วิธีเลิกบุหรี่ ทำไงดี สำหรับใครที่ติดบุหรี่แล้วอยากเลิก จะมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้เลิกสูบบุหรี่ได้ มาดูวิธีการเด็ด ๆ ที่จะทำให้คุณค่อย ๆ ห่างจากนิโคตินกัน

          ใคร ๆ ก็ทราบดีว่าบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมามากมาย แต่หลายคนก็สูบบุหรี่เพื่อรับสารนิโคตินให้คลายความเครียด ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่รู้สึกอยากเลิกบุหรี่เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหาวิธีเลิกไม่ได้ กระปุกดอทคอมจึงมี 10 วิธีเลิกบุหรี่มาฝาก ทำตามนี้ เลิกสูบบุหรี่ได้แน่นอน

          นิโคติน หนึ่งในสารที่พบในบุหรี่ เป็นส่วนประกอบที่กระตุ้นการหลั่งสารโดพามีน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หากอาศัยนิโคตินเป็นตัวนำพาโดพามีนบ่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดการติดบุหรี่ในที่สุด และเมื่อสารโดพามีนหลั่งลดลงก็จะทำให้เกิดอาการอยากสูบบุหรี่นั่นเอง

          เป็นที่ทราบกันดีว่าการสูบบุหรี่เป็นประจำส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง มะเร็งปอด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนรอบข้างจากควันบุหรี่มือสองด้วย แถมยังทำให้เสียบุคลิกภาพอีก ดังนั้นการเลิกสูบบุหรี่จึงมีประโยชน์กว่ามาก ๆ

          หากใครที่รู้สึกว่าอยากเลิกบุหรี่ ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดู อาจช่วยให้เลิกบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด

          สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เลิกบุหรี่ได้ก็คือความตั้งใจ ยิ่งตั้งใจมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น โดยอาจจะกำหนดวันที่จะต้องเลิกได้อย่างถาวร หรือกำหนดเป้าหมายที่สร้างแรงบันดาลใจ เช่น เลิกบุหรี่เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกสาว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเลิกบุหรี่ให้สำเร็จได้ เป็นต้น

          เวลาคนเราจะทำอะไรสักอย่างต้องมีเหตุผล ซึ่งถ้าลิสต์เหตุผลดี ๆ ว่าทำไมถึงจะต้องเลิกบุหรี่มาเป็นข้อ ๆ และเหตุผลเหล่านั้นหนักแน่นพอ อาจทำให้มีไฟในการเลิกมากยิ่งขึ้น เช่น ต้องการปกป้องคนในครอบครัวจากควันบุหรี่มือสอง ห่วงสุขภาพตัวเอง กลัวการเป็นมะเร็งปอด โรคหัวใจ หรือไม่อยากแก่ ไม่อยากตายเร็ว ฯลฯ

          เมื่อหยุดสูบบุหรี่ การถอนนิโคตินอาจทำให้รู้สึกปวดหัว ส่งผลต่ออารมณ์ หรือบั่นทอนพลังงานได้ การหักดิบจึงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการใช้นิโคตินทดแทนจึงช่วยได้ โดยเดี๋ยวนี้มีทั้งหมากฝรั่งนิโคตินและแผ่นแปะนิโคตินที่จะช่วยเติมนิโคตินทดแทน ทำให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น

          สังเกตไหมว่า ถ้าว่าง ๆ นิ่ง ๆ คนติดบุหรี่มักหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ดังนั้นลองหากิจกรรมอื่น ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้สมองคิดว่าอยากจะสูบบุหรี่ อาจจะเป็นกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก ดื่มน้ำมาก ๆ หายใจลึก ๆ และทำสมาธิ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการอยากบุหรี่จะคงอยู่ประมาณครั้งละ 3-5 นาที แล้วก็สลายหายไป ดังนั้นลองอดทนและผ่านช่วงเวลานั้นให้ได้ด้วยการทำกิจกรรมอื่น ๆ แทน

          ปกติแล้วอาการอยากสูบบุหรี่มักจะมาในช่วงที่เกิดความเครียด ดังนั้นจึงควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ให้รางวัลตัวเองด้วยการไปนวด เข้าสปา วาดภาพ เล่นโยคะ และพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ตึงเครียดในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก หลังจากหยุดสูบบุหรี่

          บางคนสูบบุหรี่ควบคู่กับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มกาแฟ ดังนั้นลองหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นเหล่านั้นด้วย อาทิ หากเป็นช่วงที่กำลังเลิกบุหรี่อยู่ก็งดปาร์ตี้ไปก่อน, หากสูบบุหรี่ไปด้วย ดื่มกาแฟไปด้วย ก็ลองเปลี่ยนจากกาแฟเป็นชาดู จะได้ไม่ติดกับรสชาติและความเคยชินเดิม ๆ หรือหากมักจะสูบบุหรี่หลังมื้ออาหาร ให้หาอย่างอื่นทำแทน เช่น แปรงฟัน เดินเล่น หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง

          สมมติเกิดอาการอยากสูบบุหรี่ขึ้นมา ให้รอสัก 10 นาที อย่ารีบไปสูบเลยทันที ลองทำอะไรเบี่ยงเบนความสนใจก่อน เช่น ถ้าอยากสูบบุหรี่ ลองเดินไปคุยกับเพื่อน หรือหยิบงานบางชิ้นมาทำ หรือพยายามไปอยู่ในเขตปลอดบุหรี่นาน ๆ หน่อยก็ได้ เมื่อเวลาผ่านไปเกิน 10 นาที อาการอยากสูบบุหรี่ก็จะหายไป

          สมมติเกิดอาการอยากสูบบุหรี่ขึ้นมา ลองหาอะไรเคี้ยวเพื่อต่อต้านความอยากบุหรี่ เช่น เคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาล ลูกอมแข็ง หรือเคี้ยวแครอตดิบ ถั่ว หรือเมล็ดทานตะวัน อะไรก็ได้ที่กรุบกรอบแต่อร่อย จะช่วยลดความอยากบุหรี่ลงได้

          ลองคำนวณดูว่าเงินที่เสียไปกับค่าบุหรี่จะต้องเสียเดือนละเท่าไร นำเงินจำนวนนั้นเก็บออมเอาไว้ หรือหากหยิบบุหรี่มาสูบ 1 ครั้ง จะเสียค่าปรับให้ตัวเองเท่าไร โดยให้ทำไปจนกว่าจะเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาด เมื่อถึงตอนนั้นก็จะได้เงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งสามารถนำไปซื้อรางวัลให้ตัวเองได้อีกด้วย

          สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพ ทันทีที่หยุดสูบบุหรี่ คุณจะเริ่มได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพทันที หลังจากผ่านไปเพียง 20 นาที อัตราการเต้นของหัวใจจะกลับสู่ปกติ ระดับคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดจะกลับเข้าที่ภายใน 1 วัน หากเลิกสูบบุหรี่ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ ก็จะทำให้โอกาสในการเป็นโรคหัวใจวายน้อยลง และในระยะยาวก็จะลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดและมะเร็งอื่น ๆ อีกด้วย

          การเลิกบุหรี่แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจิตใจที่มุ่งมั่นแน่วแน่ มาเลิกบุหรี่ในวันนี้เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้างในวันหน้ากันดีกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก : nhs.uk, mayoclinic.org, webmd.com