10 วิธีดูแลสุขภาพจิตช่วงวันหยุดยาว เหงา อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน

Home » 10 วิธีดูแลสุขภาพจิตช่วงวันหยุดยาว เหงา อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน
10 วิธีดูแลสุขภาพจิตช่วงวันหยุดยาว เหงา อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน

ช่วงเทศกาลต่างๆ อาจทำให้เรารู้สึกเหงาอย่างหนัก แต่คุณไม่ได้รู้สึกแบบนี้เพียงลำพัง ไม่ว่าคุณจะอยู่ห่างไกลจากคนที่รัก หรือเลือกที่จะถอยออกมาเพื่อเหตุผลส่วนตัว หรือกำลังเผชิญกับการสูญเสียคนที่คุณรัก ความรู้สึกเหงาอาจทำให้คุณท้อแท้ได้ แต่ก็มีวิธีรับมือที่หลากหลาย และนี่คือ 10 วิธีดูแลสุขภาพจิตช่วงวันหยุดยาว

10 วิธีดูแลสุขภาพจิตช่วงวันหยุดยาว

1.ยอมรับความรู้สึกเหงา

รู้สึกเหงาเป็นเรื่องปกติ และการยอมรับอารมณ์นั้นก็สำคัญเช่นกัน ความเหงาเป็นเพียงแค่ความรู้สึกหนึ่งเท่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องผลักดันมันออกไปเพียงเพราะรู้สึกไม่ดี ความรู้สึกทุกอย่างให้ข้อมูลสำคัญแก่เรา แม้ว่าความรู้สึกเหงาอาจไม่ใช่อารมณ์ที่ดีที่สุดในโลก แต่การอยู่กับมันอย่างมีสติอาจช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าคุณต้องการอะไรในขณะนั้น คุณจะอยู่กับความรู้สึกเหงาได้อย่างไรโดยไม่หลงไปกับความคิดที่ไม่เป็นประโยชน์ การเขียนบันทึกความรู้สึกและความคิดของคุณเป็นวิธีที่ดีในการอยู่กับอารมณ์ของคุณ มันสามารถเป็นการปลดปล่อยทางอารมณ์ และช่วยให้สมองของคุณโล่งขึ้นเพื่อที่คุณจะได้คิดถึงวิธีการดูแลตัวเอง (Angela Ficken, LICSW)

2.อย่าไปสนใจโฆษณา

แน่นอนว่า มันคงจะดีถ้าชีวิตของเราเหมือนภาพในโปสการ์ด หรือในหนังที่เราเห็นครอบครัวมีความสุขในการทานอาหารค่ำวันขอบคุณพระเจ้า คู่รักเดินจูงมือกันในหิมะ หรือเด็ก ๆ ตื่นเต้นกับของขวัญวันคริสต์มาส แต่ความจริงแล้ว ชีวิตไม่ได้สวยงามอย่างนั้นเสมอไป คุณต้องเข้าใจว่าช่วงเทศกาลอาจจะวุ่นวาย อึดอัด ตึงเครียด หรือแย่กว่านั้น ถ้าคุณรู้สึกว่าช่วงเวลาเหล่านี้มันไม่เป็นอย่างที่คุณหวังคุณก็ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ปล่อยวางความคาดหวังที่ว่าเทศกาลจะต้องสมบูรณ์แบบ และลองสนุกไปกับมันในแบบที่เป็นอยู่ (Jennifer Teplin, LCSW, Founder and Clinical Director of Manhattan Wellness)

3.วางแผนล่วงหน้า

การวางแผนล่วงหน้าว่าจะรับมือกับความรู้สึกเหงาอย่างไรก่อนถึงช่วงเทศกาล จะช่วยให้คุณรู้สึกพร้อมรับมือกับความรู้สึกเหล่านั้นได้ตลอดช่วงเทศกาล แผนนี้สามารถรวมถึงรายชื่อคนที่คุณรู้ว่าสามารถติดต่อได้เมื่อรู้สึกเหงา สถานที่ที่คุณชอบไปเพื่อรู้สึกเชื่อมโยงกับผู้อื่น หรือกิจกรรมที่มักจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น การบันทึกไว้ในโน้ตของโทรศัพท์ หรือเขียนรายการนี้ลงบนกระดาษแล้วติดไว้บนตู้เย็น สามารถช่วยเตือนใจคุณถึงสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเทศกาลได้ (Ivy Seraphin, LCSW, Psychotherapist at Cobb Psychotherapy)

4.โทรหาเพื่อน

มีน้อยคนนักที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น แต่หลายคนเข้าใจดีว่ารู้สึกเหงาในช่วงเทศกาลเป็นอย่างไร การพูดคุยกับเพื่อนและแบ่งปันประสบการณ์ของคุณจะช่วยได้ หากคุณเปิดใจกับพวกเขา คุณจะมีคนที่สามารถโทรหา วิดีโอคอล หรืออยู่ด้วยกันได้ และเข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการ (Anastasia Brokas, LMFT)

5.ลดความคาดหวัง

ยิ่งคาดหวังมากเท่าไร ความกดดันก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น การจัดการความคาดหวังของตัวเองและคนรอบข้างสามารถช่วยได้อย่างมากในช่วงเวลาที่เรามีความคาดหวังสูง ช่วงเทศกาลต่างๆ เพิ่มความเครียดในการเข้าสังคมกับคนอื่นๆ หรือใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารักเป็นอย่างมาก จงมีความสมเหตุสมผลกับสิ่งที่คาดหวังจากตัวเองและยอมรับข้อจำกัดของตนเอง ปีที่ผ่านมา (หรือสองปีที่ผ่านมา) เป็นปีที่ยากลำบากและหนักหน่วงเป็นพิเศษ ดังนั้น จงทำในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวคุณเองที่สุด หากช่วงเทศกาลนี้ไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการ ก็ไม่เป็นไร คุณกำลังทำดีที่สุดแล้ว ( Sarah Breen, LMSW Cobb Psychotherapy)

6.อยู่ท่ามกลางผู้คน

ไม่จำเป็นว่าคุณต้องเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับใคร แต่แค่การอยู่ใกล้ๆ ผู้คนก็สามารถช่วยลดความรู้สึกเหงาได้ ลองหาสถานที่สาธารณะที่คุณรู้สึกสบายใจ แล้วอาจจะนำหนังสือไปอ่าน หรือกาแฟสักแก้วไปดื่ม พยายามหาที่นั่งในสวนสาธารณะที่คึกคัก แล้วลองนั่งฟังเสียงของผู้คนและธรรมชาติรอบตัว คุณอาจจะยังรู้สึกเหงาอยู่บ้าง แต่คุณจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวเพียงลำพัง (Kailey Hockridge, MA, EdM, LPCC)

7.เตรียมพร้อมด้วย ‘การรับมือล่วงหน้า’

มีทักษะอย่างหนึ่งที่ลูกค้าบางคนของฉันพบว่ามีประโยชน์ เรียกว่า ‘ทักษะการรับมือล่วงหน้า’ (cope ahead) วัตถุประสงค์ของทักษะนี้คือเพื่อให้เราสามารถคิดล่วงหน้าว่าจะเตรียมตัวอย่างไรเพื่อลดความเครียดได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจคิดว่า ‘เทศกาลต่างๆ กำลังจะมาถึง และฉันไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้ในปีนี้ ดังนั้นฉันรู้ว่าฉันจะรู้สึกเหงา ซึ่งจะนำไปสู่การเก็บตัว ฉันวางแผนที่จะเตรียมตัวต่อจิ๊กซอว์ เตรียมอาหารเทศกาลไว้ปรุง และโทรหาลูกพี่ลูกน้องเพื่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบ’

เมื่อคุณมีแผนแล้ว ให้ฝึกซ้อมในใจของคุณจนกว่าคุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ยิ่งคุณฝึกซ้อมแผนของคุณมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งรับมือได้ดีขึ้นเท่านั้น ( Stephanie Longtain, LCSW)

8.สร้างบั๊กเก็ตลิสต์สำหรับช่วงเทศกาล

ลองสร้างบั๊กเก็ตลิสต์สำหรับช่วงเทศกาลนี้สิ เพิ่มกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่คุณอยากจะทำลงไป ไม่ว่าจะเป็นใกล้บ้านหรือไกลบ้าน แล้วก็ลงมือทำเลย! อยากทำเทียนเอง? ลงชื่อสมัครเลย! อยากไปดูไฟประดับสวยๆ? ลองหาทัวร์ดู หรือจะจัดทัวร์เองก็ได้นะ อยากไปทานอาหารอร่อยๆ หรือของหวานธีมเทศกาลในร้านอาหารหรูๆ? ปฏิบัติต่อตัวเองซะเลย (Sarah F. O’Brien, LCSW, LCSW-C, CCATP, CTMH, Thrive & Shine Counseling)

9.สร้างกิจวัตรประจำวันด้วยกิจกรรมระดับพลังงานสูงและต่ำ

สำรวจสิ่งที่คุณสนใจและทำให้คุณมีส่วนร่วม แล้วจึงกำหนดเป็นกิจวัตรประจำวัน โดยควรทำก่อนช่วงเทศกาลเพื่อให้คุณมีเวลาปรับตัว สิ่งนี้สามารถเป็นการเริ่มต้นงานฝีมือที่คุณอยากลอง ทำรายการร้านกาแฟที่น่าสนใจ เล่นวิดีโอเกม ทำรายการอาหารที่คุณอยากลองทำ เดินเล่นหลังเลิกงาน เป็นต้น

หากคุณมีปัญหาในการสร้างกิจวัตร ลองสร้างเมนูของสิ่งที่คุณสามารถทำได้ และแบ่งออกเป็นกิจกรรมระดับพลังงานสูงและต่ำ ด้วยวิธีนี้ เมื่อคุณรู้สึกเหงาและขาดแรงจูงใจ มันจะใช้พลังงานน้อยลงในการคิดถึงสิ่งที่ต้องทำ สิ่งสำคัญคือคุณต้องตัดสินใจว่าพลังงานสูงและต่ำหมายถึงอะไรสำหรับคุณ และกิจกรรมเหล่านั้นรู้สึกน่าสนใจจริงๆ ไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณรู้สึกว่า ‘ควร’ รวมไว้ สิ่งที่ผู้คนพบว่ามีประโยชน์และช่วยลดความเครียดของกิจวัตรคือการ “ซ้อน” กิจกรรม เช่น การวางแผนที่จะทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่กำหนดกรอบเวลาเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละกิจกรรม ( Linh Trần MSW, LSWAIC, Always Room For You Therapy)

10.เชิญชวนเพื่อนและครอบครัวเข้าร่วมการพบปะแบบเสมือนจริง

กำหนดเวลาเพื่อ “พบปะ” กับคนที่คุณรักแบบเสมือนจริงผ่านการโทรวิดีโอ แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Zoom, Skype หรือ FaceTime ช่วยให้คุณสามารถเห็นหลายๆ คนพร้อมกันได้ คุณยังสามารถตั้งธีมสำหรับการพบปะของคุณ เช่น ปาร์ตี้ “เสื้อคริสต์มาสสุดเห่ย” หรือ “คืนคาราโอเกะวันหยุด” เว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Jackbox Games, Tabletopia หรือ Board Game Arena ช่วยให้คุณเล่นเกมกระดานกับเพื่อนหรือแม้แต่คนแปลกหน้าทั่วโลกได้แบบเสมือนจริง แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Kast หรือ Teleparty (เดิมคือ Netflix Party) ช่วยให้ผู้คนสามารถรับชมภาพยนตร์พร้อมกันและแชทระหว่างการรับชมได้ (Nilou Esmaeilpour, MSc, RCC, Lotus Therapy)

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ