10 สาเหตุ “ตาแดง” แบบไหนหายได้เอง แบบไหนอันตราย

Home » 10 สาเหตุ “ตาแดง” แบบไหนหายได้เอง แบบไหนอันตราย
10 สาเหตุ “ตาแดง” แบบไหนหายได้เอง แบบไหนอันตราย

เมื่อเรามี อาการตาแดง เกิดขึ้น แน่นอนว่า จะมีคำถามที่มากมายจากคนรอบข้าง เช่น “ไม่สบายหรือเปล่า” “เสียใจเรื่องอะไร” “เมื่อคืนเมาหนักเหรอ” แต่จริงๆ แล้ว อาการตาแดง สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และบางครั้งก็เป็นอาการที่ที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่สำคัญเช่นกัน

โรคตาแดง เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา อันมาจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่มอาดิโนไวรัส ที่จะติดต่อได้โดยตรงผ่านการสัมผัสน้ำตาของผู้ป่วยมาที่นิ้ว แล้วมาสัมผัสที่ดวงตาของเรา ไม่มีการติดต่อกันทางการสบตา ทางการรับประทานอาหารด้วยกัน หรือแม้แต่ทางอากาศ โดยอาการของโรคตาแดงจะแสดงให้เห็นได้ภายใน 1 – 2 วัน มีระยะการติดต่อไปยังผู้อื่นประมาณ 14 วัน ติดต่อกันได้ง่ายทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่จะพบได้บ่อยในเด็กเล็กและเด็กวัยประถมศึกษา โรคตาแดง เป็นโรคที่ไม่มีความรุนแรง แต่หากปล่อยไว้นานเข้าไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มป่วย ก็อาจติดเชื้อแทรกซ้อนจนทำให้เกิดความพิการทางสายตาได้

Andrew Holzman แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก TLC Laser Eye Center ในแมรี่แลนด์ บอกว่า อาการตาแดงนั้น อาจจะเกิดจาก 10 สาเหตุต่อไปนี้

ตาแดงเกิดจากอะไร

  1. ตาแดงเพราะตาแห้ง

เมื่อตาแห้ง ก็จะเกิดความระคายเคืองและมีการอักเสบได้ และการอักเสบนี่เอง ที่ทำให้ตาแดง ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเรามีอายุมากขึ้น คือประมาณ 50 ปีขึ้นไป ก็จะมีอาการตาแห้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากยังอยู่ในวัยเด็ก หรือวัยหนุ่มสาว แล้วมีอาการดังกล่าว อาจจะเป็นเพราะการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป ในขณะที่เราดูจอคอมพิวเตอร์นั้น เรามักจะไม่กระพริบตา และนั่นก็เป็นสาเหตุให้ตาแห้ง

นอกจากนี้ ยังมีอาการอื่นร่วมได้อีกเช่น เคืองตา ปวดแสบปวดร้อน คันตา วิธีแก้ก็คือ ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อให้ความชุ่มชื้น และลดการอักเสบ ที่เป็นสาเหตุให้ตาแดง นอกจากนั้น เวลาดูจอคอมพิวเตอร์ ก็ให้กระพริบตาให้บ่อยขึ้น โดยใช้กฏ 20-20-20 นั่นคือ ในทุก ๆ 20 นาทีที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ให้หันไปมองอย่างอื่น ที่อยู่ห่างจากตัวเราออกไปประมาณ 20 ฟุต สัก 20 วินาที แต่หากทดลองวิธีที่แนะนำไปแล้ว อาการตาแดงยังไมดีขึ้น ก็ควรปรึกษาแพทย์ 

  1. ตาแดงเพราะมีอาการแพ้อากาศ

บางคนมีอาการแพ้ต่างๆ เกิดขึ้นตามฤดูกาล ที่สภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมมีความเปลี่ยนแปลงไป เช่นแพ้ละอองเกสรดอกไม้ แพ้หญ้า อาการเหล่านี้ทำให้ตาบวม แดง อักเสบได้ นอกจากนี้เมื่อเรามีอาการแพ้ เรามักจะคันตา เป็นเหตุให้ต้องขยี้ตา ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้อักเสบ และแดงมากขึ้นไปอีก

นอกจากอาการคัน และเคืองตาแล้ว อาจจะมีน้ำตาไหลได้ด้วย วิธีแก้ก็คือ ใช้ของเย็นๆ ปิดด้วยตาไว้ประมาณ 15 นาที ทำวันละหลาย ๆ ครั้ง หรืออาจจะปรึกษาแพทย์ เพื่อหาทางควบคุมอาการแพ้ เพื่อรักษาที่ต้นเหตุ 

  1. ตาแดงเพราะการใช้ยาบางชนิด

ยาแก้แพ้หรือยาต้านฮีสตามีน (antihistamine)ไม่ใช้ยาชนิดเดียว ที่ทำให้เราเกิดอาการตาแห้ง ยังมียาอีกหลายชนิดที่มีผลข้างเคียงดังกล่าว เช่น ยานอนหลับ ยาคลายเครียด หรือแม้กระทั่งยาแก้ปวด พวก ibuprofen ยาพวกนี้ ทำให้ตาแห้ง และแดง เพราะมันไปลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณเนื้อเยื่อรอบดวงตา วิธีแก้คือ การหยอดน้ำตาเทียม รวมทั้งอาจจะปรึกษาแพทย์ เพื่อลดผลข้างเคียงโดยปรับการใช้ยาบางอย่าง 

  1. ตาแดงเพราะนอนไม่พอ

การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนดึก ก็ทำให้ตื่นขึ้นมาตาแดงในตอนเช้าได้ เพราะตาก็ต้องการการปิดพักผ่อน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเช่นกัน กล้ามเนื้อดวงตา ก็ต้องการพัก หากไม่ได้พักอย่างเพียงพอ การโฟกัส ก็ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ วิธีการแก้ไขก็คือ ใช้น้ำตาเทียมช่วย และควรจัดเวลาสำหรับการนอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง 

  1. ตาแดงเพราะดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ก็ทำให้ตาแดง ไม่ใช่แค่ทำให้หน้าแดงเท่านั้น เพราะแอลกอฮอล์ ทำให้เส้นเลือดขยายตัว มีปริมาณเลือดไหลเวียนที่ดวงตามากขึ้น นอกจากนี้ยังอาจมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น ปวดศีรษะ ร่างกายขับน้ำ คลื่นไส้ วิธีแก้ ต้องใช้ยาหยอดตาชนิด eye whitening drop จะช่วยลดอาการได้ ภายใน 15 นาที 

  1. ตาแดงเพราะสูบบุหรี่

การสูบบุหรื่ ก็ทำให้ตาแดง เพราะบุหรี่จะไปบีบเส้นเลือดในดวงตา นอกจากนี้ ยังอาจจะเกิดอาการตาแห้งได้ด้วย อาการดังกล่าวนี้ หากเป็นไปในระยะยาว อาจจะส่งผลถึงขั้นทำให้สูญเสียการมองเห็น หรือตาบอดได้ วิธีแก้ก็คือ การเลิกบุหรี่ และพยายามอยู่ในที่ที่อากาศบริสุทธิ์ 

  1. ตาแดงเพราะติดเชื้อ

โรคตาแดงของจริงแล้วล่ะทีนี้ โรคตาแดงเกิดอาการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ที่ดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง โรคตาแดงนี้ แพร่กระจายไปติดคนอื่นได้ง่ายมาก เมื่อติดก็จะเกิดอาการอักเสบ ตาบวม แดง และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น ปวดแสบปวดร้อน น้ำตาไหล ตาปิด ไวต่อแสง โรคตาแดงหากเป็นแล้วต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา หากแพทย์ตรวจพบว่าเป็นไวรัส ก็อาจจะให้พักผ่อน 2-3 สัปดาห์ ให้ยาหยดตาเพื่อลดอาการ และรอให้เชื้อไวรัสนั้นหายไปเอง หากเป็นแบคทีเรีย ก็จะต้องใช้ยาหยอดตาแอนตี้ไปโอติก เพื่อรักษาอาการ 

  1. ตาแดงเพราะว่ายน้ำ

น้ำทะล มีความเค็ม ซึ่งนำไปสู่อาการตาแดงได้  ส่วนน้ำในสระว่ายน้ำ ก็มีสารเคมีอย่างคลอรีน ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองและตาแดงได้เช่นกัน วิธีแก้คือ ให้ล้างตาด้วยน้ำเกลือสำหรับล้างตา หรือใช้น้ำตาเทียมหยอดตา จะช่วยบรรเทาอาการได้ ที่สำคัญ ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ ไม่ควรใส่ลงน้ำ 

  1. ตาแดงเพราะเส้นเลือดในตาแตก

อาการดังกล่าวนี้ อาจจะเกิดขึ้นเพราะไอบ่อย มีแรงกดที่ตา มีโรคบางอย่าง หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุ อาการแบบนี้ มักไม่ทำให้เจ็บปวด เพียงแต่จะรู้สึกหนักๆ ที่ตาเท่านั้น และแก้ไขไม่ได้ ต้องรอให้ค่อย ๆ หายไปเอง ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ 

  1. ตาแดงเพราะใช้น้ำยาหยอดตาประเภท eye whitening drops มากเกินไป

น้ำยาหยอดตาประเภทนี้ อาจทำให้ปัญหาตาแดงยิ่งแย่ลงไปอีกหากใข้ไม่เหมาะสม เพราะมันไปลดปริมาณเลือดที่เข้ามาหล่อเลี้ยงบริเวณดวงตา  เมื่อหยอดตาแดงก็หายไป แต่เมื่อหยุด มันก็กลับมาใหม่ และอาจจะเกิดผลที่เรียกว่า rebound effect ทำให้ตายิ่งแดงมากขึ้นอีก ยาประเภทนี้ ไม่ควรใช้บ่อย หรือใช้เป็นประจำ หากนาน ๆ ใช้ทีก็จะไม่ก่อให้เกิดผลเสียแต่อย่างใด

  • 5 สัญญาณอันตราย ควรหยุดใส่ “คอนแทคเลนส์” ทันที
  • 5 สัญญาณอันตราย เสี่ยง “ต้อลม”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ