัวอย่าง เขาแข่งกันสร้าง ทำไมไม่ไปหาล่ะ
จตุรงค์ : ไปโหลดได้ มติมหาเถรสมาคม มีไฟล์ให้โหลด วันๆ เขาประชุมห่าเหวอะไรรู้หมด เขาจะตั้งวัดไหนจะดองใครมีหมด ไม่ใช่เรื่องต้องมานั่งเถียงกัน เดี๋ยวนี้โลกยุคไหนแล้ว หาโหลดได้ พี่สนธิญาทำงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนแต่ไปปกป้องคนมีอำนาจรัฐ หลักการก็แปลกๆ
สนธิญา : ผมปกป้องความถูกต้อง
จตุรงค์ : ถ้าจะปกป้องต้องเป็นผู้ไม่มีอำนาจรัฐ ปกป้องพระผู้ใหญ่เขามีอำนาจรัฐ เอาหลักการสิทธิมนุษยชนก่อน ผมก็เรียนหลักการมา พี่เอาอำนาจพี่ไปปกป้องคนมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แล้วบอกว่าประชาชนหัวดำๆ อย่างท่านไพรวัลย์ผิด พี่ทำผิด ควรไปตรวจสอบมส.มั้ย ไปตรวจสอบพระที่มีรถดีๆ หรือเปล่า ไปตรวจสอบว่ารถนั้นมาจากไหน ไปตรวจสอบสำนักพุทธมั้ย ว่าการออกจดหมายตรวจสอบท่านไพรวัลย์ชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า พี่ต้องตรวจสอบคนมีอำนาจรัฐ ไม่ใช่มาตรวจสอบจำเลย หรือผู้เสียหาย พี่จะตรวจสอบด้วยเอกสาร เอกสารก็อยู่ที่หน่วยงาน
สนธิญา : ท่านก็เอาเอกสารมา ท่านบอกกล่าวว่า สี่ข้อนี้
จตุรงค์ : พี่ไม่คิดขวนขวายหาเอกสารบ้างเลยเหรอ ดูพี่ศรีบ้าง ท่านทำงานมา ค้นเอกสารเองทุกฉบับ เขาเป็นอาจารย์ในด้านการร้อง เขาค้นหาเอกสารเองพี่
ศรีสุวรรณ : ผมหาด้วยตัวเองทั้งหมด ประเด็นผมคือเรื่องคุณสนธิญาไม่เข้าองค์ประกอบทางกฎหมายเลยไม่เข้าไปยุ่งด้วย คอยดูว่าตร.ที่เขาไปร้องจะสรุปเรื่องนี้ออกมาอย่างไร และเป็นไปตามที่ผมพูดมั้ย
พี่ศรีมองว่าทิดไพรวัลย์ไปพูดไม่เข้า พี่สนธิญาคิดว่าเข้า?
สนธิญา : ผมร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ผู้ถูกกล่าวหาเอาเอกสารไปให้ผู้เกี่ยวข้อง โปรดเข้าใจด้วย ผมร้องตรวจสอบข้อเท็จจริง
ฝั่งพี่จตุรงค์บอกว่าไปตรวจสอบผู้มีอำนาจบ้างได้มั้ย?
สนธิญา : ผมตรวจสอบมาหลายคดีแล้วครับ
จตุรงค์ : เอาเรื่องพระสิ คนที่ออกมาจัดการท่านไพรวัลย์ สินทรัพย์มาจากไหน มายังไง ถ้าคณะสงฆ์ไม่โอเคกับท่านไพรวัลย์ ก็ให้นิติกรมาจัดการเองสิครับ พูดง่ายๆ ก็ไม่เข้าใจ คุณสนธิญาจะมาจับตรงนี้ทำไม ทั้งที่สำนักพุทธก็มีนิติกรของเขา เจ้าคณะใหญ่ก็มีลูกมือเป็นนักกฎหมายระดับสว. ระดับกรรมการปฏิรูปประเทศ ถ้าเขาจะทำ เขาจัดการเองได้ พี่สนธิญาแทบไม้องแตะอะไรเองด้วยซ้ำ
สนธิญา : ผมไม่ได้อ้างพระรูปใดรูปนึงเลยนะ ท่านพูดเองนะ พระผู้ใหญ่ผมไม่ได้ระบุชื่อ อย่างที่กราบเรียน มาตรา 34 เสรีภาพ พูด อ่าน เขียน ทำได้ แต่ถ้าคุณไปละเมิดคนอื่น มันก็ทำไม่ได้ แต่ไม่ใช่มาอ้างเรื่อยเปื่อย ประเทศไทยที่วุ่นวายปัจจุบันก็อ้างเสรีภาพและไปละเมิดสิทธิเสรีภาพคนอื่น
จตุรงค์ : พี่สนธิญาเข้าใจผิดหนึ่งเรื่องแล้ว ประชาชนทั่วไป มีสิทธิทำอะไรก็ได้ตราบใดที่กฎหมายไม่ห้าม เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิทำอะไรเลย ตราบใดที่กฎหมายไม่อนุญาต
อ่านรัฐธรรมนูญทั้งเล่มมั้ย?
สนธิญา : อ่านทุกมาตรา ผมร้องมาเกือบ 200 เรื่อง 15 ปีที่ผ่านมา ไม่งั้นผมติดคุกไปแล้ว
เคยคิดร่วมมือกันไปร้องมั้ย?
ศรีสุวรรณ : ผมว่าไม่จำเป็นหรอก ถ้าใครสนใจเรื่องอะไร เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายก็มีสิทธิไปดำเนินการ ไม่จำเป็นต้องมาร่วมร้องกัน ใครคิดอะไรได้ ทำอะไรได้ก็ดำเนินการไปตามหน้าที่ ถ้าทำไปแล้วก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระทั่งกับบุคคลอื่นเขาก็ใช้สิทธิตามกฎหมายเหมือนกัน ในการฟ้องร้องดำเนินคดี อย่างที่เราถูกฟ้องร้อง ก็เท่านั้นเอง
ทั้งสองท่านเวลาไปร้องอะไรสักเรื่อง มักไปร้องเรื่องสวนกับความรู้สึกชาวบ้านกับสังคม?
ศรีสุวรรณ : ใครเป็นคนตัดสินล่ะครับ ว่าสวนกับความรู้สึกชาวบ้าน อย่าคิดว่าคนที่มาดราม่าในโซเชียล เป็นเสียงส่วนใหญ่ จริงๆ มันไม่ใช่ คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยอาจมีเยอะ แต่ไม่ใช่ต้องรู้เรื่องเดียวกัน
จะบอกว่าอย่าไปมองแค่โซเชียล ยังมีสังคมอื่นอีกมากมาย ที่เขาไม่ได้แสดงความคิดเห็น จะไปรู้ได้ไง สิ่งที่ทำอาจมีคนเห็นด้วยจำนวนมากก็ได้?
ศรีสุวรรณ : ถูกต้อง ผมไปที่ไหนมีแต่ความสุข ประชาชนให้การต้อนรับขับสู้
จตุรงค์ : สำหรับผม ผมก็มีคุณงามความดีพี่ศรีอยู่ 2-3 เรื่อง พี่ศรีก่อนมาดังในทางการเมือง แกทำเรื่องป่า ผมเสียดายเหมือนกัน พี่ศรีมาทำงานกระแสเพื่อให้ได้อิมแพคกับประชาชน ทำให้งานเรื่องป่าดร็อปลงไป ถ้าแกกลับไปทำของเดิมจะดีกว่านี้ แต่จะทำยังไงให้ปัง พี่ศรีดังเรื่องการต่อสู้ของชุมชนบางบัว เขาสั่งมาเลยนะ เวลาไปออกกับพี่ศรี ทะเลาะกับพี่ศรี คนชุมชนบางบัวก็จะบอกว่าให้เบาๆ หน่อย ผมก็เข้าใจ แต่สิ่งที่ค้านก็ต้องเถียงกัน จบรายการผมกับพี่ศรีก็ยกมือไหว้กันคุยกันปกติ แกก็มีดี เพียงแต่รู้สึกว่าแกเอากระแส เหมือนทำรายการโหนกระแสเอากระแส ตอนนี้พี่ศรีเอากระแสอยู่ อยากให้แกกลับไปทำงานหลักของแก
ศรีสุวรรณ : ผมก็ทำทุกเรื่องที่ชาวบ้านเดือดร้อน เพียงแต่อาจดังแค่ระยะเวลาเล็กๆ น้อยๆ หรือจะปังหรือไม่ปัง หรืออาจจะปังในช่วงระยะเวลานึง แต่ ณ วันนี้มันมีสิ่งอื่นๆ ตามมาเยอะแยะ ผมฟ้องมาตั้งแต่ ปี 45 46 นับคดีไม่ต่ำกว่า 5 พันคดี ผมช่วยชาวบ้านมาทั้งประเทศ คดีความที่ทำให้ ก็ทำให้ฟรีทั้งหมด เว้นแต่ชาวบ้านมีน้ำจิตน้ำใจให้เป็นค่าตอบแทน น้ำแก้วนึงก็ชื่นใจแล้ว
มีคลิปนึงเขาส่งมาให้ ร้องได้มั้ย เรื่องเกิดที่สุรินทร์ มีการเชิญดาวเด่น พวกทรงเจ้า อภินิหารต่างๆ นานา ไปยืนอยู่ข้างผู้ว่าฯ สุรินทร์ เป็นพิธีที่เขากำลังทำเกี่ยวกับอนุสาวรีย์ที่สุรินทร์ แบบนี้เหมาะมั้ย หนึ่งในนั้นมีเณรแอร์?
ศรีสุวรรณ : ถ้าเขาไม่ใช่พระก็ทำได้ โดยสิทธิของเขาอยู่แล้ว
สนธิญา : ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เป็นความเชื่อ การศรัทธา ไม่ไปกล่าวหา ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
แต่คนส่งมาหาบอกว่าคนสุรินทร์เดือดมากๆ ผู้ว่าฯ สุรินทร์เอาเณรแอร์มาทำมนต์ดำหน้าอนุสาวรีย์ วันนี้มายืนถ่ายรูปกับผู้ว่าฯ แล้วขนบธรรมเนียมหายไปไหน ทำไมมาใช้เดรัจฉานวิชาแบบนี้?
ศรีสุวรรณ : ต้องแยกส่วน การประกอบพิธีกรรมแบบนี้ ถ้ามีผู้ว่าฯ มาด้วย แสดงว่าเขาได้ขออนุญาตมาแล้ว ถ้าห้ามเณรแอร์ไปทำพิธีกรรม ก็คงห้ามเขาไม่ได้
คนไม่เห็นด้วย?
ศรีสุวรรณ : ต้องไปร้องเรียนผู้ว่าฯ กระทำอย่างนี้เข้าข่ายความผิดหรือไม่
สนธิญา : ไม่น่ามีอะไรที่ให้เกิดความเสียหาย เป็นเรื่องความเชื่อ การขออนุญาตหรือไม่ไม่ใช่สาระที่นำมาเป็นประเด็นได้ แต่เข้าใจว่าผู้เอามาลงเขาคิดว่างมงาย ถ้าไม่เห็นด้วยประเด็นนี้ ไปสอบถามก่อนว่าจุดประสงค์ตรงนี้เพื่ออะไร ทำไปเพื่อจุดประสงค์อย่างไร ทำให้เกิดกำลังใจหรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้น อย่างไร
จตุรงค์ : แปลกใจสายร้องดูนิ่งๆ กันหมด ถ้าเป็นผมเป็นนักวิชาการก็คงคันปากอยากร้อง อย่างแรกเอางบประมาณมาจากไหน ใช้ถูกต้องหรือเปล่าตามระเบียบกรมบัญชีกลาง เพราะพวกพิธีพุทธาภิเษก มันมีการรองรับตามกฎหมาย ผมก็ไม่รู้กองคลังหรือคนเบิกจ่ายเงิน เขาใช้ระบบระเบียบราชการยังไง รองรับหมอผีร่างทรงต่างๆ ด้วยเหรอ ผมไม่รู้ระบบกระทรวงการคลัง ถ้ามาดูหน้างานสภาพแบบนี้ ผิดวัตถุประสงค์หรือเปล่า ทำพิธีเจริญพุทธมนต์ แต่ถึงเวลารทำพิธีเจริญหมอผี ถือว่าใช้เงินผิดวัตถุประสงค์มั้ย ต้องดูว่าเป็นงานของรัฐหรืองานภาคประชาชน ผู้ว่าฯ ก็ต้องมีคำตอบนะ เพราะถ้าบอกว่าเป็นงานประจำปีจังหวัด ต้องถามว่าเงินใคร เงินอบต. อบจ. เงินเอกชน ก็ต้องมาดูกัน ถ้าเงินรัฐบาลต้องดูว่าเขาขอเป็นอะไร อย่างนี้ไม่ใช่เจริญพุทธมนต์ เป็นพุทธาภิเษก ถึงถามว่าผิดประเภทหรือเปล่า
สนธิญา : เป็นเสรีภาพ
จตุรงค์ : (เกาหัว)
ศรีสุวรรณ : ถ้าหน่วยงานรัฐเป็นเจ้าภาพก็เป็นเรื่องทันที เอางบประมาณแผ่นดินมาใช้แบบนี้ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว คนเกี่ยวข้องซวยไปด้วย
สนธิญา : วิธีการแบบนี้มีทุกภาคเขาทำได้อยู่ภายใต้ความถูกต้องของกระบวนการกฎหมาย ถ้าไม่เดือดร้อนคนอื่นเขาทำได้หมดแหละในประเทศไทย
ไม่รู้ว่าวันนี้สังคมมองกับพี่ยังไง แต่ผมมองเป็นสีสัน?
ศรีสุวรรณ : ใช่สิ ผมชื่อศรีอยู่แล้ว
จะร้องต่อไปเรื่อยๆ?
ศรีสุวรรณ : ก็ทำหน้าที่ของเราไป
สนธิญา : ขออนุญาตกราบเรียนอีกครั้งว่าผมพลีตนเพื่อส่วนรวม ตามที่ถวายสัตย์
ศรีสุวรรณ : ที่บอกว่าผมหวังผลทางการเมือง อนาคตสมัครส.ส. หรือ ส.ว. ยืนยันว่าไม่มีทาง จะทำหน้าที่อย่างนี้เป็นตัวแทนชาวบ้านที่เดือดร้อนทั่วสารทิศ
สนธิญา : ลงการเมืองชัดเจน แต่พรรคไหนยังไม่ชัดเจน มีแสงหรือไม่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ