อย่างที่จำกันได้ในเดือนมกราคม 2007 iPhone ได้ลืมตาอ้าปากดูโลกและหลายคนเห็นมือถือรุ่นนี้พบว่ามันแปลกใหม่และน่าสนใจ แต่เวลาผ่านไปถ้าย้อนกลับมาดูแล้ว 10 สิ่งที่ใน iPhone ทั้ง Hardware และ Software หายไปจากมือถือปัจจุบัน มันมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน
10 ฟีเจอร์ที่ iPhone รุ่นแรกไม่สามารถทำได้
การคัดลอกและวาง (Copy and Paste)
เรื่องแรกถ้าจำกันได้ คือ การแตะหน้าจอที่ข้อความค้างไว้ของ iPhone ยังไม่สามารถคัดลอก (Copy) ข้อความ แล้วย้ายไปวางที่อื่น (Paste) ได้ แต่กว่าจะมีก็ต้องรอในปี 2009 ถึงจะใส่มา
กล้องหน้า
การถ่าย Selfie ในเวลาปี 2007 ยังไม่ได้เป็นที่นิยมรวมถึงเทคโนโลยี Video Call (Face Time) ก็ยังไม่มี ทำให้ iPhone รุ่นแรกเลยไม่มีกล้องหน้า และกว่าจะมีกล้องหน้าและเทคโนโลยี Face Time ก็ต้องรอจนถึง iPhone 4 ในปี 2010 เลยทีเดียว
App Store
ในยุคแรกของ iPhone จะมีเพียง Apps ที่จำเป็นเช่น ปฏิทิน, การโทร, เครื่องคิดเลข, แต่ยังไม่มีการพัฒนา Apps จนถึง กรกฎาคม 2008 App Store ก็ได้เปิดตัวและให้นักพัฒนาได้ทำ Apps ขึ้นมา แต่ยังมีข้อจำกัดอยู่เยอะ
ถ่ายวิดีโอไม่ได้!
iPhone รุ่นแรกที่เห็นกล้องด้านหลังนั้นทำได้เพียงแค่ถ่ายภาพนิ่งเท่านั้นกว่าจะถ่ายวิดีโอได้จริงๆ ต้องรอ iPhone 3GS ออกมาในปี 2009
ไฟฉาย
ใช่ครับ iPhone รุ่นแรกไม่มี LED Flash ทำให้ในยุคนั้นการพัฒนาให้นาจอเป็น Flash แทนก็ได้รับความนิยม จนกระทั่งรุ่นต่อว่าอย่าง iPhone 3G ก็ใส่ Flash มาแล้ว
Photo Message หรือ การส่งภาพในข้อความ
iPhone รุ่นแรกมาพร้อมกับเทคโนโลยีแค่ 2G เท่านั้น ทำให้รองรับการส่งแค่ข้อความ ซึ่งกว่าจะส่งรูปได้ก็ต้องรอถึง iPhone OS 3.0 ซึ่งใช้กับ iPhone 3G และ 3GS
GPS
แม้ว่า iPhone รุ่นแรกจะมีแผนที่นำทางหรือ Google Maps มาแล้วแต่ไม่สามารถใช้นำทางแบบ Turn by Turn ได้เพราะว่าไม่มีระบบ GPS กว่าจะมีก็ต้องรอใน iPhone 3G ในปี 2008 ออกมา
Wallpaper ใน Home Screen
iPhone รุ่นแรกจะมาพร้อมกับหน้าจอที่ล้ำมากในเวลานั้น แต่สังเกตไหมว่าพื้นหลังของมันไม่สามารถเปลี่ยนได้เพราะจะเป็นสีดำตลอด ซึ่งกว่าจะเปลี่ยนได้ก็ต้องรอ iOS 4 ที่มาพร้อมกับ iPhone 4 ถึงจะสามารถทำได้
หน้าจอ Retina Display
การมาของหน้าจอ Retina Display ใน iPhone 4 ที่เปิดตัวในปี 2010 ทำวให้กลายเป็นหน้าจอที่มีความละเอียดที่สุดในเวลานั้นและเมื่อเทียบกับ iPhone รุ่นแรก ก็จะพบว่าความละเอียดนั้นสูงแบบทิ้งหายไปเลย
3G
และเรื่องสุดท้ายจากที่บอกมาทั้งหมด iPhone รุ่นนั้นถูกตั้งชื่อว่า 2G ไปเลยเพราะการเชื่อมต่อสามารถรองรับเทคโนโลยี EDGE หรือ 2G เท่านั้นเอง
แต่ยังไงก็ปฏิเสทไม่ลงว่าถ้าไม่มี iPhone 2G ก็คงไม่มีมือถือในยุคปัจจุบันเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ