10 วิธีลดอาการอยากของหวาน สำหรับลดความอ้วน

Home » 10 วิธีลดอาการอยากของหวาน สำหรับลดความอ้วน
10 วิธีลดอาการอยากของหวาน สำหรับลดความอ้วน

กฎข้อแรกๆ ของการลดความอ้วนที่ใครๆ ต่างก็ทราบดี คือการลดการทานของหวาน ศัตรูตัวฉกาจของร่างกายที่ความอร่อยสวนทางกับประโยชน์ที่ได้รับ หากเราเผลอตัวเผลอในทานเข้าไปมากๆ นอกจากมันจะลงมากองอยู่ที่พุง ต้นขา ต้นแขน แล้ว ยังก่อให้เกิดโรคอีกมากมาย เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง เส้นเลือดอุดตัน และอื่นๆ อีกมากมาย

เพราะฉะนั้น ถ้าใครรู้ตัวว่าชอบของหวานมากจนไม่สามารถหักห้ามใจได้ มาอ่านเคล็ดลับช่วยลดความอยากของหวานกันเถอะ ท่องไว้ว่า ถูกปากแต่อาจไม่ถูกใจ แต่เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เราต้องทำ!

 

  1. ลดหรือเลิกกาเฟอีน ซึ่งมีผลต่อระดับน้ำในเลือด และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณอยากกินของหวาน
  2. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน บางครั้งการอยากกินหวานเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่า ร่างกายกำลังขาดน้ำ ให้ลองดื่มน้ำเปล่าสักแก้ว (อาจผสมน้ำมะนาวสด หรือน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลประมาณ 1 ช้อนชา) แล้วรอสักครู่ เพื่อดูว่ายังอยากกินของหวานอยู่หรือไม่ นอกจากนี้การดื่มน้ำสะอาดปริมาณเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ ยังช่วยลำไส้กำจัดแบคทีเรียชนิดไม่ดีออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
  3. กินผักที่มีรสหวานเป็นประจำ เช่น หัวหอม แครอท ฟักทอง มันหวาน แม้กระทั่งหัวไชเท้า เมื่อต้มในน้ำซุปยังมีรสหวาน การกินผักที่มีรสหวานเป็นประจำจะช่วยลดความอยากของหวานได้
  4. หลีกเลี่ยงอาหารผ่านกรรมวิธี อาหารที่มีสารเคมี และน้ำตาลสูง รวมถึงสารให้ความหวานแทนน้ำตาลอื่นๆ ด้วย
  5. เพิ่มความกระฉับกระเฉงให้ร่างกายด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ อาจเริ่มด้วยกิจกรรมง่ายๆ เช่น เดิน หรือฝึกโยคะ เริ่มต้นในระยะเวลาสั้นๆ เช่น 15 นาที แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มเวลา การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยรักษาสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า จึงมีส่วนช่วยลดการกินของหวานเพื่อคลายเครียด

    exerciseiStock

  6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และรู้จักผ่อนคลาย คนส่วนใหญ่มักใช้น้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานที่เร่งด่วน โดยเฉพาะในยามที่รู้สึกเครียด อ่อนล้า หรือขาดพลังงานทั้งร่างกาย และจิตใจ ดังนั้นหากคุณเป็นคนติดหวาน ให้ลองถามตัวเองว่าอดนอน หรือมีความเครียดหรือไม่
  7. พิจารณาปริมาณเนื้อสัตว์ที่ทานอยู่เป็นประจำ การทานเนื้อสัตว์มากเกินไป หรือน้อยเกินไป ทำให้เกิดการอยากของหวานได้ หมั่นสังเกต และปรับหาปริมาณที่สมดุล
  8. ควรเลิกกินผลิตภัณฑ์จำพวกปราศจากไขมัน หรือไขมันต่ำ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีปริมาณน้ำตาลสูง เพื่อทดแทนรสชาติ และไขมันที่หายไป
  9. ลองใช้เครื่องเทศต่างๆ ในการปรุงอาหาร เครื่องเทศบางชนิด เช่น อบเชย ลูกจันทน์เทศ ลูกกระวาน หรือการพลู ช่วยทำให้อาหารมีรสหวานขึ้นโดยธรรมชาติ
  10. ฝึกใช้ชีวิตให้ช้าลง และเติมความหวานในชีวิตด้วยสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร ลองพิจารณาดูด้านต่างๆ ของชีวิตว่าคุณรู้สึกเติมเต็ม หรือขาดหายไปไหม เมื่อชีวิตคุณหวานชื่นขึ้น อาการอยากของหวานจะหายไป

 

ข้อสุดท้ายนี้น่าสนใจ ต้องลองพิจารณาตัวเองดีๆ ว่าเราอยากของหวาน เพราะชีวิตของเราขาดความสุข ความหวานชื่น ความสดใสกระปรี้กระเปร่าในชีวิตหรือเปล่า อย่างเพื่อนๆ รอบตัวของเรามักชอบพูดว่า “เครียดๆ แบบนี้ เย็นนี้ไปกินบิงซูกันดีกว่า” มีความเป็นไปได้ว่าเราอยากความหวานเพื่อช่วยเติมเต็มความสุขในชีวิต แต่หากเรากินดีอยู่ดีไม่มีความเครียด เราอาจไม่จำเป็นที่จะต้องคอยเติมของหวานลงกระเพาะเลยก็ได้นะคะ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ